3-4 ปีมานี้มีปัญญาชนผู้รอบรู้จำนวนมากฝันว่าประเทศไทยจะมีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกับเขาเสียทีเหมือนกับนานาอารยประเทศ เพราะภาษีที่เก็บจากทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์เช่นนี้ถือเป็นกฎหมายที่สร้างความเป็นธรรมกับประชาชนผู้เสียภาษี โดยผู้ได้ประโยชน์จากรัฐมากต้องเสียภาษีมาก ผู้ได้น้อยก็เสียน้อย
ฝันนี้ หวังด้วยว่ากฎหมายที่ก้าวหน้าแบบนี้ คราวนี้จะสำเร็จลงได้ด้วยรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารยึดอำนาจเสียด้วย เพราะอดีตที่ผ่านมาหลายสิบปี รัฐบาลใดที่นำกฎหมายในลักษณะนี้มาดำเนินการ รัฐบาลจะล้มเสียก่อนเสมอ
ถึงเวลานี้จวนสว่าง เริ่มมีการพูดถึงการเลือกตั้ง ฝันร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างค่อยๆ เลือนรางลงเรื่อยๆ จนแทบไม่มีความหวังอะไรเหลืออยู่
การผลักดันกฎหมายนี้มีมาทุกยุคทุกสมัย ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผลักโดย “เทคโนแครต” หัวก้าวหน้าในกระทรวงการคลัง ตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนแรกของรัฐบาล คสช. คือ นายสมหมาย ภาษี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลังมาก่อน
จนมาถึงนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนปัจจุบัน แนวคิดและร่างกฎหมายฉบับนี้ก็อยู่ในกระบวนการออกกฎหมาย ตั้งแต่ขั้นการยกร่าง การรับฟังความคิดเห็น จนทุกวันนี้อยู่ในขั้นตอนของสภา สนช. มาประมาณปีครึ่ง
ระหว่างการยกร่างและระหว่างการพิจารณาของสภา มีทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงคัดค้านเหมือนกับกฎหมายทั่วไป
แต่ที่แตกต่างคือจะมีกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ เคลื่อนไหวคัดค้านหลักการร่างกฎหมายนี้ทั้งเปิดเผยเป็นทางการและที่ไม่เป็นทางการ
น้ำหนักแรงผลักดันสนับสนุนและคัดค้านโน้มไปทิศทางไหน ดูได้ไม่ยาก
เพราะสภา สนช. ชุดนี้ปกติมักไม่ใช้เวลานานในการพิจารณาผ่านร่างกฎหมาย กฎหมายหลายฉบับผ่านวาระที่ 1 วาระที่ 2 และวาระที่ 3 รวดในการประชุมครั้งเดียวก็ยังมี แต่ร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างผ่านวาระที่ 1 ไปตั้งแต่มีนาคม 2560 เกือบปีครึ่ง ยังถูกขยายเวลาการพิจารณาต่อไปอีก
ยิ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันมีท่าทีชัดเจนว่าหลังเลือกตั้งต้องการกลับมาเป็นรัฐบาลอีก ยิ่งคาดเดาไม่ยากว่าจะมีท่าทีอย่างไรกับร่างกฎหมายฉบับนี้
ผู้มีส่วนได้เสียในร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้
