จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีสาวไทยรายหนึ่งได้แชร์ประสบการณ์การถูกกักตัวเพื่อรักษา ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง หลังเจ้าตัวกลับจากเที่ยวญี่ปุ่นแล้วป่วย ซึ่งโรงพยาบาลดังกล่าวกักตัว 9 ชั่วโมง และมีค่าใช้จ่ายกว่า 42,073 บาท
จนปัจจุบันสถานการณ์ที่เริ่มมีการเจ็บป่วยภายในโรงเรียน สถาบันการศึกษา ทำให้ผู้ที่มีอาการป่วย มีไข้ เกิดความกังวลว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไม่ เพื่อความสบายใจ
“ฐานเศรษฐกิจ” ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลรัฐและเอกชนอย่างน้อย 8 แห่ง ที่พร้อมรับตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 พร้อมกับเปิดเผยราคาค่าใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนที่ไม่มั่นใจว่าตัวเององอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสดังกล่าวหรือไม่
โดย 8 โรงพยาบาล ประกอบด้วย
1.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ค่าบริการแพทย์และ Lab ตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท
- โรงพยาบาลราชวิถี ค่าบริการตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท
3.โรงพยาบาลเปาโล (ทุกสาขา) ค่าบริการตั้งแต่ 5,000-13,000 บาท
4.โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่าบริการอยู่ที่ 5,000 บาท
5. โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ค่าบริการอยู่ที่ 5,000 บาท
6. โรงพยาบาลพญาไท2 ค่าบริการอยู่ที่ 6,500 บาท
7. โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ค่าบริการอยู่ที่ 7,000 บาท
8. โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ค่าบริการอยู่ที่ 9,900 บาท
ทั้งนี้แต่ละโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายในการตรวจจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือของผู้มาตรวจ
นอกจากนี้ มีข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข อธิบายเพิ่มเติม ถึงกรณีค่าใช้จ่ายในการรักษาหรือตรวจสุขภาพกรณีป่วยติดเชื้อฯ กรณีขอตรวจหาเชื้อผ่านโรงพยาบาลเอกชน ถ้าคนคนนั้นไม่มีอาการป่วย ไม่มีประวัติเสี่ยงใดๆเลย แต่ต้องการขอตรวจหาเชื้อเพื่อความสบายใจ อาจต้องเสียค่าใช้จ่าย ส่วนโรงพยาบาลรัฐ หากปรึกษาแพทย์จะมีคำแนะนำและรักษาตามสิทธิ์
“หากประชาชนมีอาการป่วยสงสัยจะติดเชื้อหรือไม่ พิจารณาจากประวัติการเดินทาง ไปในพื้นที่เสี่ยงระบาดมา มีการสัมผัสนักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยง และเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคของกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มนี้สามารถเข้ารับการรักษาตามสิทธิได้ เช่น สิทธิบัตรทอง 30 บาท สิทธิประกันสังคม ประกันชีวิตถ้าได้ทำประกันไว้”
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุอีกว่า กรณีขอตรวจหาเชื้อผ่านโรงพยาบาลเอกชน หากไม่ได้ส่งตัวอย่างเชื้อผู้ป่วยมาตรวจกับ “เครือข่ายห้องปฏิบัติการของกระทรวงสาธารณสุข 13 แห่ง” ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเอง แต่หากโรงยาบาลเอกชนดังกล่าวส่งตรวจเชื้อมายังส่วนกลาง 13 แห่ง เนื่องจากอาจจะเข้าข่ายต้องสงสัย ผู้ป่วยรายนั้นก็จะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ผู้ป่วยอาจต้องเสียค่ารักษาพยาบาล ค่าอุปกรณ์ ของโรงพยาบาลตามปกติ และหากผลตรวจจากห้องปฏิบัติการยืนยันเป็นลบ คือ ติดเชื้อไวรัสโคโรนา จะถูกนำตัวเข้าสู่ระบบการรักษาทันที โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
“คุณเลือกรักษาโรงพยาบาลเอกชนก็เร็ว สะดวกกว่าโรงพยาบาลของรัฐ ก็ต้องยอมรับในเรื่องค่าใช้จ่ายที่มากหน่อย แต่ถ้าคุณสงสัยอาการป่วยตัวเอง แนะนำให้มาโรงพยาบาลรัฐก่อน”
ด้านข้อมูลจาก กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีอำนาจในควบคุมราคาค่ายาค่าบริการทางการแพทย์ ระบุว่า หากผู้ป่วยไม่ได้รับความเป็นธรรมจากค่ารักษาพยาบาล ต้องเก็บหลักฐานมาแสดงที่ศูนย์รับเรื่อง1569 เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ความเห็น 16
วิรัช
BEST
นี่แหละเป็นสาเหตุหนึ่งของการแพร่ระบาดของเชื้อโรค คนไม่อยากเสียเงินก็ไม่ไปตรวจแล้วก็แพร่เชื้อไปเรื่อยไห่ทางแก้ยาก ทำไมไม่ตรวจฟรี หากเป็นค่อยคิดเงิน หรือไม่เป็นก็คิดค่ายาตามปกติ รัฐบาลน่าจะหางบประมาณมาช่วยตรงนี้ด้วย ทีอย่างอื่นช่วยได้ช่วยดี ทีอย่างนี้คิดเงินค่าตรวจ อนิจจังประเทศไทย เรื่องดีๆไม่ทำทำแต่เรื่องไม่มีสาระ จะให้เชื้อโรคแพร่ไปทั้งประเทศก่อนใช่ไหม ถ้าถึงวันนั้นงบประมาณมีเทาไหร่ก็ไม่พอ
27 ก.พ. 2563 เวลา 11.16 น.
อยากตรวจ ไวรัส โคโรน่า แต่ตังไม่มีซักบาท ทำไงดีนะ
27 ก.พ. 2563 เวลา 11.06 น.
รัฐบาลแหกตาดูนะครับ...ผลงานคุณจะดีแบบได้ใจคนทั้งประเทศรึเปล่า
27 ก.พ. 2563 เวลา 11.22 น.
Phark T.
ค่าตรวจแพงกว่าตรวจสุขภาพประะจำปีอีก
อย่าไปติดมาเลยครับ
27 ก.พ. 2563 เวลา 11.14 น.
PN - O
555 .. ในที่สุดก็ออกมายอมรับว่า คุมค่ายาค่ารักษา รพ.เอกชน ไม่ได้
27 ก.พ. 2563 เวลา 11.20 น.
ดูทั้งหมด