เป็นธรรมเนียมประจำของทุกปีที่ Lonely Planet นิตยสารท่องเที่ยวระดับโลก จะมาจัดลำดับประจำปีว่ามีประเทศไหนที่จะติดอันดับ Best in Travel หรือ ประเทศน่าเที่ยวประจำปีบ้าง เพื่อที่จะให้ผู้ที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยวเตรียมแพ็กกระเป๋า หรือเตรียมจดลิสต์เพื่อเตรียมทริปในการท่องเที่ยว โดยผลของการจัดลำดับนี้จะมาจากความคิดเห็นจากที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกองบรรณาธิการของ Lonely Planet แฟน ๆ ผู้อ่าน หรือเหล่านักเขียนตัวจี๊ดของนิตยสาร โดยจะถูกรวบรวมผลออกมาเพื่อให้แฟน ๆ และผู้ที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยวไว้ดูเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการไปทริปต่อ ๆ ไป โดยจะมีทั้ง 10 ประเทศน่าเที่ยว 10 เมืองน่าเที่ยว 10 ภูมิภาค 10 เส้นทางสุดคุ้ม ฯลฯ แต่วันนี้ #ลัดเลาะรอบโลก ขอพาไปดูว่า 10 ประเทศที่ถูกยกให้เป็น “ประเทศน่าเที่ยว” จาก Lonely Planet ว่ามีประเทศไหนบ้าง จะสวยงาม และน่าไปขนาดไหน ตามไปดูกันเลย
ภูฏาน
นอกจากขึ้นชื่อเรื่องประชากรในประเทศที่มีความสุข เพราะคุณภาพชีวิตแสนดีแล้วนั้น ภูฏานน่าจะเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนอยากจะไปสักครั้ง เพราะอย่างที่ทราบว่าประเทศนี้มีนโยบายจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว โดยภูฏานจะยึดหลักการท่องเที่ยวที่มีคุณค่า แต่ส่งผลกระทบน้อย แม้ว่านักท่องเที่ยวจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปในประเทศนี้ที่สูง แต่ว่าจะได้สัมผัสกับธรรมชาติ รวมไปถึงวิถีการดำเนินชีวิตของผู้นับถือศาสนาพุทธ ภูฏานเป็นประเทศที่ยึดหลักความยั่งยืน ตอนนี้ภูฏานเองจึงเป็นประเทศที่มีค่าคาร์บอนติดลบ และมีเตรียมประกาศตัวเองเป็น “ประเทศออแกนิก” อีกด้วย
อังกฤษ
น่าจะเป็นประเทศในฝันของใครหลาย ๆ คนอยู่แล้ว สำหรับประเทศอังกฤษ ที่ตอนนี้การเดินทางไม่ยากเหมือนในอดีต รวมไปถึงอังกฤษกำลังพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยว ดังนั้นสายธรรมชาติต้องมาสัมผัส และเนื่องจากประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน การได้มาสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวนอกจากจะดื่มด่ำกับสถานที่แล้ว ก็ยังได้พบกับร่องรอยของประวัติศาสตร์ และวิถีของผู้คน
มาเซโดเนีย
เป็นประเทศใหม่ที่กำลังถูกปรับโฉมให้มาเป็นประเทศท่องเที่ยวอย่าง มาเซโดเนียเหนือ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ มาเซโดเนีย หลังจากจัดการปัญหาความขัดแย้งเรื่องอาณาเขตกับกรีซไปเมื่อปี 2018 ตอนนี้มาเซโดเนียจึงเดินหน้าเต็มกำลังในการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว หากมาเที่ยวที่นี่ทุกคนก็จะได้พบกับความรู้สึกดี ๆ โมเมนท์ต่าง ๆ ที่น่ารัก ได้พบกับอารยธรรมของคาบสมุทรบอลข่าล อาหารพื้นเมือง ประเพณีโบราณ และธรรมชาติ รวมไปถึง ทะเลสาบ Ohrid จุดไฮไลท์ของประเทศ และยังมีเส้นทางสำหรับการเทรลที่เขาว่ากันว่ามีจุดพีคเยอะมาก สายเทรลห้ามพลาด
อารูบา
อารูบาเป็นประเทศหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน ในทางตอนใต้ของอารูบาถือเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรม คุณจะได้เพลินตาเพลินใจกับศิลปะที่มีสีสันและความสร้างสรรค์จากศิลปินนอก และในประเทศ มีการจัดงานศิลปะประจำปี อารูบาเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ให้ความสำคัญกับพลังงานยั่งยืน มีการแบนการใช้พลาสติกครั้งเดียว และแบนโลชั่นกันแดดที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงการันตีได้เลยว่าถ้าหากไปที่อารูบา จะได้พบกับหาดทรายที่สวยงาม และน้ำทะเลใส ๆ แน่นอน
