มาลองทำแบบฝึกหัดเรื่องหนัง
ข้อ 1 เป็นฉากตื่นเต้นเร้าใจ พระเอกสู้กับคนร้ายโขยงใหญ่ ช่วยนางเอกออกมาได้ คนร้ายไล่ตามมาติด ๆ พระเอกกับนางเอกวิ่งหนีคนร้าย
ทายซิว่าข้อไหนถูก
ก. พระเอกจูงมือนางเอกวิ่ง
ข. พระเอกจูงมือนางเอกวิ่ง
ค. พระเอกจูงมือนางเอกวิ่ง
เก่งจังเลย ทายถูก !
ข้อ 2 ในฉากจบเรื่องเมื่อพระเอกคนเดียวฆ่าผู้ร้ายหลายร้อยคนแล้ว ทายซิว่าข้อไหนถูก
ก. รถตำรวจแห่กันมาเป็นขบวน
ข. รถตำรวจแห่กันมาเป็นขบวน
ค. รถตำรวจแห่กันมาเป็นขบวน
ก็ทายถูกอีกแล้ว
ข้อ 3 ทอม ครูซ หนีคนร้ายอย่างไร ?
ก. วิ่งหน้าตั้ง
ข. วิ่งหน้าตั้ง
ค. วิ่งหน้าตั้ง
เก่งจังเลย ทายถูกอีกแล้ว
ข้อ 4 ถ้าพระเอกดวลปืนกับคนร้าย ทายซิว่าข้อไหนถูก
ก. พระเอกกับคนร้ายถือปืนจ่อหัวกันและกัน
ข. พระเอกกับคนร้ายถือปืนจ่อหัวกันและกัน
ค. พระเอกกับคนร้ายถือปืนจ่อหัวกันและกัน
ฯลฯ
ตัวอย่างข้างต้นนี้เป็นคำอธิบายคำว่า คลีเช่ (Cliche) ในวงการสร้างสรรค์
คลีเช่ คือแนวคิดหรือองค์ประกอบที่ใช้ซ้ำซาก จนกลายเป็นความน่าเบื่อ เช่น เมื่อหัวหน้าคนร้ายจับ เจมส์ บอนด์ ได้ทีไร ก็ต้องอวดว่าอาวุธร้ายของตนเป็นอะไร และสาธิตให้ดู จนพระเอกมีเวลาหนีออกมา
เราเห็นภาพเหล่านี้เสมอ : พระเอกกับคนร้ายยิงกันสักชุด แล้วหยุดพูดพร้อมกัน มักตะโกนข้ามห้องกัน แล้วยิงต่อ แล้วหยุดเพื่อพูดอีก แล้วยิงกันต่อ
ถ้าเป็นหนังฮีโรช่วยกอบกู้โลก ก็มักมีภาพสโลว์โมชั่นของกลุ่มพระเอกเดินช้า ๆ หากล้อง ให้ความรู้สึกว่านี่คือคนกลุ่มที่กำลังจะไปช่วยโลก
ถ้าเป็นหนังจีนกำลังภายในก็มักมีฉากต่อสู้ในโรงเตี๊ยม พังโต๊ะเก้าอี้ เป็นประจำ ไม่ค่อยคุยกันดี ๆ ถ้าคุยจบก็มักกระโดดขึ้นฟ้าเพื่อแสดงว่ามีวิชาตัวเบา ทั้งที่เดินไปก็ได้ สร้างบ่อยจนกลายเป็นคลีเช่ไป
หนังฮอลลีวูดไม่น้อยพยายามสร้างความลึกให้ตัวละคร เช่น ให้พระเอกมีปัญหาส่วนตัว ซึ่งก็มักมีทางเลือกซ้ำ ๆ กัน เช่น
พระเอกเลิกกับเมีย มีฉากไปเยี่ยมลูกจากเมียเก่า เธอแต่งงานอยู่กับสามีใหม่ เขาไปรับลูกหรือไปส่งลูก พบกันอาทิตย์ละครั้ง และดูเหมือนเขาจะผิดนัดกับลูกเสมอ
ถ้าพระเอกเป็นตำรวจ ก็มักมีปมปัญหา เช่น ติดเหล้า
ถ้าพระเอกเป็นนักบิน ก็มักมีปมกลัวเครื่องบินถูกยิงตก เพราะเคยถูกยิงตกมาแล้ว
ถ้าพระเอกเป็นนักดนตรี ก็มักติดยา
นี่คือความพยายามสร้างมิติหรือความลึกให้ตัวละคร ซึ่งช่วยทำให้เรื่องไม่แบน แต่เนื่องจากองค์ประกอบเหล่านี้ซ้ำกันบ่อยมาก มันจึงแบนเหมือนเดิม
……………………………………………………..
