สัปดาห์นี้ “รีวิว LOVE เว่อร์” ขอถือโอกาสช่วงเทศกาลวันแม่ด้วยงานอีเวนต์แห่งปีที่เชื่อว่าคุณแม่ (และทุกคนในครอบครัว) ล้วนชื่นชอบ นั่นก็คืองานโครงการหลวง 50 ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี และปีนี้เป็นปีครบรอบ 50 ปีมูลนิธิโครงการหลวง จะมีไฮไลต์อะไรเป็นพิเศษบ้าง เรามาดูกัน
วิธีเดินของเราจะขอพาทุกคนเข้าสู่งานด้วยการเดินเข้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเริ่มเดินเข้ามาจากสกายวอล์ก (เข้าสู่ชั้น 1 ของห้าง) จะพบกับโซนอาหารก่อนเป็นอย่างแรก บริเวณนี้จะมีการจัดคล้ายศูนย์อาหารที่รวมเอาทั้งเมนูเส้น เมนูข้าว และอีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้วัตถุดิบจากโครงการหลวงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นห่อหมกปลาสเตอร์เจียนซึ่งเป็นของดีที่หาทานได้ยาก, ขนมจีบไก่กระดูกดำ ทำจากเนื้อไก่กระดูกดำที่ว่ากันว่าดำทั้งเนื้อ ดำทั้งกระดูก โปรตีนสูง มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ มีความเชื่อกันว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ในอดีตจะนำมาปรุงอาหารสำหรับฮ่องเต้และขุนนางชั้นสูงเท่านั้น (ปัจจุบันมาให้รับประทานได้ที่งานนี้) , สะเต๊ะอกไก่เบรสนมสด ที่ทำจากไก่สายพันธุ์เฉพาะจากทางฝรั่งเศส เนื้อแน่น ไขมันต่ำ , ซุปเห็ดหอมควินัว , ซุปฟักทองควินัว , ส้มตำอะโวคาโด และอีกมากมายหลายเมนูที่มีให้ทานในงานนี้เพียงปีละครั้งเท่านั้น ไม่มีขายที่ไหน ภายในงานมีเจ้าหน้าที่และน้องๆ นิสิตอาสาสมัครคอยให้คำแนะนำ รับออร์เดอร์เพื่ออำนวยความสะดวก มีการแบ่งโซนที่นั่งสำหรับรับประทานเป็นสัดส่วน ก่อนจะเริ่มเดินชมงานในบริเวณถัดไป
เมื่อเดินพ้นโซนอาหาร ลงบันไดมายังชั้น G จะพบกับบริเวณรวมของสด วัตถุดิบชั้นดี ทั้งผักสด ผลไม้สด เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป รวมไปถึงต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ เป็นบริเวณที่ให้คุณแม่ ได้เพลิดเพลินไปกับการช็อปปิงผักผลไม้เพื่อสุขภาพกัน น่าจะต้องใช้เวลากับโซนนี้นานพอสมควรเพราะทุกอย่างละลานตาเต็มไปหมด
ไอเท็มชิ้นเด็ดที่อยากแนะนำสำหรับบริเวณนี้ได้แก่
ชาสมุนไพรสด ที่คัดเอาสมุนไพรนานาชนิดมารวมไว้ในกล่อง วิธีชงคือนำสมุนไพรทั้งกล่องใส่ในกา เทน้ำร้อนตามลงไป ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วจึงกรองเอาน้ำชามาดื่มได้ ถือเป็นของดีหายาก สายสุขภาพต้องลอง
