บุรีรัมย์- “บิ๊กโจ๊ก” รุดแถลง บุดจับเต็นท์รถรายใหญ่บุรีรัมย์ ฉ้อโกงปชช.หลายร้อยราย จับผู้ต้องหา 4 ราย สองผัวเมียเจ้าของและลูกน้อง อายัดรถ 200 คัน ยึดทรัพย์กว่า 200 ล้าน ปชช.ตกเป็นเหยื่อแห่มอบดอกไม้ขอบคุณหวังจะได้เงิน-รถถูกโกงคืน
ช่วงค่ำวันนี้ (21 ก.พ.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาแถลงผลการจับกุมเต็นท์รถรายใหญ่ ที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ หลังเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ชุดสืบ สภ.สตึก และฝ่ายปกครองอำเภอสตึกกว่า 100 นาย ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุมเต็นท์รถ
โดยได้ทำการอายัดรถกว่า 200 คัน และจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ยึดทรัพย์กว่า 200 ล้านบาท หลังจากได้มีประชาชนผู้เสียหายหลายราย เข้าร้องเรียนศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินประชาชน ว่าถูกเต็นท์รถดังกล่าวหลอกลวงฉ้อโกงสูญทั้งรถทั้งเงิน แถมยังถูกบริษัทไฟแนนซ์ฟ้องร้องบังคับคดีทางแพ่ง ถูกยึดบ้าน ยึดรถ เดือดร้อนมานาน
ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พร้อมคณะเดินทางมาแถลงข่าว ได้มีประชาชนผู้เสียหายจำนวนมาก นำดอกไม้มามอบเพื่อแสดงความขอบคุณ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และคณะ ที่มาให้ความช่วยเหลือเพราะที่ผ่านมาเคยร้องเรียนหลายหน่วยงาน และแจ้งความตำรวจ แต่เรื่องก็เงียบหาย แต่ครั้งนี้มีความหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่าเต็นท์รถดังกล่าวเปิดดำเนินการมานานกว่า 20 ปีหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนหลายร้อยราย มีเงินหมุนเวียนปีละ 200 - 300 ล้านบาท โดยวิธีการของเต็นท์รถดังกล่าวจะเปิดเป็น หจก.เพื่อรับซื้อรถ 2 ประเภท คือ รถที่อยู่ในไฟแนนซ์และไม่ได้ติดไฟแนนซ์ โดยรถที่ไม่ได้อยู่ในไฟแนนซ์ก็บอกว่าจะให้ราคาสูงเพื่อจูงใจ แต่เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อนำรถมาขาแล้วก็จ่ายเงินไม่ครบ เมื่อผู้เสียหายมาขอรถคืนก็ไม่ให้แต่กลับเอารถไปจำหน่ายอีกทอดหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นการฉ้อโกง
อีกวิธีการคือเจ้าของรถที่ยังติดไฟแนนซ์นำรถมาขาย ก็เสนอราคาให้สูงเมื่อผู้เสียหายตกลงขาย เต็นท์ก็รับปากจะผ่อนต่อให้แต่กลับนำรถไปขายต่อโดยที่ไม่ส่งไฟแนนซ์ให้ตามที่รับปาก ทำให้ชาวบ้านต้องเสียทั้งรถ และต้องมาผ่อนกระดาษเปล่าอีก ทั้งยังถูกฟ้องร้องคดีแพ่งอีก ปัญหาที่เกิดขึ้นความรู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกง ทั้งไม่มีใครให้คำแนะนำปรึกษาจึงทำให้มีคนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก
หลังจากได้รับเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ได้บูรณาการกันหลายฝ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเดิมทางเต็นท์พยายามจะให้เป็นคดีแพ่งแต่เมื่อเชื่อมโยงข้อมูลการสอบสวนเข้าด้วยกัน ซึ่งพฤติการณ์เป็นการกระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกถือเป็นความผิดคดีอาญาชัดเจนในลักษณะร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และเข้าข่ายกระทำผิดฐานฟอกเงิน
จึงนำมาซึ่งการขออนุมติหมายศาลจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ เจ้าของเต็นท์รถ สามี ภรรยา และลูกน้องที่ทำหน้าที่คอยรับซื้อขายแลกเปลี่ยนรถ ทั้งนี้ยังได้ยึดทำการทรัพย์อีกกว่า 200 ล้านบาทด้วย พร้อมยืนยันว่าคดีดังกล่าวจะไม่เงียบหายไป และถึงแม้จะใช้กฎหมายยึดทรัพย์สินผู้ต้องหาเพื่อมาจ่ายคืนให้กับผู้เสียหาย ก็เป็นเพียงแค่การบรรเทาโทษเท่านั้น แต่คดีอาญายังคงดำเนินต่อไป
ความเห็น 29
🐲Np~)NuTtHaPoNg(~qN🐲
ตรงๆน่ะครับชาวบ้านก็หัวหมอ ไม่มีเงินเอาที่รถบ้านไปจำนำจำนอง ดอกเท่าไหล่รับได้หมด พอไม่มีเงินส่งเค้าฟ้องตามกฎหมายบังคับคดียึดทรัพย์ ก็ไม่ยอมรับไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรมอยากได้คืนแบบฟรีๆ พวกหัวหมอ
21 ก.พ. 2562 เวลา 16.50 น.
งานนี้เข้าตาขอชื่นชม โจ๊ก ทำได้ดี
21 ก.พ. 2562 เวลา 16.20 น.
chuanchom
โอ้โฮคุณตำรวจ...ปล่อยได้ยังไงให้ผ่านมาตั้งหลายร้อยราย กว่าจะเป็นรายที่ร้อยนี่มันผ่านการโกงเขามานานแสนนานแค่ไหนเนี่ยยย...
21 ก.พ. 2562 เวลา 16.49 น.
✍︎ Panya $.
ไม่เข้าใจหน่วยงานอื่นๆ
ทำไมไม่ทำงานให้ชาวบ้าน
หรือมีใต้โต๊ะ ปล่อยคนเลว เสวยสุขบนความทุกข์ของชาวบ้าน
นี่แหละราชการไทย
เข้าชาม เย็นชาม กลางวัน 2 ชาม
21 ก.พ. 2562 เวลา 16.25 น.
MTB
ว่าที่ ผบตร คนใหม่ ปฏิรูป ไปเลยครับ
21 ก.พ. 2562 เวลา 16.20 น.
ดูทั้งหมด