ผ้าอนามัยทำไมต้องแพง?
ประเด็นสำคัญในโลกออนไลน์ที่เป็นต้นเพลิงสงครามระหว่างเพศ ที่ปลุกระดมให้หญิงสาวลุกขึ้นมาทวงถามว่าทำไมผ้าอนามัยในประเทศไทยถึงถูกจัดอยู่ในหมวด “สินค้าประเภทเครื่องสำอาง” ซึ่งทำให้มีราคาแพงกว่าสินค้าที่อยู่ในหมวดอุปโภคบริโภคชนิดอื่น ทั้ง ๆ ที่ผ้าอนามัยเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องใช้งาน ไม่ต่างจากแปรงสีฟัน หรือกระดาษชำระที่อยู่ในหมวดของใช้ประเภทเดียวกัน
คำถามดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสตีกลับเดือด ๆ จากฝั่งที่ไม่เห็นด้วยว่าถ้าผ้าอนามัยมันแพงนัก ทำไมไม่อั้นเอาไว้? ทำไมไม่ใช้กากมะพร้าว? หรือแบ่งปันความทุกข์ใจของเพศชายว่าในความลำบากของฝ่ายหญิง ฝ่ายชายเองก็ต้องเดือดร้อนในค่าใช้จ่ายของถุงยางอนามัย ภาระเรื่องเกณฑ์ทหาร หรือไปไกลถึงขนาดเปรียบเทียบราคาผ้าอนามัยกับค่าเกมที่ผู้หญิงไม่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน (?)
ผ้าอนามัย VS ถุงยางอนามัย
มองข้ามเรื่องราคา เพราะต้องยอมรับว่าไม่ว่าจะผ้าอนามัย หรือถุงยางอนามัย ก็มีปัจจัยเรื่องรสนิยมส่วนตัวและสรีระศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง (ผ้าอนามัยแบบหนานุ่มพิเศษ แบบสอด แบบเย็น แบบสวม ในขณะที่ถุงยางอนามัยก็มีทั้งแบบบางเฉียบ ผิวขรุขระ ฯลฯ)
มาว่ากันด้วยหลักวิชาการและสุขอนามัย ผ้าอนามัยน่าจะมีความสำคัญมากกว่า เพราะผู้หญิงเลือกไม่ได้ว่าจะมีประจำเดือนหรือไม่มี การมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อผู้หญิงก้าวเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ทำให้ผู้หญิงมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ในขณะที่ถุงยางอนามัยเป็นเรื่องของทางเลือกในการมีเซ็กซ์ มากไปกว่านั้นในบางคู่ ก็เป็นภาระของฝ่ายหญิงเองด้วยซ้ำที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการคุมกำเนิด
ผ้าอนามัยฟรี! มีจริงที่ประเทศโลกอื่น
อย่าเพิ่งสิ้นหวัง! ข่าวดีคือเมื่อราวต้นปีที่ผ่านมาสก็อตแลนด์เพิ่งนำร่องนโยบาย “แจกผ้าอนามัยฟรี” ในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีการสำรวจความเห็นประชากร และพบว่าแม้ในประเทศที่เจริญแล้ว ก็ยังมีผู้หญิงจำนวนมาก โดยเฉพาะนักเรียนและนักศึกษา ที่ไม่มีเงินซื้อผ้าอนามัย
จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นโยบายดังกล่าวก็ประสบผลสำเร็จ ทำให้สก็อตแลนด์กลายเป็นประเทศแรกของโลกที่ให้ค่าความเป็นผู้หญิงอย่างจริงจัง และมองว่าผ้าอนามัยควรถูกเลื่อนสถานะจาก “สินค้าฟุ่มเฟือย” เป็น “ปัจจัยจำเป็น” ที่ผู้หญิงทุกคนควรเข้าถึงได้โดยไม่ลำบากลำบน
อย่าปล่อยให้ผ้าอนามัยเป็นเรื่องของ “ผู้หญิง” ฝ่ายเดียว
สถานการณ์ผ้าอนามัยแพงกลายเป็นเรื่องซีเรียสเมื่อผู้หญิงหลายคน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงในพื้นที่ห่างไกล จำเป็นต้องหยุดเรียนหรือหยุดทำงานเมื่อมีประจำเดือน เพราะกลัวเลอะ หรือกังวลว่าเพื่อนจะล้อ ยังไม่รวมเรื่องความเสี่ยงต่อโรคภัยต่าง ๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก หรือโรคที่เกิดจากการขาดสุขอนามัยที่ดีในช่วงวันแดงเดือดของผู้หญิงด้วย
อาจถึงเวลาแล้วที่สังคมต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ และปรับมุมมองตัวเองว่าเรื่องเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ควรให้ “ผู้หญิง” หรือใครคนใดคนหนึ่งเป็นฝ่ายแบกรับความลำบากอยู่ฝ่ายเดียว ลองดูโฆษณาจาก Thinx ที่เสนอแนวคิดว่าหากผู้ชายและผู้หญิงมีประจำเดือนเหมือนกันหมด โลกคงสงบสุขและหมุนวนไปด้วยความเข้าอกเข้าใจมากขึ้น
แหล่งอ้างอิง :
https://nypost.com/2018/08/27/tampons-are-now-free-in-this-country/
https://www.the101.world/sanitary-products-policy/
ความเห็น 83
,........
09 มิ.ย. 2563 เวลา 04.39 น.
ก็มันแพงขึ้นก็เกิดจากการเก็บภาษีต่าๆเพิ่มขึ้นจากรัฐบาลชุดนี้ไงมันเป็นลูกโซ่ทุกๆอย่างแม้แต่ของกินก็แพงขึ้นเพราะไม่มีเงินเอาไปใช้ไงเพราะไม่เห็นทำอะไรเลยที่ทำให้เงินไหลเข้าประเทศมีแจ่กู้เงินเขามาใช้ลูกเดียว
17 พ.ค. 2563 เวลา 17.45 น.
Hichicz
มันควรจะฟรีมาตั้งนานละ เพราะรัฐบาลไม่อยากเปลี่ยน มันเป็นขี้ข้านายทุนมาตลอดเวลา
28 ธ.ค. 2562 เวลา 22.56 น.
T. O. D
เลือดประจำเดือนสามารถเก็บเป็นถึงเหมือนบริจาคเลือดได้ไหม และสามารถใช้ได้หนือไม่ ถ้าใช้ได้ เวลาจำเป็น เราก็จะไม่ขาดเลือด และเข้ากับร่างกายตัวเองได้อีก
04 ธ.ค. 2562 เวลา 00.01 น.
WCJ
เห็นด้วยเลยรัฐต้องช่วยลดภาระเรื่องนี้ให้กับผู้หญิงไทยไม่รวมต่างด้าวนะเช่นแจกฟรีคุณภาพต้องดีด้วยให้หญิงไทยเดือนละกล่องโดยใช้บัตรประชาชนไปเบิกได้ที่รพ.รัฐหรือหน่วยงานราชการทั่วประเทศเออ!น่าจะเสนอเรื่องนี้ให้รัฐบาลนะจะได้เสียงปรบมือจากประชาชนเพราะถุงยางก็มีแจกฟรีตั้งนานแล้ว
03 ธ.ค. 2562 เวลา 23.48 น.
ดูทั้งหมด