บางครั้ง Cliche เกิดจาก Typecast
Typecast คือการมอบบทเดิม ๆ ให้นักแสดง มักตามภาพติดตาจากหนังเรื่องก่อน ๆ
นักแสดงบางคนเล่นเป็นวายร้ายรัสเซียทุกเรื่อง บางคนก็จับจองบทคนร้ายชาวตะวันออกกลาง
นักแสดงที่รับบทเดิม ๆ ย่อมทำให้คนดูเกิดความรู้สึกว่าคลีเช่ แม้ว่าเรื่องนั้นอาจจะไม่ซ้ำซาก
ยกตัวอย่างเช่น เจสัน สเตธัม หรือ ‘The Rock’ ดเวน จอห์นสัน เล่นหนังกี่เรื่อง ๆ ก็มีบุคลิกเดิม
อาจเพราะผู้สร้างเห็นว่าคนดูชอบแบบนี้ เราจึงคงไม่ได้เห็น ดเวน จอห์นสัน เล่นหนังแนว Tearjerker ร้องไห้น้ำตาท่วมโรง เพราะอกหัก
นักแสดงที่ไม่อยากจมในหล่มคลีเช่จึงมักรีบออกจากบท Typecast โดยเร็ว ยกตัวอย่าง เช่น ฌอน คอนเนอรี เล่นหนัง เจมส์ บอนด์หลายเรื่อง และรีบออกมาจากบทนั้นก่อนที่คนดูจะจดจำเขาอย่างนั้น
แต่ไม่ใช่นักแสดงทุกคนมีอำนาจที่จะเลือกเช่นนั้น นักแสดง อีริค รอเบิร์ตส์ เคยบอกขำ ๆ ว่า เขารับบทร้ายตลอดชีวิต เพราะไม่มีใครยอมให้บทฝ่ายดีให้เขา ดังนั้นเพียงเห็นหน้าเขาในฉากแรก เราก็รู้แล้วว่าเขาเป็นคนร้าย
นักแสดงไทยเช่น ดามพ์ ดัสกร, พิภพ ภู่ภิญโญ, กฤษณะ อำนวยพร, ฤทธิ์ ฤาชา ฯลฯ ก็รับแต่บทตัวร้ายเสมอ
เหล่านี้คือคลีเช่ในหนัง ดูจบก็แล้วกันไป แต่คลีเช่ในชีวิตจริงต้องระวังกว่า
เราควรถามตัวเองเป็นระยะ ๆ ว่า ชีวิตเราเป็นคลีเช่หรือเปล่า
ทำเรื่องเดิม ๆ แบบเดิม ๆ
ถ้าทำเรื่องเดิม ๆ แล้วมีความสุข ก็ไม่เป็นไร แต่หากเริ่มรู้สึกว่าชีวิตเป็นคลีเช่ ก็อาจต้องพิจารณาแก้ไข
เริ่มที่เลิกรับบท Typecast ที่เราเป็นผู้กำหนดเอง
………………………………………………………………
วินทร์ เลียววาริณ
ความเห็น 6
ปัญหาทุกอย่างย่อมสามารถที่จะแก้ไขให้ไปในทางที่ถูกต้องได้เสมอ ขอเพียงให้คิดพิจารณาถึงในหลักของความเป็นจริง.
06 เม.ย. 2563 เวลา 13.22 น.
plzcallmetaeng
วงการบันเทิงของไทยก็เหมือนกัน ยื่นแต่บทเดิมๆ ให้นักแสดงคนเดิมเล่น จนกลายเป็นภาพจำที่ล้างไม่ออก ชนิดที่ว่าบางทีเห็นหน้านักแสดงคนนั้นในฉากที่ดูอยู่ ก็รู้ว่าเค้าจะแสดงออกมายังไงแล้ว โดยที่เค้ายังไม่เปลี่ยนสีหน้าและอ้าปากพูดเลยด้วยซ้ำ (เรียกว่าเริ่มจับทางได้แล้ว)
06 เม.ย. 2563 เวลา 03.02 น.
Tini Khaoyai
ชอบคนเขียนคนนี้ ตั้งแต่ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน 🙃
06 เม.ย. 2563 เวลา 12.48 น.
Surapun
อิจฉาต้องเเสยะปาก ทำหน้าคิ้วขวดบิดเบี้ยว มองหางตาใส่ .. คลีเซ่น้ำเน่าเดิมๆของหนังไทย นางเอกถูกใส่ร้ายร้องให้ท่วมจอ พระเอกแสนโง่ไม่เคยเห็นความดีของนังบีบน้ำตาที่แสนดี .. ตอนจบ พระเอกโง่ๆแสนดีกลับเป็นร้อยตำรวจเอก .. เห้อ กูจะอ้วก
06 เม.ย. 2563 เวลา 06.45 น.
ยุทธการ โกษากุล 966
เหมือน"ทหารบก"ชอบเล่นบท"นักรัฐประหาร"ใช่มั้ยครับ?
06 เม.ย. 2563 เวลา 23.20 น.
ดูทั้งหมด