ปี 2019 ได้ผ่านมาครึ่งปีแล้ว เวลาในปัจจุบันนี้ช่างผ่านไปรวดเร็ว จนทำให้เราต้องมองกลับมายังวันเวลาที่ผ่านมาว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง เหมือนกับกระแสต่าง ๆ ในวงการเกมที่ผ่านมา มีหลาย ๆ เทรนด์ได้เกิดขึ้นมา เทรนด์สามารถพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวงการเกม บางเทรนด์ก็จากมาแล้วก็จากไป วันนี้เราเลยนำเอาเทรนด์ของวงการเกมย้อนหลัง 5 ปีมาให้ดูกัน
2015 : เกมคืออุตสาหกรรมสื่อบันเทิงของยุคอนาคต
ในปี 2015 เป็นปีที่รายได้ของวงการเกมทั่วโลกเติบโตเป็นประวัติการณ์ โดยสามารถทำรายได้มากถึง 91.5 พันล้านเหรียญ (2.7 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วมากถึง 9.4% ซึ่งได้รับอนิสงส์มาจากการเติบโตของตลาดเกมเมอร์ในประเทศจีนและอายุเฉลี่ยของเกมเมอร์ที่อยู่ในช่วงวัยทำงานมากขึ้น จึงทำให้เกมมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นสื่อบันเทิงของยุคอนาคต
ปัจจุบันเกมได้กลายเป็นอุตสาหกรรมเกมเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2018 วงการเกมเพิ่มจาก 91.5 พันล้านเหรียญเป็น 137.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ ๆ สองเท่า อีกทั้งเกมRed Dead Redemption 2 ขึ้นทำเนียบสื่อบันเทิงที่ทำเงินได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้ว นอกจากนี้ตลาดของวงการเกมมือถือยังโตเพิ่มขึ้นมากถึง 50% อีกด้วย
ในปี 2019 วงการเกมก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการว่าวงการจะโตเพิ่มขึ้น 9.4% และมีมูลค่ารวม 152.1 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่น่าจับตามองคือเทคโนโลยี Cloud Gaming ที่กำลังจะออกมาในอนาคต อาจส่งผลให้วงการเกมมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
2016 : AR Game กำลังจะมา
Augmented Reality หรือ AR ถือว่าเป็นเทคโนโลยีหนึ่ง ที่กำลังมาแรงในปี 2016 โดยเฉพาะการมาถึงของเกม Pokemon : GO ที่ได้สร้างกระแสต่าง ๆ ไปทั่วทั้งโลก พร้อมทั้งกวาดรายได้มากถึง 950 ล้านเหรียญฯ ขณะเดียวกันก็เกิดประเด็นต่าง ๆ ในสังคมมากมาย ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย ความเหมาะสมและความเป็นส่วนตัว พร้อมกับความหวังว่า AR คือวิถีแห่งโลกอนาคต
กระแสของ AR ปัจจุบันไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ว่าจะเป็นเกมเฉพาะกลุ่มมากกว่า ซึ่งในตอนนี้มีหนึ่งค่ายที่ผลักดัน AR อย่างเต็มคือ Apple นั่นเอง ซึ่งจากการนำเสนอเกม Minecraft Earth ในงาน WWDC 2019 ที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่า AR สามารถพัฒนาไปได้อีกยาวไกล
ในขณะเดียวกันเกม AR ต่าง ๆ ยังคงทำรายได้อย่างต่อเนื่อง Pokemon: GO เองก็ยังทำรายได้ดีที่ 795 ล้านเหรียญในปี 2018 อีกทั้งเกมจากผู้สร้างเดียวกันอย่าง Harry Potter: Wizards Unite ก็เพิ่งจะเปิดให้เล่นไม่นานมานี้ ทำให้ AR ยังคงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่น่าจับตามอง
2017 : Esports ในฐานะอาชีพในฝันของเหล่าเกมเมอร์
Esports คือว่าเป็นปีที่เฉิดฉายมากสำหรับวงการ Esports โดยทั้งโลกมีงานแข่ง Esport รายการใหญ่มากถึง 22 รายการครอบคลุมตลอดทั้งปี นอกจากนี้ในประเทศไทยการมาถึงของ ROV (Realm of Valor ) ทำให้เกิดกระแสนี้ทั่วบ้านทั่วเมือง
ยังไม่นับกับโปรเพลเยอร์ไทยที่สามารถออกไปโชว์ผลงานระดับโลกอย่าง Mickey (Overwatch) , Jabz (Dota2) ประกอบกับรายได้ของนักกีฬา Esports ที่ได้มาจากหลายทางทั้งเงินสปอนเซอร์ เงินเดือนและเงินรางวัลจากการแข่งขัน ทำให้ไม่แปลกที่เกมเมอร์หลาย ๆ คนอยากที่จะประกอบอาชีพนี้
