โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

สุดงง! Mercedes-Benz 300D แช่น้ำท่วมทั้งคัน แต่เจ้าของสตาร์ทขับออกมาได้หน้าตาเฉย

สยามคาร์ - Siamcar

เผยแพร่ 27 พ.ย. เวลา 08.36 น. • ทีมข่าวสยามคาร์
สุดงง! Mercedes-Benz 300D แช่น้ำท่วมทั้งคัน แต่เจ้าของสตาร์ทขับออกมาได้หน้าตาเฉย
สุดงง! Mercedes-Benz 300D แช่น้ำท่วมทั้งคัน แต่เจ้าของสตาร์ทขับออกมาได้หน้าตาเฉย

สุดงง! Mercedes-Benz 300D แช่น้ำท่วมทั้งคัน แต่เจ้าของสตาร์ทขับออกมาได้หน้าตาเฉย

Mercedes-Benz 300D แช่น้ำท่วมทั้งคัน แต่เจ้าของสตาร์ทขับออกมาได้หน้าตาเฉย

น่าอัศจรรย์เมื่อรถยนต์ Mercedes-Benz 300D รหัสตัวถัง W123 อายุกว่า 30 ปี สามารถขับเคลื่อนออกมาจากโรงจอดรถใต้ดินโดยไม่ต้องอาศัยรถลากจูงใดๆ เลยแม้แต่น้อย

Iván Felisi Rubio เจ้าของรถคันนี้เล่าว่า โรงจอดรถใต้ดินที่เขาจอดรถถูกน้ำท่วมสูงถึง 1.5 เมตร หลังจากน้ำลด เขาจึงสามารถเข้าไปตรวจสอบสภาพรถของเขาได้

แม้ว่ารถจะจมน้ำท่วมทั้งคัน (สังเกตได้จากรอยน้ำที่ปรากฏบนหลังคารถ) แต่เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 5 สูบของรถคันนี้กลับสามารถสตาร์ทติดได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เปลี่ยนแบตเตอรี่และไล่น้ำออกจากเครื่องยนต์เท่านั้น

ซึ่งส่งผลให้ Mercedes-Benz E-Class รหัส W123 เป็นรถยนต์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความทนทานและความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะรุ่นดีเซลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทนทานที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา เหตุการณ์นี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความทนทานและความน่าเชื่อถือของรถรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ เราไปทำความรู้กับเจ้า Mercedes-Benz E-Class รหัส W123 กันสักหน่อยนะครับ Mercedes-Benz E-Class (W123) หรือรุ่นที่คนไทยรู้จักันดีว่า รุ่นไฟนอน หรือรุ่นตาหวาน ได้เผยโฉมครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม ปี 1976 โดยเปิดตัวในรุ่นซีดาน 4 ประตู หลังจากนั้น มีรุ่นคูเป้ 2 ประตู (CE) ในปี 1977 และ รุ่นแวก้อน 5 ประตู (T-Model) ในปี 1979 มาเสริมทัพ ให้มีความหลากหลายมากขึ้นและเป็นรุ่นที่ทำให้ลูกค้าในช่วงนั้นต้องรอรถนาน 1 ปีเนื่องจากทำยอดขายมหาศาล พร้อมออฟชั่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ที่ปัดน้ำฝนไฟหน้า กับ เบาะผ้าสุดหรู

ขุมพลัง Mercedes-Benz E-Class (W123) มีหลากหลายให้เลือกตามต้องการ ตั้งแต่ เครื่องเบนซินขนาดเล็ก 2.0 ลิตร 109 แรงม้า ในรุ่น 200 จนถึงรุ่นท็อป 280 E ด้วยเครื่องเบนซินขนาด 2.8 ลิตร 6 สูบ 177แรงม้า ด้านเครื่องดีเซลมีให้เลือกตั้งแต่ เครื่องขนาดเล็ก 2.0 ลิตร 4 สูบ 60 แรงม้าในรุ่น 200 D จนถึงครื่องดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร 5 สูบ 125 แรงม้า ในรุ่น 300TD

นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซินที่สามารถใช้พลังงานอื่นๆได้เช่นรุ่นก๊าซ LPG และในปี 1983 ยังพัฒนาเป็นรถต้นแบบขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าและ พลัง fuel-cell หรือ hydrogenระบบความปลอดภัย Mercedes-Benz E-Class (W123) มีหลายๆอย่าง และทันสมัยในยุคนั้น เริ่มจากโครงสร้างตัวถัง crumple zones ถุงลมนิรภัยหรือ SRS ในปี 1982 กันชนหน้าขนาดใหญ่ เป็นต้น สำหรับ E-Calss W123 ยุติการทำตลาดในปี 1985 พร้อมยอดขายทั่วโลก เกือบ 2.7 ล้านคัน โดยรุ่นที่มารับช่วงต่อนั่นคือ E-Class (W124) หรือรุ่นที่คนไทยรู้จักันดีว่า รุ่นโลงจำปา

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 3

  • THöR
    ปัจจุบัน เสียทั้งวัน
    27 พ.ย. เวลา 14.53 น.
  • The Ting ^_^
    เคยใช้ ประหยัดดี ถังนึง ไป ชะอำ กลับมา กทม ไป ระยอง ต่อ กลับ กทม น้ำมันยังไม่หมด .. แค่ แรงน้อยไปหน่อย ขับ 100 -120 ... ยก 300D ออก วาง 2jz ge ฝาดำ แร้งงง ขึ้นเยอะ พร้อมกับ ซดเขื้อเพลิง ตกกะใจ .. แถม ต้อง ลง เบรคหน้า 126 กว่าจะเอาอยู่
    2 วันที่แล้ว
  • KAI
    ที่ไหน ยังไงก่อนครับ
    27 พ.ย. เวลา 16.51 น.
ดูทั้งหมด