โยเกิร์ตนมกระบือ และ เฟต้าชีสนมกระบือ แค่แพคเกจก็สะดุดตาแล้วเพราะดูดีพรีเมี่ยมราวกับของนำเข้า และเมื่อได้ลองชิมแล้ว เรากล้ารับประกันความแน่น เด้ง นุ่ม รสกลมกล่อมเป็นสไตล์ของกรีกโยเกิร์ต ทานคู่กับน้ำผึ้งคือดีมาก ๆ และเฟต้าชีสก็หอมมัน ทานคู่กับมะเขือเทศกึ่งแห้งวางบนบิสกิตเป็นคานาเป้ก็อร่อยไปอีกแบบ นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ลองผลิตภัณฑ์จากนมกระบือและถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ
ชาโครงการหลวง 5 กลิ่น อันได้แก่ จัสมินที(ชาอัสสัมกลิ่นมะลิ) แพชชั่นพีช(ชาอัสสัมกลิ่นเสาวรสและพีช) สยามมิสเบรคฟาสต์(ชาอิงลิชเบรคฟาสต์) อ่างขางเพทอล(ชาอัสสัมกลิ่นกุหลาบและลาเวนเดอร์) และเอิร์ล ออฟ สยาม(ชาเอิร์ลเกรย์กลิ่นผิวมะนาวแป้น) ซึ่งทั้งหมดนี้หอมมากและมีให้ลองชงชิมก่อนตัดสินใจ
เซ็ตกาแฟคั่วพิเศษจาก 3 แหล่ง ได้แก่ แม่ลาน้อย แม่สลอง และ ห้วยโป่ง ซึ่งเป็นกาแฟที่ปลูกในพื้นที่ต่างกัน รสชาติจึงแตกต่างกัน แต่ถูกมารวมไว้ในเซ็ตเดียวเพื่อให้คอกาแฟได้พิสูจน์
เห็ดปุยฝ้าย ที่หน้าตาปุกปุยคล้ายดอกไม้ทะเล เห็ดชนิดนี้มีลักษณะเป็นทรงกลม มีปุยสีขาวทั่วดอก และมีกลิ่นหอม แนะนำให้นำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ ชุบไข่ทอดเป็นไข่เจียว จะได้ความฟู และกรอบนอกนุ่มในไม่เหมือนใคร
ถัดจากโซนช็อปปิงของสด ติดกันทางด้านขวามือจะเป็นบรรดาร้านค้าจากโครงหัตถกรรม มูลนิธิโครงการหลวงที่แม้จะไม่ใช่โซนที่ใหญ่มากแต่ก็น่าสนใจไม่น้อยพราะเป็นสินค้างานฝีมือชาวเขาที่ทุกชิ้นล้วนเป็นงานทำมือ (ของแฮนด์เมด) มีทั้งเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า เครื่องเงิน และอีกหลายอย่าง ราคาไม่แรง และทุกชิ้นจะมีความแตกต่างกัน ไม่มีซ้ำ แทบพูดได้ว่าเป็นของที่มีชิ้นเดียว ไม่ได้ทำซ้ำเป็นโหล ๆ
และถัดจากร้านหัตถกรรมเดินต่อไปอีกนิดจะไปโผล่ตรงบริเวณหน้าห้าง Zen โซนนี้จะเป็นของจากโครงการส่วนพระองค์ ทั้งเครื่องเซรามิค เครื่องประดับจากโครงการถักร้อยสร้อยรัก เสื้อผ้าทำจากไหมย้อมครามจากภูพาน (สกลนคร) เดินต่อมาอีกหน่อยจะพบกับโซนดอกไม้แห้งที่เป็นอีกผลิตภัณฑ์ของโครงการหลวงเช่นกัน เป็นดอกไม้จริงที่นำมาอบแห้ง เก็บรักษาไว้ได้นาน เหมาะสำหรับนำมาเป็นของแต่งบ้าน
เมื่อเดินต่อไปยังบริเวณโซนลิฟต์แก้วจะพบกับนิทรรศการ ความเป็นมาของโครงการหลวงสำหรับผู้ที่สนใจศึกษา และยังมีพันธุ์ไม้ใหม่จากโครงการหลวงมาจัดแสดงให้ได้ถ่ายภาพกันอีกด้วย หลังจากเดินวนรอบบริเวณนิทรรศการก็จะขอพาไปสิ้นสุดเส้นทางกันที่โซนร้านขายไอศกรีมอะโวคาโดอันเป็นสินค้าขายดีตลอดกาลของงานนี้ ด้วยสูตรของไอศกรีมกะทิที่ไม่เหมือนใคร เมื่อมาทานคู่กับอะโวคาโดสดจะให้รสชาติที่อร่อยเลิศไม่รู้ลืม เป็นเมนูของหวานที่มาเพียงปีละครั้งคือช่วงงานโครงการหลวงเท่านั้น ซึ่งหากมาถึงจุดนี้คิวอาจจะยาวจนน่ากลัว แต่ขอบอกว่าเขามีการจัดการระบบคิวที่ดีและรวดเร็ว ความอร่อยนั้นคุ้มค่ากับการอดทนจริง ๆ และหากมัวรีรออาจไม่ทันการเพราะจากสถิติการจัดงานโครงการหลวงทุกครั้ง เมนูนี้ขายหมดทุกวันนะ
