งาดำ (Black sesame seeds) เป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หากรับประทานเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
ภายในงาดำเต็มไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เช่น วิตามินบีรวม แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส สังกะสี หรือเหล็ก ช่วยบำรุงสุขภาพทุกๆ ส่วนในร่างกาย และยังป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยทองได้อีกด้วย
แล้วจะรับประทานงาดำอย่างไรให้ได้ประโยชน์ มาลองเรียนรู้กัน
ทำความรู้จักกับงาดำ
งาดำเป็นธัญพืชขนาดเล็ก มีกลิ่นหอม และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
งาดำเป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศเอธิโอเปีย ต่อมาได้แพร่กระจายพันธุ์ไปยังอินเดีย จีน แอฟริกาเหนือ ทวีปอเมริกา และเอเชียใต้
ลักษณะของต้นงา มีลำต้นเป็นเหลี่ยม มีขนอ่อนปกคลุมอยู่ทั่วไป ลำต้นสูงประมาณ 30-100 เซนติเมตร ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือรูปหอก กว้างประมาณ 2-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6-10 เซนติเมตร ออกเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับตรงข้ามกัน
ดอกมีลักษณะเป็นหลอด ออกเป็นดอกเดี่ยวบริเวณซอกใบตอนบนของลำต้นโดยรอบ มีกลีบดอกเป็นสีขาวหรือสีชมพู ลักษณะของผลจะแยกออกเป็น 4 พู เมื่อผลแห้งจะมีเมล็ดรูปไข่ แบน สีดำ ขนาดเล็กมากมาย แต่ละฝักมีเมล็ด 80-100 เมล็ด
คุณค่าทางโภชนาการของงาดำ
งาดำปริมาณ 100 กรัม ให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
- พลังงาน 573 กิโลแคลอรี่
- โปรตีน 17.73 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 23.45 กรัม
- เส้นใยอาหาร 11.8 กรัม
- ไขมันรวม 49.67 กรัม แบ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 18.759 กรัม กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 21.773 กรัม กรดไขมันอิ่มตัว 6.957 กรัม และกรดไขมันจำเป็นอื่นๆ
- มีวิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญหลายชนิด เช่น ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินอี แคลเซียม ธาตุเหล็ก หรือซีลีเนียม
ประโยชน์ของงาดำ
งาดำเป็นเมล็ดธัญพืช ประกอบด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด จึงอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ดังนี้
ช่วยบรรเทาอาการปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์ ธาตุทองแดงที่อยู่ในงาดำมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดจากโรครูมาตอยด์ และยังมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งสำคัญต่อการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ ข้อต่อ กระดูกอ่อน และหลอดเลือดให้แข็งแรง
ช่วยบำรุงสายตา ในการแพทย์แผนจีนเชื่อว่า ดวงตาสัมพันธ์กับตับ ถ้าตับมีปัญหาจะทำให้ดวงตาอ่อนล้า ตาแห้ง และมองเห็นไม่ชัด ในแพทย์แผนจีนจึงใช้งาดำเพื่อบำรุงสายตา และตับไปพร้อมๆ กัน
ช่วยบำรุงผิวพรรณ และกระดูก งาดำอุดมไปด้วยแคลเซียม และสังกะสี ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เพิ่มมวลกระดูก ป้องกันการเกิดโรคกระดูกเปราะ กระดูกพรุน ต้านทานอาการข้ออักเสบ โรคข้อเสื่อม และยังมีวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น
ช่วยบำรุงหัวใจ งาดำช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจสะอาดขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคความดันโลหิตสูง
ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เมล็ดงาดำอัดแน่นด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้ และยังมีเซซามีน ช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระไปทำลายตับ ทำให้ตับทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ร่างกายไม่มีสารพิษสะสมก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
แก้เคล็ดขัดยอก ตามตำรายาไทยจะใช้น้ำมันที่บีบจากเมล็ดงา หุงเป็นน้ำมันใส่บาดแผล และผสมเป็นน้ำมันทาถูนวดแก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ ปวดบวม ลดการอักเสบ
สรรพคุณของงาดำต่อการชะลอวัย
งาดำมีสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย มีสรรพคุณช่วยชะลอวัย รวมไปถึงช่วยบำรุงผิวสดใสอยู่เสมอ
- งาดำมีสารอาหารที่ช่วยซ่อมแซมและบำรุงผิว ทำให้ผิวไม่เหี่ยวแห้ง
- ช่วยบำรุงเส้นผมให้ดำเงางาม แข็งแรง ป้องกันการเกิดผมหงอก
- ช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
- งาดำช่วยป้องกันเส้นเลือดแข็งตัว ช่วยขยายหลอดเลือด
- ช่วยให้ระบบการทำงานของหัวใจแข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ป้องกันลิ่มเลือด
- งาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งในส่วนต่างๆ ของร่างกายได้
- ช่วยลดความเครียด บำรุงระบบประสาทและสมอง
- งาดำมีธาตุเหล็กสูง จึงช่วยบำรุงเลือด ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ร่างกายจึงแข็งแรงต่อเชื้อโรค
- ป้องกันโรคหวัด โรคเหน็บชา ตะคริว
- งาดำช่วยให้หลับง่ายขึ้น
รับประทานงาดำอย่างไรให้ได้ประโยชน์ที่สุด
วิธีการรับประทานงาดำให้ได้ประโยชน์มากที่สุดคือ เคี้ยวให้ละเอียด ให้เม็ดงาแตกออก ร่างกายจึงจะดูดซึมสารอาหารจากงาดำได้ดี จะรับประทานเปล่าๆ หรือเอามาใส่กับอาหารอย่างอื่น เช่น ใส่ในขนมปัง โรยในจานข้าว หรือประกอบอาหารต่างๆ เพื่อช่วยให้รับประทานได้ง่ายขึ้นก็ได้
สำหรับผู้สูงอายุควรรับประทานงาดำวันละ 10 ช้อน ส่วนคนวัยทำงานควรรับประทานงาดำวันละ 3-4 ช้อน เป็นปริมาณเหมาะสมที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
นอกจากนี้ งาดำยังสามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันเพื่อใช้นวดทาบริเวณต่างๆ ของร่างกายที่มีอาการปวด และยังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บที่เส้นเอ็นได้
ไอเดียการรับประทานงาดำเพื่อสุขภาพ
การรับประทานงาดำให้ได้ประโยชน์ ต้องใส่ใจการเลือกงาดำ โดยเลือกงาดำที่สดใหม่ ไม่ผสมสารกันชื้น และไม่ผ่านการคั่ว เนื่องจากการคั่ว หรือการให้ความร้อนจะทำให้คุณค่าของงาดำลดลง
ไอเดียการรับประทานงาดำเพื่อสุขภาพ มีดังนี้
- นำมารับประทานกับอาหารอื่นๆ อาจนำงาดำมาใส่ในอาหารอย่างอื่น เช่น ใส่ในขนมปัง โรยในจานข้าว หรือรับประทานงาดำเปล่าๆ ซึ่งจะต้องเคี้ยวให้ละเอียด เพื่อให้เม็ดงาแตกออก ร่างกายจึงจะดูดซึมสารอาหารจากงาดำได้ดี
- ทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นำงาดำคั่ว 100 กรัม ปั่นรวมกับน้ำ 2 ถ้วย กรองเอาแต่น้ำ และนำน้ำงาดำที่ได้มาตั้งไฟอ่อนๆ จนเดือด ใส่น้ำตาลทรายแดงเพื่อเพิ่มรสชาติ คนให้ละลาย ยกลงจากเตา ตั้งไว้ให้พออุ่นก็พร้อมดื่มได้เลย ส่วนใครที่อยากดื่มแบบเย็นๆ ก็ใส่น้ำแข็งลงไปได้เหมือนกัน
