เมืองไทย 360 องศา
นาทีนี้หากใครมองเข้าไปในหัวใจของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เชื่อว่าคงเต้นไม่เป็นส่ำ ย่อมต้องเกิดความเครียดแน่นอน แม้ว่าสภาพภายนอกจะเก็บอาการได้แค่ไหนก็ตาม เพราะคดีที่เขากำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ ซึ่งพิจารณากันเฉพาะคดีหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด เพียงคดีนี้คดีเดียวที่เมื่อพิจารณาตามรูปการณ์แล้วถือว่าน่าหวาดเสียวที่สุดคดีหนึ่ง เพราะมันส่งผลต่ออนาคตทางการเมือง ทำให้ต้องลุ้นกันจนแบบที่เรียกว่าเหงื่อตกกีบกันเลยทีเดียว
หากพิจารณานับจำนวนระยะเวลาหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติเป็นเอกฉันท์ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณีโอนหุ้นบริษัทดังกล่าวที่ทำธุรกิจสื่อว่ากระทำก่อนหรือหลังวันเลือกตั้ง ที่มีผลต่อคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ มาจนถึงวันนี้ก็กินระยะเวลานานรวม 5 เดือนแล้ว ถือว่ามีระยะเวลานานพอสมควรแล้ว ที่หลายคนมองว่าน่าจะใกล้ได้เวลาเต็มทีแล้ว
ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติเป็นเอกฉันท์เช่นเดียวกันสั่งให้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.เป็นการชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดีนี้ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันทั่วอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีสำหรับความคืบหน้านั้นล่าสุดตามกำหนดการศาลรัฐธรรมนูญได้นัดไต่สวนพยานของฝ่ายผู้ถูกร้องคือ ฝ่าย ธนาธร โดยศาลได้อนุญาตให้ไต่สวนพยานเพิ่มเติมได้อีกจำนวน 10 ปาก ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ โดยเริ่มพิจารณาไต่สวนตั้งแต่เวลาเช้ารวดเดียว ซึ่งจนถึงขณะนี้รายชื่อพยานยังปิดเป็นความลับ ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาให้ทราบ รวมทั้งยังไม่รู้ว่าในจำนวน 10 ปากนั้น จะมีตัว ธนาธร รวมไปถึงภรรยา และมารดาของรวมไปถึงหลานของเขาที่เคยถูกระบุว่าได้รับการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ไปด้วยหรือไม่
ดังนั้นสิ่งที่น่าจับตาอย่างยิ่งก็คือหลังจากเสร็จสิ้นการพิจารณาไต่สวนดังกล่าวแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดแถลงปิดคดี รวมไปถึงการกำหนดวันวินิจฉัยเลยหรือไม่ แต่มีการคาดกันว่ากระบวนการทุกอย่างน่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคมนี้อย่างแน่นอน
แม้ว่าในเวลานี้ สำหรับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะถูกดำเนินคดีหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคดเรื่อง “ปล่อยกู้”ให้กับพรรคอนาคตใหม่ หรือคำร้องให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ จากคำพุดและความเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีในศาลรัฐธรรมนูญ หรือระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ก็ตาม แต่หากพิจารณาจากน้ำหนัก และตามช่วงเวลาเฉพาะหน้าแล้วก็ต้องบอกว่า คดี “โอนหุ้นสื่อ” ในกรณี หุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัดนี่แหละ น่าหวาดเสียวที่สุด
และเมื่อพิจารณาจากอาการเท่าที่เห็นในช่วงที่ผ่านมา ก็พอรับรู้ได้ว่า เขาและทีมงานก็พอมองออกว่าต้องลุ้นกันมากแค่ไหนแน่นอนว่าทุกคดีที่ถูกร้อง ถูกดำเนินคดีล้วนเป็นคดีอาญา มีผลต่ออนาคตทางการเมืองทั้งสิ้น แต่หากพิจารณาเฉพาะคดี “หุ้นสื่อ” คดีนี้มันน่าจะมีน้ำหนักที่สุด และยังดิ้นยากเสียด้วย เพราะเมื่อพิจารณาตามรูปการณ์จากการทีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาเอกสารก่อนมีมติเป็นเอกฉันท์ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ก็ล้วนเป็นการพิจารณาจากเอกสารทางราชการเป็นหลัก นั่นคือพิจารณาจากเอกสารทางราชการ จากกระทรวงพาณิชย์เป็นหลัก
ขณะเดียวกันหากพิจารณากันอีกด้านหนึ่งการยื่นขอให้ศาลไต่สวนพยานฝ่ายผู้ถูกร้องเพิ่มเติม ซึ่งศาลได้อนุญาตให้จำนวน 10 ปาก อาจมองได้ว่าเป็นการ “ยื้อ” ทางเทคนิก แต่นั่นก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ อีกทั้งทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการ
แต่ถึงอย่างไรเมื่อมีการกำหนดให้การไต่สวนพยานรวดเดียว วันเดียวครบทั้ง 10 ปากก็ต้องมาลุ้นกันว่าหลังจากนั้นศาลจะนัดวันอ่านคำวินิจฉัยวันใด ซึ่งก็น่าจะไม่เกินเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งสำหรับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มันเหมือนกับการชี้ชะตาอนาคตของเขา ซึ่งจะว่าไปแล้วคดีนี้แหละถือว่า “น่าหวาดเสียวที่สุด” เลยแหละ ซึ่งเขาก็น่าจะรับรู้ดีอยู่แล้ว !!
ความเห็น 35
ชีวิตดั่งสายน้ำ....
ไอ้ทอน มึงโกหกคนทั้งประเทศ กูจะคอยดูจุดจบของมึง!!!
18 ต.ค. 2562 เวลา 04.16 น.
คน นครชัยศรี
ทางที่ดีมี2ทาง1ติดคุก2ยุบพรรค ว่าแต่พยานหลักฐานแน่นพอนะ ลูกผชกล้าทำต้องกล้ารับ ไม่งั้นจะไม่มีชื่อนี้ในสารระบบการเมืองอีกเชื่อกู
18 ต.ค. 2562 เวลา 02.08 น.
GяέέηÇţŽёη..¸.•´ɱc
บ้าย บาย
....... ผิดทั้งรู้ ทั้งนั้น ....
18 ต.ค. 2562 เวลา 01.29 น.
Cafe'
..อย่าปล่อยให้นังชะลี้ตา
นั่งตบยุง รอทอนอยู่ภาคใต้
คนเดวนะ!!..
18 ต.ค. 2562 เวลา 01.13 น.
นิภา
เบือมากๆไอ้พวกบ้า
18 ต.ค. 2562 เวลา 00.45 น.
ดูทั้งหมด