“ถ้าจะวิ่งทำรอบ วิ่งระยะสั้นๆ ดีกว่า สำหรับคนที่อยากทำยอดนะ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเงินวิ่งยาวเงินมันดีกว่า”
คุณต๋อย – ธนัญชัย สุภาพ อดีตพนักงานบริษัทที่เปลี่ยนมานั่งทำงานหลังพวงมาลัย บริการผู้โดยสารด้วยความภาคภูมิใจในอาชีพแท็กซี่มานานกว่า 21 ปี คุณต๋อยจะมาแนะนำวิธีใช้แอพฯ ทุกเจ้าในตลาดพร้อมกันอย่างไรโดยที่ไม่พลาดสักคิวงาน
หมดยุควิ่งรถหาลูกค้า
“วิ่งแท็กซี่แรกๆ ถ้าไม่วิ่งหาผู้โดยสารก็ต้องรับงานผ่านศูนย์วิทยุ ดีที่สุดในยุคนั้นแล้วดีกว่าวิ่งหาสะเปสะปะ มันมีข้อมูลแน่นอน ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลคนขับ เซฟทั้งเราทั้งผู้โดยสาร แต่ยุคมันเปลี่ยนแล้วอะนะ ตอนนี้ใครๆ ก็ใช้แอพฯ พูดถึงมันก็ช่วยได้เยอะ เมื่อก่อนก็ไม่รู้หรอกใช้ยังไง แต่พอใช้เป็นทีนี้ก็คล่องแล้ว รู้ระบบแล้ว ทุกวันนี้รับงานแทบไม่ได้รับลูกค้าขาจร รับผ่านแอพฯ ประมาณ 80% ทั้ง LINE MAN TAXI แล้วก็แอพฯ อื่นๆ”
เปิดแอพฯ ปุ๊บลูกค้าก็มา
“เมื่อก่อนแท็กซี่ยังมีน้อย มันก็กระจายรายได้กันไม่เยอะหรอก หลังๆ แท็กซี่เยอะขึ้น คู่แข่งเยอะขึ้น แย่งรายได้กัน ถ้าวิ่งหาก็ยากขึ้น แต่พอมีแอพฯ มันสะดวกเลย เปิดเครื่องปุ๊บงานขึ้นเราก็ไปตามนั้นเลย ใครมีแอพฯ ก็หาผู้โดยสารง่ายขึ้นจะว่าแบบนั้นก็ได้ เดี๋ยวนี้น้อยมากที่แท็กซี่จะไม่ใช้แอพฯ ใครๆ ก็มีโทรศัพท์ มีแอพฯ ก็เหมือนมีตัวช่วย ไม่ต้องวิ่งหาลูกค้า ลูกค้าเรียกเราให้ไปหาเอง”
ใช้ทุกแอพฯ พร้อมกันแต่ยังกดรับงาน LINE MAN TAXI ได้ขั้นต่ำ 10 งานต่อวัน
“วันๆ หนึ่งวิ่งรถขั้นต่ำ 8 – 10 รอบ ถ้าวันไหนผู้โดยสารไปสั้นๆ ประมาณ 4-5 กิโล มันก็ทำรอบได้ ถ้าวิ่งยาวๆ ก็อาจจะได้ 8 รอบต่อวัน ถ้าจะวิ่งทำรอบ วิ่งระยะสั้นๆ ดีกว่า สำหรับคนที่อยากทำยอดนะ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเงินวิ่งยาวเงินมันดีกว่า แต่จริงๆ มันก็เลือกไม่ได้หรอก แต่ช่วงนี้ลูกค้าเรียกใช้ LINE MAN TAXI เยอะเพราะใช้โปรฯ TAXIFIRST100 ผมว่าพอมีโปรโมชั่นผู้โดยสารก็อยากใช้ ผมก็จะดูว่าช่วงไหนแอพฯ ไหนมีโปรก็จะรับเยอะหน่อย แต่หลักๆ คือต้องทำสม่ำเสมอ รับทุกงาน ให้คิดว่าเป็นโอกาส ทุกครั้งที่เรียกเป็นเงินทั้งนั้น”
ลูกค้าหลายอาชีพ หลายรูปแบบ เหมือนได้มุมมองใหม่ๆ ทุกวัน
“เป็นคนขับแท็กซี่ทำให้เจอลูกค้าหลายรูปแบบ หลายอาชีพ บางทีฟังเขาคุยกันเราก็ได้มุมมองใหม่ๆ จากเรื่องที่เขาคุยกัน ทำให้เรามองไกลขึ้น บางครั้งเจอพระก็ให้พร ลูกค้าบางคนก็ให้ข้อมูล ให้ทัศนคติอะไรหลายอย่าง ตอนทำงานเป็นเสมียนมันก็ทำงานเดิมๆ ทุกวันอะนะ เจอสังคมเดิม พอเจอยุคฟองสบู่แตกเขาจ้างออกได้เงินมาก้อนหนึ่งเลยไปดาวน์แท็กซี่ ตอนนั้นคิดแค่ว่า ขับแท็กซี่มันอิสระดี ไม่ต้องลงทุนมาก ทำไปทำมา 21 ปี คิดดูสิผมได้เจอคนมากี่คนแล้ว”
กำหนดชีวิตตัวเองได้
“ผมวิ่งรถทุกวัน แต่ผมตั้งเวลาให้ตัวเอง เช่น วันนี้อาจจะวิ่ง 10 ชั่วโมง พรุ่งนี้วิ่ง 5 ชั่วโมง เรากำหนดเองได้ อย่างเสาร์ อาทิตย์จะวิ่งแค่ 4 ชั่วโมง เอาเวลาไปพักผ่อนบ้าง อยู่กับครอบครัว ถ้าเทียบกับชีวิตตอนทำงานเป็นลูกจ้าง ขับแท็กซี่อิสระกว่าเยอะ ไม่ต้องโดนจ้ำจี้จ้ำไช”
ทำงานบริการต้องใจเย็น อยู่ให้เป็นต้องรู้จักปล่อยวาง
“แรกๆ เป็นคนใจร้อน เจอลูกค้าพูดจาไม่ดีก็โมโหเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ใจเย็นขึ้นเยอะ ก็คิดว่ามันเป็นงานบริการ ต้องใจเย็น ต้องปล่อยวาง ลูกค้าลงรถไปก็จบ เดี๋ยวก็มีลูกค้าคนใหม่ขึ้นมา ผู้โดยสารขึ้นรถมาร้อยพ่อพันแม่ บางคนมาแบบอารมณ์แรงๆ วันหนึ่งๆ เจอลูกค้า 10 กว่าราย เจอคนไม่เหมือนกัน บางรายทำเหมือนเราเป็นคนรับใช้ แต่คนที่เข้าใจอาชีพเราก็มี วันไหนลูกค้าชมก็มีกำลังใจ ส่วนมากลูกค้าจะขอบคุณที่ผมพาไปทางลัด ถึงเร็ว หนีรถติดได้”
“เวลาเขาขอบคุณก็รู้สึกดีนะ เพราะเราบริการเขาดีเขาถึงชม ถ้าเราบริการเขาไม่ดีเขาใส่อารมณ์กลับมาอันนี้มันต้องยอมรับ ถ้าอยากได้คำชมก็ต้องทำให้ดี”