23 ก.ย.60 - ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ระดับสูง รุ่นที่ 7 จากสถาบันอิศรามูลนิธิพัฒนาสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาในหัวข้อ "โรดแมปไทยไทย ไกลแค่ไหน หรือใกล้เลือกตั้ง " พร้อมเชิญนักการเมืองเข้าร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ในเวที ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างตัวแทนพรรคการเมือง โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องคาดเดาได้ยากว่าจะมีการเลือกตั้งตามโรดแม็ปหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อกฏหมายลูกแล้วเสร็จ แล้วจะเลือกตั้งเมื่อใด เป็นการพูดกว้างๆ ว่าภายหลังกฏหมายแล้วเสร็จ 150 วัน จะมีการเลือกตั้ง ดังนั้นความไม่แน่นนอนจึงค้อนข้างสูง หากรัฐบาล คสช.จะอยู่ยาว ก็ควรพูดให้ชัด เพราะนักธุรกิจนักลงทุนจะได้วางแผนการรองรับ เพราะสถานการณ์การเมืองที่ผ่านมามีผลกระทบต่อการลงทุน
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูรย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า ตอนนี้สังคมยังสับสนว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ เห็นว่าคนที่จะตอบได้คงมีแต่นายกรัฐมนตรี ซึ่งการพูดแต่ละครั้ง ก็ยังไม่เหมือนกัน
"แต่หากดูตามโรดแม็ปการออกกฏหมายลูก จะมีการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. ปี 2561 แต่หากดูท่าทีพลเอกประยุทธ์ ที่ออกมาพูดเรื่องการเลือกตั้ง ปี 2559 และตั้ง 4 คำถามกับประชาชน ในแนวที่ว่า หากเลือกตั้งไปแล้วจะมีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล หรือไม่ ถ้าไม่แล้วจะทำอย่างไร และการพูดล่าสุดว่าหากเกิดการปรองดองก็จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า ก็ยังไม่ชัดเจน ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ เพราะความหมายของการปรองดองแต่ละคนไม่เหมือนกัน"
ด้านนายอนุทิน ชาญวีระกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เผยว่าแม้จะยังไม่มีความชัดเจนแต่ในฐานะพรรคการเมืองก็มีความพร้อมที่จะเลือกตั้งตลอดเวลา การเลือกตั้งจะช้าหรือเร็วไม่อยู่ที่ คสช.และรัฐบาล หรือ สนช. แต่อยู่ที่ประชาชน
"ถ้าประชาชนพร้อมไม่มีอะไรขัดขืนได้ อย่างไรก็ตาม โรดแม็ปจะยื้ออย่างไรก็ทำได้แค่ระดับหนึ่ง รัฐบาลไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือวิธีพิเศษ จะมีอายุแค่ 4 ปี เหลืออีก 9 เดือนรัฐบาล คสช.ก็จะครบเทอม และหากยื้อเกิน 4 ปี จะชี้แจงแก้ตัวกับประชาชนได้ยาก เชื่อว่า การเลือกตั้งไม่เกิด ปี 2561 ก็ ปี 2562 จะต้องมีการเลือกตั้งอย่างแน่นนอน หากไม่มีเลือกตั้งก็ตัวใครตัวมัน และเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำและชายชาติทหารของพลเอกประยุทธ์"
พร้อมกันนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวว่าในฐานะหัวหน้า คสช.พลเอกประยุทธ์ รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นเมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว ก็ควรจะปล่อยให้เป็นกลไกนักการเมือง ไม่ควรเป็นปลา 2 น้ำ และเชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ คงไม่อยากสืบทอดอำนาจ แต่ถ้าจำเป็นรัฐธรรมนูญก็เปิดให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกได้
ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความยั่งยืนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ชี้ถึงประเด็นว่า รัฐธรรมนูญกำหนดระยะเวลาในการร่างกฎหมายลูก แต่ไม่ได้ระบุว่าหากกฎหมายที่ร่างมาแล้วไม่ผ่านจะต้องทำอย่างไร และ ถ้ามองย้อนกลับไป รัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร ส่วนใหญ่จะอยู่ เพียงประมาณ 1 ปี แต่การที่รัฐบาล คสช. อยู่ได้นานถึง 3 ปี และยังมีความนิยมอยู่ในปัจจุบันนั้น ส่วนหนึ่งนั้นอาจเป็นเพราะนักการเมืองยังไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งหากกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ ให้ประชาชนเห็นอย่างชัดเจน เชื่อว่าการเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นได้แน่นอน
ทั้งนี้ผู้ร่วมสัมมนาทุกคนเห็นด้วยในประเด็นเดียวกันที่ว่าหากการเลือกตั้งไม่เกิดขึ้น ผู้ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงเลยคือ ประชาชน
ความเห็น 102
โถอีแก่ ทำเปนเข้าวัดสร้างภาพ สุดท้ายก็ยังปลงไม่ได้
24 ก.ย 2560 เวลา 17.04 น.
WORACHAK
เดีย๋วไห้ท่านวรงค์มาเป็นรัฐมนตรีเกษตรลองดูจะเป็นยังไงดูท่าทางน่าจะอยากเป็น
24 ก.ย 2560 เวลา 11.53 น.
ข้าวหอม
ก็อยากเลือกนะถ้าจะโละนักการเมืองหน้าเก่าทิ้งให้หมดเ
24 ก.ย 2560 เวลา 11.45 น.
ไม่ต้อง มีเลือกตั้ง ครับ
24 ก.ย 2560 เวลา 09.51 น.
เจ๊.หน่อย หยุด ไปเหอะ มือ.ถือสาก ปากถือ.ทุศิล ตอนเป็น รัฐบาล ช่วยอะไร ชาวบ้าน บ้าง ทุจริตเยอะจริง ตอนเป็น.รัฐบาล จับได้ ไล่ทัน แบะๆ ไปน้ำขุ่นๆ
24 ก.ย 2560 เวลา 09.50 น.
ดูทั้งหมด