โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

กลัวเมียมากกว่ากลัวคุก - วินทร์ เลียววาริณ

THINK TODAY

เผยแพร่ 03 ธ.ค. 2561 เวลา 02.43 น. • วินทร์ เลียววาริณ

นางสาวเอมี วิลเลียมส์ ตื่นขึ้นมาตอนตีสี่ เตรียมสวมชุดเจ้าสาว

นี่เป็นวันที่เธอจะมีความสุขที่สุด เป็นวันแห่งความฝันที่เธอรอคอยมานาน

เธอพบ นีล แม็คคาร์เดิล ที่ผับแห่งหนึ่งเมื่อสี่ปีก่อน ทั้งคู่ ชอบกันทันที หลังจากรู้จักกันสามอาทิตย์ ทั้งสองก็ไปอยู่ด้วยกัน

วันนี้คือวันแต่งงาน

เธอมอบหมายหน้าที่ให้เขาทำงานสามอย่าง จัดหาสถานที่แต่งงาน จัดหารถ และจองภัตตาคาร

เธอสวมชุดเจ้าสาวไปที่สำนักจดทะเบียน ส่วนหนึ่งของ เซนต์ จอร์จ’ส ฮอลล์ สถานที่แต่งงาน

เมื่อไปถึงสถานที่แต่งงาน เธอพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มไปหมด ตำรวจบอกเธอว่า “มีคนโทร.มาแจ้งว่า จะเกิดระเบิดที่ เซนต์ จอร์จ’ส ฮอลล์ ในสี่สิบห้านาที”

สิบเอ็ดวันก่อนหน้านั้น เพิ่งเกิดระเบิดที่บอสตัน สหรัฐฯ ดังนั้นตำรวจจึงถือข้อมูลนี้จริงจังอย่างยิ่ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นหาระเบิดเป็นการใหญ่ แต่ไม่พบ พิธีแต่งงานล้มเลิกไปโดยปริยาย

………………..

เย็นวันนั้นตำรวจจับคนแจ้งวางระเบิดได้ โดยตามรอยโทรศัพท์

ชื่อ นีล แม็คคาร์เดิล

เจ้าบ่าวของเธอเอง

เขารับสารภาพว่าเป็นคนโทร.ไปแจ้งเรื่องระเบิด เจตนาเพื่อล้มพิธีแต่งงาน

เขาไม่ได้ล้มพิธีแต่งงานเพราะเขาเปลี่ยนใจจากเธอ เขาล้มเพราะเขาลืมบางอย่าง

คืนก่อนวิวาห์ เขาตรวจความเรียบร้อย แหวน ชุดสูท ฯลฯ แล้วพบว่าเขาลืมยื่นเอกสารที่ต้องใช้ในการแต่งงาน เป็นเอกสารที่ระบุว่าการแต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย ปราศจากเอกสารชิ้นนี้ จะทำพิธีแต่งงานไม่ได้

เขาอยากบอกความจริงแก่เธอ แต่ไม่รู้จะบอกเธออย่างไร เพราะการแต่งงานครั้งนี้สำคัญต่อเธอมาก เธอพูดถึงมันตลอดเวลา เธอตื่นเต้น ตื่นตั้งแต่ตีสี่ เตรียมตัวสวมชุดเจ้าสาว

เขาไม่รู้จะทำอย่างไรจริงๆ

เขาย่องออกจากบ้านตรงไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ โทร.ไปที่สำนักจดทะเบียน ปลอมเสียงพูดว่า “นี่ไม่ใช่การแจ้งหลอก มีระเบิดที่ เซนต์ จอร์จ’ส ฮอลล์ จะระเบิดในสี่สิบห้านาที”

ศาลตัดสินจำคุกเจ้าบ่าวหนึ่งปี ผู้พิพากษาบอกว่า “คุณไม่ได้จองการแต่งงาน แล้วคุณก็ไม่ได้ทำอะไรเลย มุดหัวลงในทราย”

เป็นข่าวที่ทำให้ชาวโลกยิ้มที่มุมปาก แต่ก็เศร้าเช่นกัน เพราะในโลกของความจริง คนจำนวนมากแก้ปัญหาแบบโง่ๆ อย่างไม่น่าเชื่อเช่นนี้จริง

………………..