- ทำขนมเพื่อสุขภาพ นำกล้วยมาผสมกับแป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย แป้งข้าวเหนียว 2 ช้อนโต๊ะ แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ งาดำป่น 2 ช้อนชา น้ำกะทิ 1 ถ้วย น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น ½ ช้อนชา ขยำให้เข้ากันเทใส่พิมพ์ นึ่งประมาณ 15 นาทีก็จะได้ขนมจากงาดำที่อร่อย และมีประโยชน์
ไอเดียการใช้งาดำเพื่อสุขภาพและความงาม
นอกจากนำมารับประทานแล้ว งาดำก็สามารถนำมาใช้เพื่อสุขภาพได้เช่นกัน ดังนี้
- ผิวขาวสวยด้วยงาดำ นำงาดำประมาณ 2 ช้อนชามาบดให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำเป็นประจำก่อนนอนจะมีผิวที่ดูกระจ่างใสขึ้นอย่างแน่นอน
- งาดำขัดผิวสวย นำงาดำมาผสมกับน้ำผึ้ง โยเกิร์ต แล้วนำมาขัดผิว ทิ้งไว้สักพัก ล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำจะช่วยให้ผิวสวยเนียนนุ่ม ทั้งยังแก้ปัญหาผิวแห้งเสีย หยาบกร้านได้เป็นอย่างดี
วิธีการเลือกซื้อเมล็ดงาดำ
การเลือกซื้อเมล็ดงาดำเพื่อรับประทาน ควรเลือกซื้องาดำที่สะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกเข้ามาเจือปน
ไม่ควรซื้อตามร้านขายของชำ เนื่องจากอาจจะมีการเก็บรักษาที่ไม่สะอาด ทำให้มีสิ่งสกปรกจากแมลงเข้ามาเจือปน
ไม่ควรซื้อแบบบดสำเร็จมารับประทาน เพราะมีโอกาสพบเชื้อราสูง
หลังจากซื้องาดำมาแล้ว วิธีการเก็บรักษา ให้เก็บในขวดที่สะอาด มีฝาปิดมิดชิด เก็บเอาไว้ในที่แห้ง เพื่อไม่ให้เสียก่อนเวลาอันควร
ข้อควรระวัง
- การรับประทานงาดำแบบป่นดีต่อระบบย่อยอาหารที่สุด แต่งาแบบป่นมักมีเชื้อราปนเปื้อนได้ง่ายกว่างาชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะงาดำแบบที่บดสำเร็จแล้ว จึงต้องเก็บรักษาอย่างระมัดระวัง เก็บให้พ้นความชื้น อากาศ ความร้อน และแสงแดด
- ตำราอายุรเวทระบุว่า สตรีมีครรภ์ในช่วง 3 เดือนแรกไม่ควรรับประทานงาดำ เพราะงาดำมีฤทธิ์เป็นยาขับประจำเดือน อาจทำให้แท้งได้
- การรับประทานงาดำในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร และลำไส้ได้
- ผู้ป่วยเบาหวานที่รักษาด้วยยาลดน้ำตาลในเลือด ควรรับประทานงาดำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากงาดำมีผลลดระดับน้ำตาลในเลือดเช่นกัน ถ้ารับประทานร่วมกันอาจทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปจนเกิดผลเสียได้
แม้งาดำจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่อาหารทุกชนิดล้วนมีทั้งข้อดี และข้อเสีย จึงควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ เสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้อย่างเต็มที่
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
👨⚕️⚕️👩⚕️⚕️ ค้นหาโรค อาการ ยา โรงพยาบาล คลินิก และอ่านบทความสุขภาพ เขียนโดยคุณหมอหรือผ่านการรีวิวจากคุณหมอแล้ว ที่ www.honestdocs.co และ www.honestdocs.id
💪❤️ ไม่พลาดข้อมูลดีๆ ที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นทั้งกายและใจ คลิกที่นี่เพื่อแอดไลน์ @hdcoth หรือแสกน QR Code ด้านล่างนี้ และยังติดตามเราได้ที่ Facebook และ Twitter วันนี้
📱📰 โหลดแอป HonestDocs สำหรับ iPhone หรือ Android ได้แล้ววันนี้! จะอ่านบทความ จะเก็บบทความไว้อ่านทีหลัง หรือจะแชร์บทความให้คนที่เราเป็นห่วง ก็ง่ายกว่าเดิมเยอะ
เปรียบเทียบดีลสุขภาพ ทำฟัน และความงาม จาก รพ. และคลินิกกว่า 100 แห่ง พร้อมจองคิวผ่าน HonestDocs คุณหมอมือถือได้เลยวันนี้ ถูกกว่าไปเอง
ขอบคุณที่วางใจ ทุกเรื่องสุขภาพอุ่นใจ ให้ HonestDocs (ออเนสด็อกส์) คุณหมอมือถือ ดูแลคุณ ❤️
ความเห็น 0