Hello! everyone. Thai Tea is Back! ปรบมือรัว ๆ ให้กับการกลับมาอีกครั้งของรายการแข่งขันที่แซ่บที่สุดใน 3 โลก Drag Race Thailand Season 3 ที่ครั้งนี้บรรดาเหล่านางฟ้า ตัวแม่ ตัวมัม ทั้งหลายจากทุกสารทิศ พร้อมมาปล่อยของกันแบบจัดเต็ม เริ่ม EP แรกไปแล้ว ไปส่องความสนุกกันเลยดีกว่า
Relate article
รู้จัก ‘รูพอล ชาร์ลส์’ ราชินีผู้สร้างสรรค์ความสนุกของรายการ “RuPaul’s Drag Race”
My Sibling’s Romance รายการเดทจากเกาหลี ที่อบอวลไปด้วยความรัก…ฉบับพี่น้อง
Spoiler Alert!!! บทความนี้อาจมีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญบางส่วนจากในรายการ
Lifestyle Asia rating: 5/5 (คะแนนเต็มจาก LSA เพื่อเฉลิมฉลองในวาระของการมีกฏหมายสมรสเท่าเทียมในเมืองไทย สิทธิความเท่าเทียมของมนุษย์)
ประเภท: รายการแข่งขันความสามารถของชาว LGBTQ+ ที่ใช้ศิลปะในการแต่งตัว แต่งหน้า ทำชุด ที่เรียกว่า ‘Drag Queen’ โดยมีต้นฉบับจาก RuPaul’s Drag Race สร้างสรรค์ผ่านชาเลนจ์ต่าง ๆ เช่น การทำชุดความคิดสร้างสรรค์ตามโจทย์ต่าง ๆ ในแต่ละสัปดาห์ การแสดง การเต้น และการลิปซิงค์
ผู้เข้าแข่งขัน:
- Benze Diva
- Frankie Wonga
- Gawdland
- Gigi Ferocious
- Kara Might
- Nane Sphera
- Shortgun
- Siam Phusri
- Spicy Sunshine
- Srirasha Hotsauce
- Zepee
Host: Pangina Heals
จำนวนตอนทั้งหมด: 10
ความยาวต่อตอน: ประมาณ 1 ชั่วโมง
ดูได้ที่ไหน: Website / Youtube: WOWPresents
ดูได้เมื่อไหร่: 16 ตุลาคม 2567
เราชอบอะไรในรายการนี้
นับตั้งแต่ซีซัน 1 เมื่อหลายปีก่อน เราได้เป็น Drag Superstar ถือกำเนิดขึ้นมากมายในไทย เป็นการแนะนำและเปิดโลกให้เรารู้จัก ศิลปินประเภทนี้ ที่หลายคนอาจจะเข้าใจเพียงแค่ว่าคือการที่ผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิงเท่านั้น นี้คือการแสดงที่มองข้ามเรื่องเพศสภาพออกไป เป็นการเชื้อเชิญทุกคนทั่วโลกมาร่วมเฉลิมฉลองความเท่าเทียมทางเพศไปด้วยกัน
เราไม่ชอบตรงไหน
จาก EP แรก เราขอแนะนำเรื่องระบบเสียงแล้วกัน เพราะมีบางช่วงที่เสียงกรรมการลอยไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ อีกส่วนคงเป็นความคาดหวังของผู้ชมเอง ที่รอคอยมานานหลายปี หลังจากจบซีซั่น 2 นั้นคือพัฒนาการ ความสามารถของเหล่าผู้เข้าแข่งขันทุกคน เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่มาตรฐานก็ต้องยกสูงขึ้นไปในทุก ๆ ปี สำหรับตอนแรก เรายังไม่ได้เห็นใครที่เฉิดฉายแววความเป็นควีนสักเท่าไหร่ แต่ก็รอให้กำลังใจในชาเลนจ์ต่อ ๆ ไป
เนื้อหารายการ
‘RuPaul’s Drag Race’ คือปรากฏการณ์ที่สั่นสะเทือนวงการทีวี และก่อให้เกิดแฟรนไชส์มากมายทั่วโลก ในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดลง Drag Race Thailand Season 3 คือการค้นหาที่สุดของแดร็กซุปเปอร์สตาร์ดาวดวงใหม่ของวงการ ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 11 คน จะต้องฟาดฟันผ่านโจทย์สุดท้าทายทุก ๆ สัปดาห์ พร้อมเสิร์ฟลุคสุดตระการตาบนรันเวย์ เพื่อชิงตำแหน่ง Thailand’s Next Drag Superstar คนต่อไป โดยมีเหล่ากรรมการ เซเลบริตี้ คนดัง แขกรับเชิญพิเศษมากมาย เพื่อรับมือกับความปังของเหล่าควีนทั้งหลาย
Heal the World