มนุษย์บางคนเมื่อเจอปัญหาจะลนลาน และแก้ปัญหาโดยสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมา

ในชีวิตจริงเราพบการแก้ปัญหาแบบ ‘มุดหัวลงในทราย’ เสมอ

ในเมืองไทยเมื่อหลายปีก่อนมีคนเสนอวิธีแก้ปัญหาอีสานแห้งแล้ง ทำให้อีสานเขียวโดยการทาสีบ้านให้เป็นเขียว

หลายปีมาแล้ว รัฐมนตรีคนหนึ่งกำจัดยาม้าออกจากเมืองไทยสำเร็จ โดยเปลี่ยนชื่อเป็นยาบ้า ด้วยหลักการเดียวกัน หลายปีก่อน เราแก้ปัญหาสลัมโดยทำป้ายสวยๆ ปิดล้อมสลัม

เรายังมีวิธีกำจัดข้าราชการประพฤติชั่วโดยย้ายไปสำรองราชการ เมื่อฟ้าเปิด ก็กลับมาทำชั่วเหมือนเดิม

เรายังมีนโยบายของรัฐหลายอย่างที่แปลกๆ เช่น รัฐไม่มีเงินใช้หนี้เงินกู้ ก็กู้เงินก้อนใหม่มาใช้หนี้เก่า เมื่อพ่อค้าขึ้นราคาสินค้าเพราะรัฐขึ้นค่าแรงคนงาน รัฐก็ขึ้นค่าแรงอีก เพื่อให้พ่อค้าขึ้นราคาสินค้าอีกทอด

การจราจรในกรุงเทพฯติดทั้งปีทั้งชาติ เราจะเห็นป้ายจราจรบนถนนหลายเส้น บอกให้ผู้ใช้ถนนเลี่ยงไปใช้ถนนสายอื่นแทน

ฯลฯ

ความจริงเราสามารถศึกษาวิธี ‘แก้ปัญหา’ ของธรรมชาติได้ มักเรียบง่าย ตรงไปตรงมาเสมอ เช่น เมื่อลำน้ำไหลไปเจอภูเขา หากเป็นภูเขาหินแกร่ง มันก็ไหลอ้อมไป ถ้าภูผาอ่อนแอ มันก็กัดเซาะไปตรงๆ

ต้นไม้ในที่มืดสลัวแสงแดดไม่พอ จะหาทางยืดตัวขึ้นหาแดด ต้นไม้ที่อยู่ในทะเลทรายจะหาทางลดการคายน้ำให้มากที่สุด หมีที่อยู่ในเขตร้อนตัวดำ ขนไม่หนา แต่หมีซึ่งอาศัยอยู่ที่ขั้วโลกจะมีขนหนาเพื่อต้านความหนาว ตัวสีขาวเพื่อกลมกลืน หมีที่ไปอยู่ป่าไผ่ ก็ปรับตัวกินไผ่เป็นอาหาร ทั้งที่มาจากต้นกำเนิดสายพันธุ์เดียวกัน แก้ปัญหาต่างวิธีกัน ตามสภาพแวดล้อม

ในวงการวิทยาศาสตร์ ก็แก้ปัญหาตรงๆ เช่นนี้เหมือนกันเมื่อขบคิดปัญหาและทางแก้ จะหาทางแก้หลายทาง แล้วใช้หลักที่เรียกว่า Occam’s Razor

Occam’s Razor (แปลว่าใบมีดของออคคัม ตั้งตามชื่อของนักปรัชญาในศตวรรษที่ 14 คือ William of Occam) หลักการคือเมื่อมีหลายทฤษฎีที่อธิบายเรื่องหรือปรากฏการณ์หนึ่งๆ ได้เหมือนกัน ให้เลือกคำอธิบายที่ง่ายที่สุด เพราะเมื่อดูจากวิถีธรรมชาติแล้ว จะเลือกทางที่ง่ายที่สุด ไม่รุ่มร่าม ตรงไปตรงมาที่สุด

ดังนั้นเมื่อเจอปัญหา มองรากของปัญหา หาทางเลือกหลายทาง เลือกทางที่ดีที่สุด ซึ่งมักเป็นทางที่เรียบง่ายที่สุด และไม่สร้างปัญหาใหม่

วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดควรจะง่ายที่สุด ตรงเป้าที่สุด

ในกรณีนี้ หากเจ้าบ่าวบอกเจ้าสาวว่าลืม อย่างมากก็แค่หัวแตก ไม่ต้องเข้าคุก

แต่นายแม็คคาร์เดิลอาจกระทำไปเพราะความกลัวก็ได้ เนื่องจากคนบางคนกลัวเมียมากกว่ากลัวคุก

…………..

วินทร์ เลียววาริณ

winbookclub.com

เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/

พฤศจิกายน 2561

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0