เมื่อวันที่ 10 ก.ค.63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตที่เสียชีวิตปริศนาของน้องชมพู่ วัย3ขวบ ที่จังหวัดมุกดาหาร ว่า ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ ทำงานอย่างต่อเนื่อง ตลอด2 เดือนที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีประเด็นเด็กหญิง เพื่อนของพี่สาวน้องชมพู่ ได้ให้ข้อมูลกับสื่อบางสำนักว่า แท้จริงแล้วพี่สาวของน้องชมพู่นอนคว่ำหน้าเล่นโทรศัพท์ ในขณะที่น้องชมพู่หายตัวไป และไม่ได้นอนหลับตามที่เคยให้ข้อมูลไว้นั้น ทางตำรวจมั่นใจว่าประเด็นนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดีและแนวทางการสืบสวนสอบสวนอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่เด็กหญิงบอกเล่ากับสื่อนั้นเป็นสิทธิที่เด็กจะสามารถกระทำได้ แต่การที่สื่อไปสัมภาษณ์เด็กหญิงเพื่อนของพี่สาวน้องชมพู่นั้นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะไม่ควร
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า พยานหลักฐานที่มีตอนนี้ยังไม่สามารถออกหมายจับ หรือระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ แม้ว่าสังคมจะมีการสงสัยพ่อแม่หรือลุงของน้องชมพู่ก็ตาม แต่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริงไม่ตามกระแสสังคม ยอมรับว่าคดีมีความคืบหน้า 80 เปอร์เซ็นต์ แต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีน้อยมาก ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ส่วนสาเหตุการชีวิตของน้องชมพู่ว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ แพทย์นิติเวชก็ยังสรุปไม่ได้ บางทีรายงานข่าวของสื่อที่หลุดออกไปตนก็ตั้งข้อสังเกตว่าหลุดไปได้อย่างไร รายละเอียดการนำเสนอก็ไม่ใช่ความจริง อย่าพึ่งไปสรุปหรือฟันธง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้จะมีโอกาสได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีหรือไม่ รองผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะบอกแบบนั้น ตำรวจทำให้ดีที่สุดรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างให้ครบถ้วน ไม่ได้หาหลักฐานเพียงแค่ออกหมายจับ แต่จะต้องมีหลักฐานจนนำสู่การดำเนินคดีในชั้นศาลได้
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ยอมรับว่าปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนในพื้นที่ ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจยุ่งยากมากขึ้น ส่วนความขัดแย้งของบรรดาญาตินั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการนำเสนอข่าว ส่วนจะให้สื่อปรับปรุงหรือแก้ไขการทำงานอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตำรวจได้มีการเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว900 กว่าปาก และในอีก 2-3 วัน จะได้รับรายงานผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่นดีเอ็นเอ และวัตถุพยานต่างๆ จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อว่าอาจจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการคลี่คลายคดี
ความเห็น 27
สว่าง
การที่สื่อไปถามเด็กจนได้ความจริงว่าแม่ชมพู่ไปบอกให้สะดิ้งไปบอกเพื่อนว่าให้บอกนักข่าวว่าสะดิ้งหลับทั้งที่ไม่หลับมันไม่เหมาะสมตรงไหน มันเป็นการดีเสียอีกจะได้รู้ว่าใครโกหก ใครพูดจริงและนำมาประกอบหลักฐาน
10 ก.ค. 2563 เวลา 06.10 น.
YA
ใช่ครับ. สื่อควรถูกตำหนิอย่างแรง ทั้งขยี้ข่าวทั้งบิดเบือนแต่งเติมเพื่อให้ข่าวตัวเองขายได้. โดนเฉพาะสำนักข่าวที่ไปฝังตัวขยี้ข่าวจนเกิดความวุ่นวาย.
10 ก.ค. 2563 เวลา 06.19 น.
เจ้น้อย ร้านธงชัย
ตำรวจไม่รอบคอบ ทำงานช้ากว่าสื่อก็จะออกมาว่าสื่อแบบนี้ทุกที อ่ะ
10 ก.ค. 2563 เวลา 06.28 น.
แม่พ่อแน่นอนตัวกๅร
10 ก.ค. 2563 เวลา 06.04 น.
โบกี้
พ่อแม่ตัวร้าย
10 ก.ค. 2563 เวลา 06.18 น.
ดูทั้งหมด