พมจ.นนทบุรีลงพื้นที่ช่วยยายลูกชิ้น
ยายลูกชิ้น วันที่ 10 เม.ย. นางสุชาดา มีสงฆ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มการพัฒนาสังคมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาให้ความช่วยเหลือ กรณี สื่อสังคมออนไลน์ นำเสนอข่าวหญิงชรานอนเร่ร่อนบริเวณข้างโรงเรียนบ้านหนองเพรางาย หมู่ 1 ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
จากการลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่ อบต.หนองเพรางาน เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมฯ เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยประธาน อพม. อำเภอไทรน้อย ผู้นำชุมชนหมู่ที่ 1 ทราบว่า บุคคลคนดังกล่าวชื่อ น.ส.ลูกชิ้น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 78 ปี ประกอบอาชีพเก็บของเก่าขาย รายได้ไม่แน่นอน มีบุตรบุญธรรมเป็นชาย 1 คน อายุ 48 ปี ประกอบอาชีพเก็บของเก่าขาย
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
สาเหตุที่ออกมานอนเร่ร่อนบริเวณดังกล่าวเนื่องจากทั้ง 2 คนมีพฤติกรรมออกมานอนเร่ร่อนตามสถานที่สาธารณะ ทั้งนี้ในปี พ.ศ.2561 เคยได้รับเงินบริจาคผ่านทางบัญชี น.ส.ลูกชิ้น เป็นเงินกว่า 70,000 บาท หลังได้รับบริจาคจากคนที่มีจิตใจเมตตา สงสาร ทั้ง 2 แม่ลูกก็มีพฤติกรรมใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินตัว จนเมื่อเงินที่ได้รับบริจาคมาหมดลง ทั้ง 2 คนก็จะหันมาเร่รอนออกมาสร้างเพิงพักในที่สาธารณะ เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความสงสาร หยิบยื่นให้การช่วยเหลือ ทั้งเงินและเครื่องอุปโภคบริโภค
โดยในวันนี้หลังลงพื้นตรวจสอบข้อเท็จริงแล้ว ทาง พมจ.นนทบุรี ได้ข้อสรุปแนวทางการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานที่ลงพื้นที่ร่วมกัน ดังนี้ เจ้าหน้าที่ อบต.หนองเพรางาย จะได้ประสานเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ในพื้นที่ตรวจสุขภาพของบุคคลทั้ง 2 เพื่อเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และตรวจสุขภาพทั่วไป รวมทั้งจัดหาที่พักอาศัย ด้วยการเช่าบ้านพักเลขที่ 33/12 หมู่ 7 ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ในอัตราค่าเช่าเดือนละ 1,000 บาท ให้กับแม่ลูกทั้ง 2 คน โดยมีผู้มีจิตศรัทธาจ่ายค่าเช่าบ้านเรียบร้อยแล้ว
พร้อมกับทำหนังสือบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่าหากทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมออกไปเร่ร่อนในที่สาธารณะ พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดตาม พรบ.คนไร้ที่พึ่ง พ.ศ.2557 ในทันที และจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งทั้ง 2 คนยินยอมที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง และรับปากว่าจะไม่ออกไปเร่ร่อนเพื่อขอรับเงินบริจาคจากชาวบ้านอีก พร้อมกับเซ็นหนังสือสัญญากับทาง พมจ.นนทบุรี ไว้เป็นหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตวรจสมุดบัญชีพบว่า ทั้ง 2 คนเบิกเงินที่บริจาคมาใช้หมดเกลี้ยงภายใน 2 เดือน และหลังจากนั้รนก็มีเงินบริจาคเข้ามาไม่มากแค่หลักพันบาท ก็ถูกเบิกออกมาใช้จนหมดเช่นกัน จนช่วงปีหลังไม่มีคนบริจาคเหลือแต่เพียงเงินเข้าบัญชีเดือนละ 700 บาท ก็ถูกเบิกออกมาใช้ กระทั่งเจ้าหน้าที่ พมจ.นนทบุรี เข้ามาจัดการเรื่องดังกล่าว
ความเห็น 153
Q(︶︿︶)U╭∩╮I
BEST
ถ้าช่วยคนอย่างนี้ผมเอาเงินไปซื้อข้าวหมามาแจกหมาจรดีกว่าครับ
10 เม.ย. 2563 เวลา 11.22 น.
นก...แก้มป่อง
BEST
เจอมากะตัวเลยค่ะ ญาติตัวเอง (แม่ กะลูก) ทำตัวแบบนี้ แล้วมาว่าเร่ไม่ให้ความช่วยเหลือ ไปออกข่าว (เพราะมีคนช่วยให้ออกข่าว) มีคนให้ความช่วยเหลือแบบนี้ สุดท้าย ลูกตาย แล้วมาร้องห่มร้องไห้. ขอมาให้ทางบ้านเราช่วย (รวมถึงพวกพาออกข่าว ออกทีวี) ......อยากบอก อย่าไปเชื่อถือพวกนี้มาก. ตอนนี้เรา เอาเงินไปช่วยเหลือ หมา แมวจร ยังมีความสุขมากกว่า ช่วยคนพวกนี้
10 เม.ย. 2563 เวลา 11.59 น.
ไม่รู้จัก
BEST
เออ..ซื้อข้าวให้หมาขี้เรื้อนข้างถนนแดกมันยังรู้คุณกว่า
10 เม.ย. 2563 เวลา 11.41 น.
ohm lawo
ผมเคยช่วยคับคนประเภทนี้... สุดท้ายขโมยของแจ้งความผมอีก.. วันนี้เลิกกันไม่ช่วยใครแล้วมันเป็นสันดานคับ...
10 เม.ย. 2563 เวลา 11.58 น.
ปุ๊
อืม!น่าช่วยเหลือมากๆเลย งืด!
10 เม.ย. 2563 เวลา 11.05 น.
ดูทั้งหมด