จบการพาเที่ยวงานโครงการหลวง 50 เชื่อว่าหากได้พาคุณแม่มา คุณแม่จะแฮปปี้มีความสุขกับการได้ช็อปปิงของกินของใช้มากมายจนคุณลูกต้องช่วยถือกันเต็มมือแน่ ๆ แต่ความสุขของคุณแม่ก็คือความสุขของคุณลูกและทุกคนภายในบ้านนั่นแหละนะ
เกร็ดเล็กน้อยจากงานมูลนิธิโครงการหลวง 50
1. บริเวณของงานนั้นหาไม่ยาก เนื่องจากครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งชั้น G ของเซ็นทรัลเวิลด์ และตกแต่งเต็มพื้นที่ด้วย “ดอกรวงผึ้ง” สีเหลืองอร่ามและสดใส เปรียบดังผืนแผ่นดินทองของไทยอันร่มเย็น เรียกว่าเห็นโซนสีเหลืองก็สามารถเดินเข้าไปได้เลย
2. โดยรอบของงานนอกจากเจ้าหน้าที่ที่คอยอำนวยความสะดวกภายในงานแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรวจรอบ ๆ บริเวณงานเพื่อความปลอดภัย แต่ก็ระวังทรัพย์สินและของมีค่า เป็นการป้องกันดีกว่าแก้
3. แนะนำให้นำถุงผ้ามาช็อปปิงกันด้วยนะ เนื้องจากโครงการมีนโยบายช่วยโลกลดถุงพลาสติก ปีนี้จึงไม่มีถุงพลาสติกแจก แต่หากต้องการใช้ถุง ที่จุดคิดเงินจะมีถุงโครงการหลวงจำหน่ายใบละ 35 บาท
4. ในกรณีที่ซื้อของเยอะและไม่อยากใช้ถุง มีบริการเข็นของไปส่งที่รถยนต์ส่วนตัว สามารถจ่ายแล้วนำไปเก็บที่รถได้เลย
5. มีบริการรับฝากของที่บริเวณบันไดเลื่อนชั้น G ที่ลงมาจากโซนอาหารชั้น 1 เอาใจสายช็อปให้สามารถเลือกของได้แบบไม่ต้องห่วงสัมภาระ
6. งานโครงการหลวง 50 นี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 18 สิงหาคม 2562 มีเวลากลับมาเที่ยวซ้ำอีกกี่รอบยังก็ได้ ;)
ความเห็น 12
ไอศกรีมอะโวคาโดอร่อยมากกกกกกกก.... ได้ลองครั้งนึงคือติดใจสุดๆ
งานน่าไปมาก น่าช้อปทุกอย่าง (เคยไปเดินตอนมาจัดงายที่เซ็นทรัลชิดลม) แต่ช่วงนี้เงินในกระเป๋ามันไม่อำนวยเลยจริงๆ T_T
อยู่แค่บิ๊กซี โลตัส แถวบ้าน มีคูปองท้ายใบเสร็จแจกนี่ก็ดีใจแย่แระ... 😂😂😂😂😂
11 ส.ค. 2562 เวลา 13.24 น.
Kenny2
ไปมาแล้ว ดีมากๆ คนเยอะ_ของกินอร่อยทุกอย่าง ซื้อกลับได้ ผลิตภัณฑ์ใช้ได้เลยครับ
11 ส.ค. 2562 เวลา 13.38 น.
PUK OSAKA
ไปเที่ยวงานโครงการหลวงทุกปีคะ
11 ส.ค. 2562 เวลา 14.39 น.
Akradej Laechaidee
ยอมรับว่าผู้จัดมีจิตใจบริสุทธิ์ ดีมากหลายคนชาวกทม ซึ่งเป็นโครงการอยู่ตจว..ไม่มีโอกาสเยี่ยมชมโครงการแต่ผู้จัดนำมาให้ได้ชมอย่างใกล้ชิดประหยัดเวลาเดินทางและค่าพาหนะ
11 ส.ค. 2562 เวลา 09.01 น.
🚄R@tt@n@🔑
ชาสมุนไพรสด กินแล้วชุ่มคอ หาทานยากมากกกก
11 ส.ค. 2562 เวลา 13.51 น.
ดูทั้งหมด