เปิดตัวมาด้วยชุดเดินเข้าบ้านสุดจะเฟียต แต่ละนางคือกินกันไม่ลง! ปีนี้มีมากถึง 11 คน อันมีชื่อ Drag Name ได้แก่ Benze Diva, Frankie Wonga, Gawdland, Gigi Ferocious, Kara Might, Nane Sphera, Shortgun, Siam Phusri, Spicy Sunshine, Srirasha Hotsauce และ Zepee โดยมาจากทั้ง 4 ภาคทั่วไทย รวมถึงเดินทางมาจากต่างประเทศด้วย ทุกคนมากับลุคสุดมั่นใจตามคอนเซ็ปต์ที่สื่อถึงเอกลักษณ์พรีเซ็นต์ความเป็นตัวเอง ทั้งเซ็กซี่ แกรม แฟนตาซีแมวก็มา เครื่องหัวอลังการ แต่งหน้ามาฟาดกันแบบไม่ยอมใคร พ่วงมากับความสามารถรอบด้าน ทั้งการออกแบบ ทำชุดสุดสร้างสรรค์ การแต่งหน้า ร้องเพลง เต้น การแสดง สมกับคำกล่าวที่หลายคนอาจเคยได้ยินว่า ‘LGBTQ+’ คือผู้คนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ที่พระเจ้ามอบให้มาก
The time has come … Lipsync for Your Life
แนะนำตัวกันเสร็จก็ถึงคราวมาแข่งขันชิงมงกุฎและคฑาสุดเลอค่ากันแล้ว ปีนี้ Host เปลี่ยนจากพี่ อาร์ต อารยา เป็น ‘ปันปัน Pangina Heals’ เจ้าของ Drag Bar ใจกลางกรุงอย่าง House of HEALS รวมถึงเคยไปร่วมแข่งขัน RuPaul’s Drag Race UK vs the World มาแล้ว ซึ่งในซีวัน 1 และ 2 ก็ทำหน้าที่เป็น Co-Host มาก่อน
เริ่มการแข่งขันแรกด้วย Mini Challenge ได้ช่างภาพแฟชั่นคนดังอย่าง คุณสุรปุย มาถ่าย Photo shoot ในธีม You had me at Thai Tea โดยต้องนำเสนอเครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเราอย่างชาไทย ให้ดูโดดเด่นน่าลิ้มลอง ในฉากมีแก้วชาไทยขนาดยักษ์พร้อม Pit Crew นายแบบ 2 คน หุ่นแซ่บ พร้อมมาช่วยให้ภาพสมบูรณ์แบบ ชุ่มฉ่ำสดชื่นไปด้วยกัน ซึ่งผู้ชนะในชาเลนจ์นี้คือ Spicy Sunshine
Thailand’s Next Drag Superstar
ก่อนถึงการแข่งขันรอบ Maxi Challenge ในครั้งแรกซึ่งเป็น The Talent Show มีตัวแม่ของเหล่ากะเทยอย่าง หญิงรฐา แห่ง 2002 ราตรี เจ้าของเพลงประจำชาติของเหล่า LGBTQ+ อย่าง จีนี่ จ๋า และ ผีเสื้อราตรี เข้ามาในห้อง Werk Room เพื่อให้กำลังใจบรรดาสาว ๆ ก่อนขึ้นโชว์ด้วย รวมถึงมานั่งเป็นแขกรับเชิญพิเศษใน EP นี้ ร่วมกับ ลูกเกด เมทินี, ช่า บันทึกของตุ๊ด และอาร์ต อารยา
บน Main Stage ทั้ง 11 สาว งัดฝีมือออกมาอวดกรรมการอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช เพื่อให้ตัวเองไม่ต้องตกไปอยู่ใน Bottom 2 อันดับสุดท้าย ที่ต้องไปแข่ง Lipsync for Your Life กันต่อ ภายใต้ความกดดัน ความตื่นเต้น ทุกคนก็มอบการแสดงสุดประทับใจ มากล้นด้วยความเป็นตัวเองและความคิดสร้างสรรค์ ทั้งความสามารถด้านการเต้น การแสดงคอมเมดี้ ลิปซิงค์ การหยิบยกวัฒนธรรมไทยอย่าง รำไทย มวยไทย มาประยุกต์ให้ร่วมสมัย เพื่อมอบความบันเทิงให้กับทุกคน ปิดท้ายด้วยการออกแบบตัดเย็บชุดในคอนเซ็ปต์ World Wild WET! เป็นโจทย์ให้สาว ๆ ตีความและดีไซน์ชุดแบบเปียก ๆ ฉ่ำ ๆ ให้เลิศบรรเจิดสุด ๆ
สุดท้ายความ Creative + Comedy และความสามารถของ Frankie Wonga ก็ทำให้กลายเป็นผู้ชนะในวีคนี้ไป ได้รับเสียงชื่นชมจากกรรมการมากมาย ถึงความตลก ความฮา และความคิดสร้างสรรค์ในโชว์นี้ เซอร์ไพรส์ปิดท้ายด้วยการที่ในสัปดาห์นี้ไม่มีใครต้องออกจากรายการไป แต่ระวังให้ดี EP หน้าอาจจะโดนคัดออก 2 คน ก็เป็นได้ ไปรอดูกันว่าใครจะคว้าตำแหน่ง Drag Superstar คนต่อไปของเมืองไทย อย่าลืมไปติดตามความสนุกของรายการ Drag Race Thailand Season 3 กันต่อ ส่วนเราดูจบครบทุกตอนแน่นอน วันนี้ลาไปก่อนนะซิส! Hashtag #Drag RaceTH
อ่านบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์ ซีรีส์ และเรื่องบันเทิงสนุก ๆ ได้ ที่นี่ เลย
Main, Hero and Featured images: by wowpresentsplus via Website
Note : The information in this article is accurate as of the date of publication.
ความเห็น 0