นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวปาฐกถาพิเศษ “วิสัยทัศน์กรุงเทพฯ ในอนาคตกับภาคอสังหาริมทรัพย์” ว่า คอนโดมิเนียมกับเมืองเป็นของคู่กันสอดคล้องกับเทรนด์ Urbanization ซึ่งปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ที่เกิดการกระจายตัวของประชากรเชิงพื้นที่ไปยังเขตเมืองมากขึ้น ขณะที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงที่มีศักยภาพ คนต่างชาติสนใจเข้ามาอยู่อาศัยและทำงานเป็นประโยชน์กับประเทศชาติโดยรวม เพราะการดึงคนเก่งหรือผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศ สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ
ทั้งนี้ ทิศทางของเมืองมีผลต่อภาคอสังหาฯ ซึ่ง กทม. มุ่งพัฒนาเมืองกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น ทั้งแง่กฏระเบียบต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ ลดความยุ่งยาก ปัญหารถติด เพิ่มพื้นที่เขียวเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ส่วนผังเมืองจะมีการปรับให้เหมาะสมในแต่ละโซนที่มีการพัฒนาโครงการคอนโดเพิ่มขึ้นเพราะราคาที่ดินแพงขึ้น จึงเห็นคอนโดกระจายไปอยู่ในชุมชนต่างๆ เพิ่มขึ้น ตามเทรนด์ Urbanization โลก
ในอนาคตยังจะมีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล กับรถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา (Light Rail Transit : LRT) สายบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมทั้งการทำรถไฟฟ้าสายสีเทา แนวเรียบด่วนรามอินทรา
“ใจผมอยากพัฒนาโซนตะวันออกเชื่อมโยงกับโซนอีอีซี ผ่านรถไฟฟ้าความเร็วสูง เหมือนโตเกียว โยโกฮาม่า รวมทั้งการปรับปรุงผังเมืองรวมฉบับใหม่ ปัจจุบันอยู่ในขั้นที่3”
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน กรุงเทพฯ ยังมีออฟฟิศให้เช่าในราคาที่ต่ำกว่าเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะฮ่องกง สิงคโปร์ โตเกียว ทำให้มีบริษัทข้ามชาติสนใจที่เข้ามาตั้งสำนักงานในกรุงเทพฯ จำนวนมาก เพราะค่าครองชีพถูกกว่า ฮ่องกง สิงคโปร์ แต่คุณภาพชีวิตต่ำ จึงต้องพัฒนาเมืองให้ดีขึ้น เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตคนดีขึ้น เพื่อดึงคนเก่งจากทั่วโลกเข้ามาทำงานมากขึ้นจากคู่แข่งอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง โดยเฉพาะคนจีน ดังนั้น ต้องหามาตรการภาษี อำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ เข้ามาทำให้เกิดดีมานด์เข้ามาจำนวนมหาศาล
แม้ว่ากรุงเทพฯ จะเป็นเมืองที่มีผู้ที่เดินทางมาเยือนมากที่สุด เป็นอันดับ 1 แต่ดัชนีความน่าอยู่ทั่วโลกอยู่ในอันดับที่ 98 ในฐานะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงต้องการทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน โดยตั้งเป้าหมายปี 2570 กรุงเทพฯ จะเป็นเมืองน่าอยู่ 1ใน5 อันดับแรกของโลก โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พัฒนาคุณภาพชีวิตของคน สร้างโอกาสสำหรับทุกคนและสร้างความไว้วางใจ
ถอดบทเรียนใบอนุญาตคอนโดเป็นไกด์ไลน์
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในปัญหาสำคัญขณะนี้ในเรื่องใบอนุญาตโครงการคอนโด ไม่ว่าจะเป็น AETAS แอชตันอโศก 125 สาทร ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา วงส์สว่าง หรือสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ทาง กทม.จึงถอดบทเรียนจากกรณีเหล่านี้ออกมาเป็น “ไกด์ไลน์” แทนที่ใช้วิจารญาณของคณะกรรมการ
ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค ผู้ประกอบการ รวมถึงธนาคารที่ปล่อยกู้ เพื่อความชัดเจน ล่าสุดรัฐบาลได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหากรณีแอชตัน อโศก โดย รมช.คมนาคม ตั้งคณะทำงานเข้ามาดูแล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักลงทุน
ความเห็น 0