‘รัสเซีย’ ขนเงินสดซื้อคอนโดหัวหิน เป็นบ้านหลังที่2 อสังหาฯชี้เลือกตั้งเศรษฐกิจไทยไปต่อ
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ยังคงต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ส่วนสถานการณ์ที่ยังคงน่าเป็นห่วง คือ ปัญหาหนี้ครัวเรือน อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้น ซึ่งบริษัทต้องล็อกราคาวัสดุก่อสร้างไว้ และแรงงานก่อสร้างที่ยังขาดแคลนอต่อเนื่องอยู่ และเป็นปัญหาของผู้ประกอกการของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้
“เรื่องหนี้ครัวเรือน อาจจะไม่กระทบกับเรามาก เพราะไม่เจอปัญหาเรื่องการปฎิเสธสินเชื่อหรือรีเจกต์เรท เพราะสินค้าที่ทำเป็นกลุ่มระดับบน กำลังซื้อยังแข็งแรง ไม่ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและลูกค้าโอนเงินสดถึง 70% อีก 30% คือเงินกู้และไม่ได้กู้เต็มด้วย” น.ส.พราวพุธกล่าว
น.ส.พราวพุธกล่าวว่า การเปิดประเทศและมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ส่งผลดีต่อการขายอสังหาริมทรัพย์ในทำเลเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนรัสเซียเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะที่จ.ภูเก็ต ยังมีที่หัวหินที่คนรัสเซียสนใจมาซื้อคอนโดมิเนียมอยู่อาศัย ซึ่งของบริษัทมีคนรัสเซียและยุโรปมาซื้อโครงการเวหา หัวหิน คิดเป็นสัดส่วน 10% เป็นรูปแบบไม่มีการดาวน์และโอนสด โดยซื้อห้องขนาดใหญ่ 2 ห้องนอนขึ้นไปราคาตั้งแต่ 8 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนคนจีนเริ่มเห็นเข้ามาบ้าง แต่ยังไม่มาก เพราะคนจีนอาจจะชินกับบางโลเกชั่น เช่น รัชดา ห้วยขวาง ทองหล่อ สุขุมวิท
ทั้งนี้มองว่า หากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น มีการเดินหน้าอย่างราบรื่นจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะตราบใดที่การเมืองยังราบรื่น ยังไงเศรษฐกิจโดยรวมยังไปต่อได้ เพราะเศรษฐกิจจะขับเคลื่อนโดยเอกชนอยู่แล้ว แต่ถ้าการเมืองนิ่ง จะเป็นแรงขับเคลื่อนเพิ่ม
นอกจากนี้มีข้อเสนอให้รัฐบาลปลดล็อกต่างชาติให้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้มากขึ้น เช่น ขยายโควต้าซื้อคอนโดมิเนียมได้มากกว่า 49% และเปิดให้ต่างชาติมาซื้อบ้านแนวราบได้เหมือนคอนโดมิเนียม จากปัจจุบันที่ยังถือครองไม่ได้ เนื่องจากมองว่าในโครงการบ้านจัดสรรจะมีนิติบุคคลดูแลภาพรวมอยู่แล้ว
ถ้าเปิดโอกาสให้คนต่างชาติมาซื้อได้ก็จะช่วยได้มาก เพราะในความเป็นจริงในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่สามารถที่จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมได้ในบางพื้นที่ รวมถึงต้องการให้รัฐบาลปลดล็อกเรื่องการให้วีซ่าระยะยาว ให้สามารถต่างชาติขอได้ง่ายและสะดวกขึ้น จะทำให้ต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองไทยและกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น
ด้าน นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือLPN กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาต้นเดือนมีนาคมนี้ และจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ ไม่น่ากระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของรัฐได้ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว และมองว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวกมากกว่า เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่ค่อยมีความชัดเจนต่อเรื่องนี้ แต่ตอนนี้มีความชัดเจนแล้ว ในแง่ของเศรษฐกิจ การเลือกตั้งจะทำให้เงินสะพัด เพราะมีการใช้จ่ายในช่วงเลือกตั้ง และรัฐบาลใหม่มาน่าจะมีมาตรการที่สนับสนุนกระตุ้นเศรษบกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์
ความเห็น 0