อย่าเข้าใจผิดคิดว่าผู้ที่เดือดร้อนจนต้องออกแรงค้านคือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แสนล้านหมื่นล้านบาททั้งหลาย เพราะบริษัทเหล่านี้ซื้อที่ดินกันปีต่อปีในฐานะที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ภาระภาษีในกระบวนการทำธุรกิจก็เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนและจะถูกรวมไปในราคาขายในที่สุด ดังนั้น คนกลุ่มนี้ไม่เดือดร้อน ซ้ำยังจะได้ประโยชน์หากแลนด์ลอร์ดเจ้าของที่ดินโดนภาระภาษีกดดันให้รีบขาย
ผู้ที่เดือดร้อนตัวจริงคือแลนด์ลอร์ด ที่มีที่ดินมูลค่าสูงๆ และเคยเสียภาษีต่ำๆ ไม่ได้พัฒนาใช้ประโยชน์ที่ดินที่มีเต็มที่ และส่วนใหญ่ตกทอดกันมา แม้ในร่างกฎหมายฉบับนี้จะเริ่มเก็บในอัตราต่ำ แต่จากที่เคยเสียภาษีน้อย มาเป็นเสียเพิ่มขึ้นอีก และอนาคตอาจถูกปรับเพิ่มอัตราภาษีได้ ยังไงก็ไม่แฮปปี้
ปัญหาของบริษัทอสังหาฯ อยู่ที่ราคาที่ดินที่เป็นวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และผู้บริโภคที่เป็นผู้ซื้อกำลังซื้อต่ำ
ปัญหาของประชาชนคนซื้อบ้าน คอนโดฯ คือรายได้เพิ่มขึ้นช้ากว่าราคาห้องชุดและบ้านที่เพิ่มขึ้น ทำให้ไม่สามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ตามต้องการ
ดังนั้น พิจารณาจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พิจารณาจากโครงสร้างอำนาจทางการเมืองสังคมในปัจจุบันแล้ว คาดเดาได้เลยว่า ร่างกฎหมายนี้จะไม่ผ่านออกมาบังคับใช้
ที่ผ่านมา 3-4 ปี ใครที่ฝันว่ารัฏฐาธิปัตย์ทุกวันนี้จะเผลอให้ผ่าน
หรือใครที่ทุ่มเทเวลามากมายเพื่อผลักดัน
ก็คิดเสียว่าฝันไป และยังดีที่ได้ฝัน
ความเห็น 41
เก็บจริงชาวบ้านน่าจะโดนลูกหลงครบทั้งประเทศ สิ้นเนื้อประดาตัวละไม่ว่า คนรวยเขามีที่ปรึกษาขั้นเทพสบายมาก. ชาวบ้านมีที่ปรึกษานักกฏหมายคนรู้เรื่องภาษีมาแก้ให้ไหม. ไม่มี ดังนั้นบังคับใช้จริง. คนที่เดือดร้อนคือชาวบ้านครับไม่ใช่คนรวย. มโนนะได้แต่เรื่องจริงมันหนังคนละม้วนครับ
22 ส.ค. 2561 เวลา 05.17 น.
visoottum游元魁
คนรวยคุมประเทศ
อีกห้าร้อยชาติก็ไม่ได้
เก็บภาษีที่ดิน
22 ส.ค. 2561 เวลา 05.17 น.
ไร่ชินตะวัน
ขอความรู้ด้วย คือว่าเมื่อก่อนที่เป็นทบ5 เสียค่าดอกหญ้าทุกปี ทีนี้รัฐบาลยกเลิกที่ทบ5 ให้เป็นที่ว่างเปล่า เทศบาลก็ไม่รับจ่าย ภาษี ขึ้นโฉนดก็ไม่ได้ ต้องรอให้ทางรัฐบาล อนุมัติก่อนจะแล้วที่ดินถึงจะออกโฉนดให้ แต่ต้องเป็นเจ้าหน้าที่จาก กทม มาสำรวจ แต่ละปี ว่าจะถึงคิวแต่ละจังหวัด ทำไมลำบากจัง ใครรู้ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อย ที่ตกทอดจากบรรพบุรุษ 40ปีแล้ว
22 ส.ค. 2561 เวลา 05.10 น.
kris Senamart๗๘
มันยาก ที่จะสำเร็จ
22 ส.ค. 2561 เวลา 05.10 น.
มีแต่รีดภาษีคนจนเท่านั้น คนรวยได้อลประโยชน์มาก คนจนแย่
22 ส.ค. 2561 เวลา 05.03 น.
ดูทั้งหมด