ปัจจุบัน Esports ยังคงเป็นหนึ่งในอาชีพที่ทำรายได้มากเป็นอันดับต้น ๆ ของสายอาชีพในวงการเกม อีกทั้งเกิดการขยายตัวของวงการเกมทั่วทั้งโลก ทำให้กีฬา Esports เติบโตมาก ทั้งในแง่ของผู้จัดงาน สปอนเซอร์และผู้เล่น ที่ในตอนนี้งานแข่งขันกีฬา Esports ใหญ่ ๆ เริ่มเข้าจัดในประเทศไทยมากขึ้น
แต่สิ่งที่กำลังเป็นประเด็นของการ Esporst ในไทยที่กำลังเป็นปัญหาตอนนี้คือการขาดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในอาชีพนี้ รวมถึงการที่หลาย ๆ คนมองไปในเรื่องผลประโยชน์มากเกินไปทั้งตัวผู้จัดงานและผู้เล่น ทำให้คงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ Esports ถึงจะยืนได้ในสังคมไทยอย่างเต็มตัว
สำหรับระดับโลกนั้นการที่ Esports มีจำนวนมากเกินไปกลับสร้างผลลบมากกว่า โดยเฉพาะในฐานะของผู้ชมที่ในบางครั้งการแข่งขันก็จัดขึ้นมาถี่เกินไปจนดูไม่ทันหรือว่าจัดแข่งในเวลาที่เรานอนหลับ ทำให้ต้องเสียสุขภาพ เสียการเรียน เสียการงานได้ ทำให้ในบางครั้งเราก็ต้องเลือกดูและยอมทนดูไฮไลท์การแข่งขันแทน
การที่ Esports เติบโตขึ้นย่อมเป็นเรื่องที่ดี ในขณะเดียวกันก็จะทำให้นักกีฬาในไทยและต่างประเทศพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ตามการแข่งขันที่สูงขึ้นนั่นเอง
2018 : Battle Royale
ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีของ Battle Royale ก็มิปาน เพราะหลาย ๆ ค่ายต่างส่งเกม Battle Royale หรือโหมด Battle Royale มากกว่า 20 เกม โดยมีสองเกมที่เป็นแนวหน้าของวงการคือ Playerunknown's Battlegrounds และ Fortnite ซึ่งภายในหนึ่งปีทั้งสองสามารถทำรายได้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญฯ และ 2.4 พันล้านเหรียญฯ ตามลำดับ
ในปี 2019 นั้นกระแสของเกม Battle Royale เรียกได้ว่ามอดลงค่อนข้างมาก โดยในตอนนี้ยอดผู้เล่นของเกมลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเกม PUBG หรือ Fortnite นอกจากนี้เกมน้องใหม่ที่เพิ่งออกในปี 2019 อย่าง Apex Legends ก็เข้าสู่สภาวะขาลงเช่นกัน แม้จะมีผู้เล่นทะลุ 50 ล้านคนในเวลาไม่นาน
จากสถานการณ์ที่ผ่านมาทำให้ยุคทองของ Battle Royale อาจจะจบลงในเร็ว ๆ นี้ หากไม่ปรับตัวให้ไวพอและรวมถึงขยายฐานลูกค้าให้กว้างกว่าเดิม
2019 : สงครามแพลตฟอร์ม
ในตอนนี้ไม่ว่าคำว่าแพลตฟอร์มไม่ได้แยกเฉพาะ PC และ Console เสมอไป แต่แยกไปถึงร้านจำหน่ายเกม บริการสมัครสมาชิกต่าง ๆ รวมถึงแพลตฟอร์มใหม่อย่าง Cloud Gaming ที่กำลังจะเปิดตัวในปลายปี 2019
การแยกแพลตฟอร์มมีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยสำหรับข้อดีคือการกระจายความเสี่ยงไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้หากแพลตฟอร์มไหนเจ๊งเราก็ยังมีแพลตฟอร์มเหลืออื่น ๆ อยู่ อีกทั้งยังทำให้เกิดการแข่งขันกันเพื่อเอาใจผู้บริโภคอีกด้วย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นสร้างภาระให้ผู้บริโภคเพราะเกมในสมัยนี้นิยมลงเป็น Exclusive ทำให้เมื่อเราอยากจะเล่นเกมไหนก็ต้องไปข้องเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนั้น
ยังไม่นับกับ Cloud Gaming ของทาง Stadia ที่กำลังจะออกมาในปลายปีนี้ ที่หลายคนคาดการณ์ว่าสิ่งนี้จะปฏิวัติวงการเกมของเราไปอีกหนึ่งขั้น เพราะเป็นการทำลายข้อจำกัดด้าน Hardware ที่เป็นเหมือนกับอุปสรรคของเหล่าเกมเมอร์มาช้านานทิ้งไป
สรุป
แม้ว่าเทรนด์อาจจะไม่ใช่เครื่องมือในการตัดสินทิศทางของวงการเกม แต่ก็บอกได้ถึงแนวโน้มรวมถึงความเป็นได้ในอนาคตเช่นกัน ดังนั้นการศึกษาเทรนด์ต่าง ๆ ย่อมทำให้เราสามารถเตรียมตัวกับอนาคตได้ดีขึ้นนั่นเอง
ความเห็น 0