ถนน 10 สายใน 'กรุงเทพฯ' ที่ 'รถติด' ที่สุดในปี 2563

"กรุงเทพฯ" จัดอยู่เป็นเมือง"รถติด" สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกโดยในปี 2562 ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 11 จาก 416 เมืองจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก แม้อันดับโลกของกรุงเทพฯ จะดีขึ้นจากปี 2561 ซึ่งอยู่อันดับที่ 8 แต่ปริมาณรถติดยังคงเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ข้อมูลจาก Tom Tom เว็บไซต์สถิติด้านการจราจรพบว่าใน 1 ปี คนกรุงเทพฯ ต่างต้องเสียโอกาสต่างๆ ไปกับเวลาไปกับการเดินทางโดยเปล่าประโยชน์ หนึ่งในนั้นคือต้นทุนทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะต้นทุนด้านเวลาใช้เวลาบนท้องถนนเพิ่มขึ้น 207 ชั่วโมง หรือราว 8 วัน 15 ชั่วโมง ซึ่ง EIC (Economic Intelligence Center) ได้เปรียบเทียบเวลาที่ต้องเสียไปกับ "รถติด" ต่อปีของคนไทย เทียบเท่ากับการดูฟุตบอล 138 คู่ติดต่อกัน หรือการดูภาพยนตร์ Harry Potter ทั้ง 7 ภาคจบ 9 รอบติดต่อกัน

โดย สถิติจาก Longdo Traffic ได้รวบรวมถนนที่รถติดมากที่สุด สะท้อนจากดัชนีเฉลี่ยสูงสุดของการจราจรที่ติดขัดในถนนแต่ละสายตลอดปี 2563 โดยปรากฏถนนสายต่างๆ ที่อาจเป็นถนนหน้าบ้านคุณ 10 สาย ดังนี้

อันดับที่1 ถนนตีทอง เขตพระนคร ดัชนีรถติดสูงสุดเฉลี่ย9.9

อันดับที่2 ถนนวรจักร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ดัชนีรถติดสูงสุดเฉลี่ย9.9

อันดับที่3 ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง ดัชนีรถติดสูงสุดเฉลี่ย9.9

อันดับที่4 ถนนบ้านหม้อ เขตพระนคร ดัชนีรถติดสูงสุดเฉลี่ย9.9

อันดับที่5 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตดินแดง, ห้วยขวาง ดัชนีรถติดสูงสุดเฉลี่ย9.9

อันดับที่6 ถนนพาหุรัด เขตพระนคร ดัชนีรถติดสูงสุดเฉลี่ย9.8

อันดับที่7 ถนนมหาไชย เขตพระนคร ดัชนีรถติดสูงสุดเฉลี่ย9.8

อันดับที่8 ถนนหลวง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ดัชนีรถติดสูงสุดเฉลี่ย9.8

อันดับที่9 ถนนประชาราษฎร์สาย1 เขตบางซื่อ ดัชนีรถติดสูงสุดเฉลี่ย9.8

อันดับที่10 ถนนราชดำเนินนอก เขตพระนคร  ดัชนีรถติดสูงสุดเฉลี่ย9.8

แน่นอนว่าแม้ถนนข้างต้นจะเป็นเส้นทางที่ดัชนีบ่งชี้ว่าการจราจรสาหัสที่สุด 10 อันดับ แต่คนที่ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ รู้ดีว่า ถนนสายอื่นๆ ทั่วกรุงก็เผชิญกับสถานการณ์ไม่ต่างกัน หรือสาหัสลดหลั่นกันมาแค่เล็กน้อย ซึ่งคนที่เดินทางในกรุงเทพฯ รู้ดีว่าต้องเผื่อเวลาในการเดินทางอย่างมากเพื่อลดความเสี่ยง "พลาด" โอกาสสำคัญๆ ในชีวิตเสมอ

ซึ่งปัญหารถติด ไม่ใช่แค่ชวนหงุดหงิดและเสียเวลาแบบที่ไม่ควรเสีย แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญของปัญหามลพิษในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคนกรุงเทพฯ โดยตรง รวมถึงอาจส่งผลทางอ้อมไปยังปัญหาอื่นๆ

•  เราเสียโอกาสอะไรจาก "รถติด" บ้าง? 

มีผลกระทบต่อสุขภาพของคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ยกตัวอย่างเช่น จากรายงานการศึกษาของ องค์การอนามัยโลก (WHO) ในอเมริกาเหนือและยุโรปพบว่าอาการหลอดลมอักเสบของเด็กที่เป็นโรคหอบหืดมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ซึ่งทำให้การทำงานของปอดในเด็กแย่ลง เป็นต้น

นอกจากนี้ ปัญหารถติด-มลพิษในกรุงเทพฯ ยังส่งผลต่อผลิตภาพแรงงานของคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะงานกลางแจ้งจากปริมาณมลพิษที่อยู่ในระดับสูง และความน่าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการพำนักระยะยาว (long stay) ในกรุงเทพฯ ซึ่งมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาจราจรและมลพิษทางอากาศ ซึ่งนำไปสู่การแก้ไขปัญหา เช่น การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด การสนับสนุนพาหนะพลังงานสะอาด การจัดวางผังเมืองที่เอื้อต่อการเดินทางเท้า และการออกแบบระบบขนส่งสาธารณะให้มีความครอบคุลมและเชื่อมต่อถึงที่หมายเพื่อลดการใช้ยานพาหนะหลายต่อ เป็นต้น

ที่มา: SCB EIC Traffic Longdo TomTom