เรื่องตดเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่มีใครในโลกนี้ไม่ตด..
ร่างกายคนเราจะมีแก๊สที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการย่อยอาหารที่สะสมอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งปกติร่างกายต้องขับแก๊สเหล่านี้ออกมาผ่าน 2 ช่องทาง คือ ปากและทวารหนัก ทางปากก็คือการเรอ ส่วนทางทวารหนักก็คือการตดปุ๋ง ๆ ออกมานั่นเอง
เมื่อไหร่ก็ตามที่แก๊สเหล่านี้ไม่ได้ถูกขับมาจากร่างกายตามปกติ ก็จะทำให้สะสมอยู่ในทางเดินอาหาร ทำให้รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง พะอืดพะอม หรือเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อตามมาได้ ดังนั้นธรรมชาติของร่างกายจึงต้องขับแก๊สเหล่านี้ออกมาเพื่อให้เรารู้สึกสบายขึ้น
ขึ้นชื่อว่าแก๊สและเดินทางผ่านระบบย่อยภายในเพื่อออกสู่ร่างกาย เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีกลิ่นเหม็น ซึ่งกลิ่นของตดไม่ได้บ่งบอกอะไรทั้งสิ้น เหม็นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกินของคนเราทั้งนั้น ถ้ากินเนื้อสัตว์ ไขมัน ไข่ ชีส หรือนมเข้าไปมาก ๆ ก็ไม่แปลกเลยที่อาหารเหล่านี้จะไปติดค้างอยู่ในระบบทางเดินอาหารและส่งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกมา
คนตดเหม็นมาก ก็แปลว่ากินอาหารเหล่านี้เข้าไปมาก ใครตดเหม็นน้อยไปจนถึงไม่มีค่อยมีกลิ่น ก็แปลว่าช่วงนั้นบริโภคเนื้อสัตว์น้อยหน่อย ก็เลยทำให้มีกลิ่นน้อยกว่าคนอื่น ดังนั้นกลิ่นไม่ใช่ตัวชี้วัดอะไร นอกจากอาหารที่กินเข้าไป
ตรงนี้ต้องสังเกตตัวเองดี ๆ เพราะในกรณีที่ตดเหม็นมากชนิดที่ตัวเองก็ทนไม่ได้ ก็แปลว่าอาหารที่คุณบริโภคเข้าไปไม่ถูกสัดส่วน และระบบภายในร่างกายกำลังฟ้องว่า เฮ้ย ! ดูแลตัวเองบ้าง กินของดี ๆ มีประโยชน์กับร่างกายบ้าง ซึ่งสัญญาณเตือนเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เราควรจะเชื่อและเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินได้แล้ว
ส่วนการตดเสียงดังก็เหมือนกัน หลายคนสงสัยว่าทำไมบางคนตดไม่มีเสียง ทำไมบางคนเสียงเซอร์ราวด์ดังกระหึ่ม..
เสียงก็ไม่ได้บอกอะไรนอกจากแรงดันอากาศและแรงเบ่งของแต่ละคน รวมถึงกล้ามเนื้อหูรูดที่ช่วยทำให้เสียงดังขึ้นด้วย ดังนั้นเสียงตดก็คือเสียงปุ๋ง ๆ ป้าด ๆ ปกติ ไม่มีนัยยะใด ๆ ให้เรากังวลใจเลย
สิ่งที่ต้องเป็นห่วงและคอยสังเกตมากที่สุดก็คือจำนวนครั้งของการตดในแต่ละวัน คนที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ไม่มีปัญหาสุขภาพจะตดวันละ 14-23 ครั้ง เรียกว่าเป็นความถี่ปกติ ไม่ถือว่าแปลก แต่ถ้าลองนับ ๆ ดูปรากฎว่าตดเกินกว่านี้ถึงจะเรียกว่าผิดปกติ
การตดบ่อยเกินไปเป็นสัญญาณเตือนอะไรบางอย่าง ที่บอกได้ว่าสุขภาพของคุณไม่เหมือนเดิม อาจเกิดโรคบางอย่างกับระบบทางเดินอาหารขึ้นได้ เช่น โรคเกี่ยวกับลำไส้ ระบบการดูดซึมอาหารผิดปกติ อาหารเป็นพิษ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากตดของเรานี่แหละ
อาจจะแปลกสักหน่อยถ้าเรานับจำนวนการตดในแต่ละวันไว้ แต่เอาจริง ๆ วิธีนี้ง่ายและใกล้ตัวที่สุดที่จะสังเกตการทำงานของระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ ถ้าหากตดบ่อยเกินไปติดต่อกันเป็นเวลานาน สิ่งแรกที่ควรทำคือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินก่อน เบื้องต้นอาจหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สได้ง่าย เช่น ถั่ว หัวหอม กระเทียม ฯลฯ และหากยังไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง และหาทางแก้ไขอย่างเร็วที่สุด
การตดอาจเป็นเรื่องใกล้ตัวที่บางคนก็มองข้ามไป ตดแล้วก็แล้วกัน ไม่ได้มาคอยสังเกตอะไรมากมาย แต่จริง ๆ แล้วสัญญาณเตือนภายในร่างกายเรานี่แหละเชื่อถือได้ที่สุด แค่ต้องไม่มองข้ามและให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ก็ถือเป็นการดูแลตัวเองได้แล้ว
ความเห็น 50
ธงชัยHR
BEST
ทำไมผมไม่เคยได้ยินผู้หญิงตดเสียงดังเลยนะ.เค้าไปแอบตดที่ไหน.หรีอเก็บเสียงไงเหรอ..555
17 พ.ค. 2562 เวลา 14.15 น.
Dan_padorn
BEST
ถ้าตดเหม็นมากเป็นสัญญานบ่งบอกว่า....
ให้รีบไปขรี้ได้แล้วครับ ท่อนซุงจ่อปากประตูแล้ว 😂😂😂
17 พ.ค. 2562 เวลา 17.42 น.
กุ๊กไก่..
BEST
สาธยายไปเรื่อย วกไปวนมา สุดท้ายก็ข้อความเดิม อันที่จริงการตดบ่งบอกถึงการเกิดโรคอีกหลายโรคนะครับ
17 พ.ค. 2562 เวลา 14.38 น.
⏳⇂จ้ๅજາઈ🏯ūήşๅ⌛
อ่านไปสักพัก เริ่มรู้สึกขมคอ
17 พ.ค. 2562 เวลา 14.34 น.
pattaranarin ^ ^
ตดมาก ตดบ่อย คือ ปวดคลี่ อะ ตรงๆรู้เรื่อง555😁😁😁
17 พ.ค. 2562 เวลา 16.06 น.
ดูทั้งหมด