ข่าวดีมากมายในช่วงใกล้สิ้นสถานการณ์ฉุกเฉิน คือรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ วันที่28 เม.ย.63 มีเพียง 7 ราย ต่ำสิบติดต่อกันเป็นวันที่สอง
ยอดสะสม 2,938 คน
ส่วนคนที่รักษาหายกลับบ้านได้ 43 ราย รวมผู้หายป่วยสะสม 2,652 ราย คิดเป็น90.27% ที่ยังรักษาในโรงพยาบาล 232 รายหรือ7.90%
ตามด้วยอีกข่าวดี(หรือไม่) ครม.มีมติขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน ถึง31พ.ค.63
ห้ามออกนอกเคหสถานสี่ทุ่มถึงตีสี่ต่อไป การข้ามเขตจังหวัดให้งดหรือชะลอไว้ กิจกรรมที่ทำแล้วคนหมู่มากมาชุมนุมก็ไม่ได้ การเดินทางเข้าประเทศก็ต้องควบคุมต่อไป
ที่ยินดีกระดี๊กระด๊า จินตนาการเรื่องใดไว้ล่วงหน้า ต้องหดกลับมาแอ็ตโฮมต่อไป
รายงานเดียวกัน มีเสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ยอดรวมเป็น 54 โดยผู้เสียชีวิต 1 ใน2 เป็นชายไทยอายุ 52 มีประวัติเสี่ยงจากการสัมผัสผู้ป่วยโควิดรายก่อน จากการเข้าร่วมประชุมสัมมนา เริ่มปรากฏอาการ มีไข้ คลื่นไส้ หลังจากตรวจพบเชื้อ อาการก็ไม่ดีขึ้น ถึงขั้นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แต่ก็เสียชีวิตในที่สุด
การร่วมประชุมสัมมนาเป็นกิจกรรมอันเสี่ยงยิ่งอย่างหนึ่ง
ผู้เสียชีวิตอีกราย เป็นหญิงไทยวัย 63 อาชีพค้าขาย มีประวัติสัมผัสทั้งคนไทยและต่างชาติ ไม่สวมหน้ากากอนามัย อาศัยอยู่บ้านเดียวกับคนในครอบครัว คือสามีและหลานที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 เข้าโรงพยาบาลที่ อ. ป่าตอง จ.ภูเก็ต ด้วยอาการเวียนศีรษะ หายใจเหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย ตรวจพบเชื้อโควิด เสียชีวิตในเวลาต่อมา
การมีผู้ป่วยอยู่ในครอบครัว อาชีพค้าขาย พบปะผู้คนหลากหลายในชุมชนการท่องเที่ยว โดยไม่สวมหน้ากาก เป็นบทเรียนความเสี่ยงภัย
ข้อมูลของผู้ติดเชื้อวันนี้ คุณหมอบอกว่า จากจำนวน 7 ราย พบว่า 5 รายมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องระวัง รักษาระยะห่างแม้ในครอบครัว โดยเฉพาะที่มีผู้ป่วยอยู่ในบ้าน
การที่ผู้ติดเชื้อใหม่น้อยลง ผู้ป่วยในโรงพยาบาลก็ลดลง มาตรการควบคุมต่างๆ จะผ่อนคลาย แต่สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการต่อจากนี้คือการเตรียมพร้อมสำหรับภาวะฉุกเฉินที่จะเกิด การตรวจเชิงรุกจะต้องเข้มข้นขึ้น
พร้อมกับการให้ความรู้กับประชาชนในการดูแลตัวเองเพื่อความปลอดภัย ไม่เป็นผู้นำเชื้อไปติดกับคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ การแนะนำการปรับมารยาทการรับประทานอาหาร การให้ความสำคัญกับระยะห่างระหว่างบุคคล
รณรงค์กรทำงานที่บ้านต่อไป โดยกระทรวงสาธารณสุขจะสร้างแบบอย่างเวิร์กฟรอมโฮม 70%
กระตุ้นให้มีการลงทุนพัฒนาระบบเพื่อเกิดการทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น
ทั้งนี้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นำข้อมูลสาเหตุการติดเชื้อของกรมควบคุมโรคมาประมวล วิเคราะห์ รายงานปัจจัยเสี่ยงว่า จากจำนวนผู้ป่วย 2,568 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า มากที่สุด 1,069 ราย รองลงมาเป็นผู้มีอาชีพเสี่ยง ทำงานในสถานที่แออัด 250 ราย เป็นคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 250 ราย จากสนามมวย 248 ราย สถานบันเทิง 201 ราย พิธีกรรมทางศาสนา 83 ราย สัมผัสผู้เดินทางจากต่างประเทศ 33 ราย การค้นหาเชิงรุก 20 ราย ไปสถานที่แออัด เช่น งานแฟร์ คอนเสิร์ต 16 ราย
ข้อมูลนี้ เป็นปัจจัยเพื่อการพิจารณาว่าจะผ่อนคลายให้กับกิจการประเภทใด และกิจกรรมใดที่จะให้เดินหน้าได้
สนามมวย สถานบันเทิง คงต้องรอต่อไป เพราะถึงยังไงก็ขายเหล้าไม่ได้
ความเห็น 5
Ann🍒🍒🍒💰💰🎁🎁
ธุรกิจผลิตอบาย 555🤣🤣🤣
28 เม.ย. 2563 เวลา 15.42 น.
😚Mix😚
อย่าห่วงขาย ห่วงรวย ตายไปเอาไปไม่ได้นะ เอาตัวกันให้รอดกรอน ทำถูกแล้วค่า
28 เม.ย. 2563 เวลา 16.26 น.
Ake
ปิด ไปเลย ร้านเหล้า
สิ่งไม่ดี ไม่เอา
28 เม.ย. 2563 เวลา 23.21 น.
อาชีพใครอาชีพมันกรรมใครกรรมมันผลกระทบต้องเจอทุกคน
28 เม.ย. 2563 เวลา 17.01 น.
::: J:O:U:I :::
พึ่งเคยได้ยินครั้งแรกในชีวิต ธุรกิจผลิตอบาย
29 เม.ย. 2563 เวลา 04.51 น.
ดูทั้งหมด