ใครว่าอยู่เมืองนอกสบาย “โบว์ชมพู” ฝ่ามรสุมทนทุกข์ “โรคแพนิค”

นักร้องสาวขาแดนซ์ อัปเดตชีวิตหลังห่างหายจากวงการบันเทิงไป 4 ปี ว่า คิดถึงเมืองไทย คิดถึงการทำงานในวงการบันเทิงมาก จนถึงขั้นต้องพบจิตแพทย์ เพราะกลัวจะป่วยเป็นโรคร้ายแรง กลัวความตาย ร้องไห้ทุกวัน มีอาการหายใจไม่ออก ตัวสั่น โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร และไม่รู้วิธีการรับมือ

ลบภาพหนุ่มติสต์ “อ๋อง-สา” เม้าท์ “แอนดริว” เป็นคนตลก

เปิดใจ "ต๋อย ไตรภพ" 38 ปีในวงการ ไม่ได้ทำเพราะรัก แต่ทำเพราะหน้าที่

"โบว์ไปหาหมอที่โรงพยาบาลใหญ่ที่สิงคโปร์ถึง 2 แห่ง และกลับมาตรวจกับคุณหมอที่โรงพยาบาลในไทยอีก 3 แห่ง ตรวจร่างกายละเอียดก็ไม่พบอะไรเลย คุณหมอเลยแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ จนโบว์พบว่าตัวเองเป็นโรคแพนิค โชคดีที่เราไม่ฆ่าตัวตาย เหมือนเป็นโรคที่เลยข้ามผ่านโรคซึมเศร้าไปแล้ว หนักหนากว่าโรคซึมเศร้า คือ จะตายแต่ตายไม่ได้ จะมีอาการคล้ายหอบหืด รุนแรง เหมือนคนจะตาย โบว์ต้องทนกับความทรมาน ต้องโดนหามเข้าห้องฉุกเฉินกลางดึก"

โบว์ ยังอธิบายต่อว่า สาเหตุเกิดจาความเครียดเพราะก่อนหน้านี้ตนทำงานหนักมาก และมีความสุขมาก วันหนึ่งไม่ได้ทำสิ่งที่รัก สมองจึงไม่บาลานซ์ ปรับสมดุลไม่ทัน รวมถึงที่ผ่านมารักษาไม่ถูกวิธี กินยาระงับอาการหนักจนสมองเบลอ ง่วงนอนสะสม จากการรับยามากเกินไป คุณหมอจึงให้กินยาปรับสารเคมี และยาควบคุมไม่ให้เกิดโรคนี้

"ตอนที่ไปอยู่สิงคโปร์ปีแรกเราก็ยังสนุก สามีไม่ให้ทำงาน ได้ดูแลครอบครัว ได้ท่องเที่ยว มีเวลาดูแลลูก ทานไฮ-ทรีทุกโรงแรม เดินดูนั่น ดูนี่ แต่สุดท้ายมันไม่น่าจะใช่เรา เราน่าจะมีค่ามากกว่านี้ เวลาของเราน่าจะทำอะไรได้อีก พอปีที่ 2 เราเริ่มรู้สึกว่าร้องไห้เยอะไป เบื่อสิงคโปร์ อยากหอบลูกหนีกลับเมืองไทย ชีวิตไม่น่าอยู่แล้ว สามีก็บอกไม่มีอะไร หมอบอกไม่มีอะไร โรคแบบนี้ 1-2 ชั่วโมงหาย แต่เวลาแค่นั้นสำหรับเรามันนานมาก มันตายไม่ได้ ทรมาน โบว์ต้องอยู่แบบนั้นคนเดียว เดินหาโรงเรียนให้ลูก รับส่งลูก ทำอาหาร สามีทำงานกลับมาก็ตี 1-2 เพราะอ้างอิงเวลาทำงานจากสหรัฐอเมริกา โบไม่มีใครคุยได้ และไม่เปิดรับใครมาเป็นเพื่อน ซึ่งเป็นข้อเสียสำหรับคนที่อยู่เมืองนอก ตัวเองคิดว่าไหว แต่ไม่ไหว"

เมื่อรู้แล้วว่าอยากกลับมาทำให้งานที่รัก โบว์เลยอ้อนขอสามี ซึ่งรอบแรกไม่สำเร็จ จึงให้คุณหมอที่ทำการรักษาช่วยยืนยันเป็นเอกสารเพื่อให้ได้กลับมาทำสิ่งที่รักที่เมืองไทย เพราะยาไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว เมื่อสามีได้อ่านจึงสนับสนุน พร้อมให้กำลังใจเพื่อก้าวข้ามผ่านโรคนี้ไปด้วยกัน โบว์จึงเดินหน้าลงทุนด้วยตัวเองทำซิงเกิ้ลใหม่ พร้อมมิวสิควิดีโอ "องค์แม่ลง" เพลงแดนซ์ตามถนัดออกมาให้ฟังกัน

"เพลงนี้ทำมา 4 ปีแล้ว เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โบว์ไปบวงสรวงคุณย่าโม ที่โคราช ระหว่างทางเหมือนอยู่ในภวังค์ก็ร้องฮัมท่อนฮุคออกมา ทุกคนชอบเพลงนี้ เพื่อนสนิทที่เป็นกระเทยก็เอาไปแต่งต่อ แต่พอเสร็จก็ไม่ได้ทำต่อ จนมีคนนำไปคัฟเวอร์เยอะมาก โบว์เลยคิดว่เราน่าจะกลับมาทำเพลงนี้ พอได้มาทำเพลงก็คาดว่าจะหายป่วยเลย ส่วนสามีก็เป็นทั้งกำลังใจ และกำลังทรัพย์ เพราะซิงเกิ้ลนี้ลงทุนทำเอง ฟีตแบ็คก็ดีมาก เพิ่งไปเล่นคอนเสิร์ตมาแฟนๆ ร้องได้เต้นได้ บอกเราสวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เขาคงคิดว่าคนมีลูก คงต้องอ้วน ปล่อยเนื้อปล่อยตัวแน่ๆ"

ส่วนอาการของโรค นักร้องสาว บอกว่า ความรู้สึกตนเองคิดว่าหายแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างถอยยา หรือลดการใช้ยา แต่โรคนี้หากมีอะไรมากระทบก็จะสามารถกลับมากำเริบได้อีก ซึ่งตอนนี้ก็แผนว่าอนาคตตนกับสามีก็อาจจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่เมืองไทย

นอกจากงานในประเทศไทยแล้ว โบว์ ยังเผยด้วยว่า ระหว่างเดินเล่นที่สิงคโปร์ก็มีแมวมองมาติดต่อให้ไปถ่ายแบบ ทำให้ได้ทำงานกับทีมโปรดักชั่นของสิงคโปร์ ออสเตรเลีย และอินเดีย จนล่าสุดกำลังจะไปแคสภาพยนตร์บอลลีวูดของอินเดียสัปดาห์หน้า เพราะเห็นแววว่าตนร้องและเต้นได้อีกด้วย

บางกอก City เลขที่ 36 จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.15 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36 รับชมย้อนหลังทาง http://pptv36.tv/rkG และ  https://tv.line.me/bangkokcity36

“ตุ๊ก วิยะดา” ชวนให้กำลังใจนักร้องวัยเกษียณตามฝันใน “The Voice Senior 2020”