เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศน้ำจืด ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า Nonn Panitvong
ซึ่งข้อความระบุไว้ว่าคำนวณผลกระทบของปลาดุกปล่อยต่อระบบนิเวศ สรุปสำหรับใครที่ขี้เกียจอ่าน ปลาดุก 1 ตันกินสัตว์น้ำประมาณ 1,800,000 ตัวต่อปี ปลาดุกที่นิยมเลี้ยงเพื่อนำมาเป็นอาหารในปัจจุบันในประเทศไทย เป็นปลาดุกลูกผสมที่เกิดจากปลาดุกยักษ์จากทวีปแอฟริกาและปลาดุกอุย ลูกปลาที่เกิดมาเป็นปลาลูกผสมที่ถือว่าเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่น เรียกชื่อทางการค้าว่าปลาดุกบิ๊กอุย ได้ปลาที่โตเร็ว มีเนื้อดีพอสมควรและเป็นหมัน การใช้ประโยชน์คือนำมาบริโภคตามจุดประสงค์ที่ถูกเลี้ยงขึ้นมา ในปัจจุบันมีผู้นิยมนำปลาดุกบิ๊กอุยไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติของประเทศไทยเพื่อทำบุญ แต่การกระทำดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในพื้นที่นั้นๆ โดยผมจะขอยกตัวอย่าง ในกรณีที่ปลาดุกที่ถูกเลี้ยงมาในที่เลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูปตลอดชีวิตสามารถปรับตัวหัดหาอาหารเองในธรรมชาติเป็น ไม่ถูกใครจับไปเสียก่อน ดังนี้
สมมุติฐาน
ปลาดุกเป็นปลาที่กินทั้งพืชและสัตว์ สักครึ่งๆ 50:50
ปลาดุกกินอาหารวันละ 5% ของน้ำหนักตัว
ปลาดุกที่ปล่อยขนาดทั่วไปของตลาดประมาณ 3ตัว/1กิโลกรัม
ปลาดุกถูกปล่อยลงไปในแหล่งน้ำที่สมบูรณ์มีอาหารให้กิน
โจทย์
- นายบุญหนัก ต้องการปล่อยปลาดุก 1,000 กิโลกรัม คิดเป็นปลาดุกประมาณ 3,000 ตัว
- ปลาดุก 1,000 กิโลกรัม จะกินอาหารวันละ 50 กิโลกรัม (1,000*5%)
- ในอาหาร 50 กิโลกรัมนี้เป็นสัตว์ครึ่งหนึ่ง ดังนั้นคิดเป็นสัตว์น้ำหนักรวม 25 กิโลกรัม หรือ 25,000 กรัม (1 กก. = 1,000 กรัม)
- ปลาดุกตัวขนาดนี้ สัตว์น้ำท้องถิ่นอย่าง ลูกปลาบู่ ลูกปลาตะโกก ลูกปลาตะเพียน ปลาซิว กุ้งฝอย และ หอยขม ที่กินได้พอดีๆคำจะตัวประมาณ 2-3 เซนติเมตรก็จะหนักไม่เกิน 5 กรัม ดังนั้นปลาดุก 3,000 ตัวที่นายบุญหนักปล่อยไปนี้ ถ้าต้องการมีชีวิตที่ดีก็ต้องกินสัตว์น้ำอื่นๆไปวันละ 5,000 ตัว(25,000/5) หรือปีละ 1,800,000 ชีวิต (5,000*360)
- อันนี้คำนวณแบบง่ายๆว่าปลาดุกไม่ได้โตขึ้นด้วยนะ ในความเป็นจริงกินไปโตไปก็จะกินเยอะขึ้นเรื่อยๆ หรือถ้าระบบนิเวศแถวนั้นมันเสื่อมโทรมไปแล้ว ปลาดุกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี จู่ๆถูกเอามาปล่อยให้สู้ชีวิตด้วยตัวเองหาอาหารกินไม่ได้ก็อาจจะอดตายไปอย่างทรมานก็เป็นไปได้เช่นกันครับ
สรุปด้วยสมมุติฐานดั้งเดิมว่าปลาดุกรอด การปล่อยปลาดุก 1 ตัน เราจะสูญเสียสัตว์น้ำท้องถิ่นไปประมาณ 1.8 ล้านชีวิตต่อปี ในจำนวนนี้อาจจะเป็นลูกปลาเศรษฐกิจ ที่ถ้าปล่อยให้โตไปก็จะเป็นอาหารของชาวบ้านได้อีก ในจำนวนนี้อาจจะเป็นปลาหายากที่ถ้ารอดไปก็จะสามารถไปสืบพันธุ์ต่อได้ ในจำนวนนี้มีปลาท้องถิ่นขนาดเล็กซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศอย่างปลาซิวที่จะเป็นอาหารของปลาท้องถิ่นขนาดใหญ่ต่อไป ทั้งหมดนี้เป็นสัตว์น้ำที่อยู่ของเค้าดีๆก็มีใครก็ไม่รู้เอาสัตว์ผู้ล่ามาปล่อยลงไปในบ้านเค้าเต็มไปหมด คือลองนึกภาพคุณอยู่ในบ้านของคุณดีๆก็มีใครไม่รู้เอาเสือ เอาสิงโตมาปล่อยลงไปในหมู่บ้านคุณเพื่อทำบุญ โดยคุณไม่มีทางที่จะสู้เลย ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องบุญบาปสักเท่าไหร่ อ่านแล้ว คิด วิเคราะห์ แยกแยะ กันนะครับว่าควรจะปล่อยไหม สาธุ
ความเห็น 10
ยังมี
ได้อ่านบทความนี้ทำให้เข้าใจ ในการทำบุญปล่อยปลาเลย
ว่าบุญที่ทำบางที มันก็มีผลข้างเคียงที่นึกไม่ถึง ขอบคุณกับบทความนี้ค่ะ
09 ส.ค. 2563 เวลา 14.52 น.
premanan silata
ต้องบอกกรมประมงให้ควบคุมการเลี้ยงปลาดุกบิ้กอุย
เพราะปัจจุบันมีผู้เลี้ยงปลาดุกบิ้กอุยในกระชังในแม่น้ำ
เป็นตัวร้ายปล่อยให้ปลาดุกบิ้กอุยหลุดลงสู่แม่น้ำ โดยไม่ทราบ
ว่ามีผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ดังกล่าว ข่วยยื่นเรื่องร้องเรียน
หน่อย อย่ามาดีแต่พูด
09 ส.ค. 2563 เวลา 15.10 น.
sri
ขอบคุณค่ะ ปล่อยทีละตัว แต่คนอื่น ปล่อยที 10/20 ตัว
ต่อไปนี้ ไม่ปล่อยแล้ว ได้บาป มากกว่าค่ะ
09 ส.ค. 2563 เวลา 15.31 น.
ขอบคุณสำหรับบทความนะคับ
ผมก็ปล่อยปายูทธ์มา5ปีแล้ว ระบบนิเวศน์ตอนนี้แย่เลย
09 ส.ค. 2563 เวลา 16.53 น.
ไม่ต้องคิดเยอะ. คนปล่อยก็ปล่อยไป. ชาวบ้านที่ไม่มีกินเค้าก็จับมากิน เป็นวงจรอยู่แล้ว ปลามันว่ายไปเรื่อย. ไม่อยู่กับที่หรอก ยกเว้นที่วัด
09 ส.ค. 2563 เวลา 22.33 น.
ดูทั้งหมด