เอสวาตินี (สวาซิแลนด์)
เอสวาตินี สถานที่ที่เต็มไปด้วยความน่ารัก วัฒนธรรม การผจญภัย และวิถีชีวิตของสัตว์ป่า ถือเป็นเส้นทางหนึ่งในตอนใต้ของแอฟริกาที่น่าไปเที่ยวเป็นอย่างมาก มีสนามบิน และสิ่งอำนวยสะดวกพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสการท่องเที่ยวแบบซาฟารี
คอสตาริกา
คอสตาริกา เป็นอีกประเทศที่ยึดหลักการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเฝ้ามองสลอธที่นอนหลับบนต้นไม้ สำหรับคอสตาริกาเอง ก็เป็นประเทศที่ติดอันดับประเทศที่มีอากาศดีที่สุดในโลกอีกด้วย นอกจากได้พบกับธรรมขาติ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลที่สวยงามแล้ว ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวป่าเขา ประเทศนี้ถือเป็นจุดหมายที่ห้ามพลาด
เนเธอร์แลนด์
ครบรอบ 75 ปีที่ได้รับอิสระหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับเนเธอร์แลนด์ จึงไม่แปลกที่จะมีอีเวนท์เฉลิมฉลอง แต่หากพูดถึงเนเธอร์แลนด์แล้วฮัมสเตอดัมคงเป็นสถานที่แรก ๆ ที่ทุกคนคิดถึง แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าเนเธอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟ หรือระบบรางที่ดีเยี่ยม การเที่ยวรอบเนเธอร์แลนด์จึงไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าใครนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหน ก็ลองไปในช่วงเมษายนและพฤษภาคมเพราะเป็นเดือนเฉลิมฉลองของเนเธอร์แลนด์ ถ้าใครไม่อยากนั่งรถไฟ การปั่นจักรยานก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถทำได้ในเนเธอร์แลนด์
ไลบีเรีย
ไลบีเรียดินแดนปริศนาที่รอทุกคนเข้าไปค้นหาอยู่ และเป็นที่รู้จักกันดีว่าผู้คนในประเทศนั้นอัธยาศัยดี รวมไปถึงยังเป็นประเทศที่ตระการตาไปด้วยธรรมชาติ หากใครที่ชื่นชอบการเที่ยวทะเล ที่นี่ถือเป็นตัวเลือกชั้นดี เพราะว่ามีรีสอร์ทในราคาไม่สูงมาก เป็นแหล่งเล่นเซิร์ฟ รวมไปอุทยานแห่งชาติมากมาย เพราะเป็นพื้นที่ป่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของฝั่งแอฟริกาตะวันตก ไลบีเรียเป็นประเทศที่มีทำข้อตกลงนอร์เวย์ที่จะอนุรักษ์ธรรมชาติเพื่อคนรุ่นหลังต่อไป
โมร็อกโก
ใครเป็นสายชอบเชยชมเมือง เสพศิลปะของสถาปัตยกรรม โมร็อกโกเป็นอีกหนึ่งประเทศที่พลาดไม่ได้ ด้วยอารมณ์ของเมืองที่เหมือนไปเที่ยวพร้อม ๆ ไปกับพักผ่อนยิ่งเป็นเสน่ห์ของที่นี่ อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติให้ได้ไปกันอีกด้วย และที่สำคัญเมืองหลวงทางการท่องเที่ยวของโมร็อกโกอย่างมาร์ราเกซได้รับยกย่องให้เป็นเมืองหลวงของวัฒนธรรมแอฟริกันด้วย
อุรุกวัย
ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วสำหรับอุรุกวัย แต่อย่างที่ทราบกันว่าผู้คนที่นี่ก็ยังเป็นมิตรอีกด้วย สำหรับอุรุกวัยนั้นมีทุกสิ่งที่ครบจบและสามารถสนองความสุขความต้องการของนักท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน และที่นี่ยังมีแนวคิดที่ลิเบอรัลมาก ๆเพราะเป็นประเทศที่เปิดเสรีกัญชา และยอมรับสิทธิของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.lonelyplanet.com/best-in-travel/countries
ความเห็น 39
Off
ไม่ไปไหนจนกว่าวัคซีนจะได้ผล
03 ก.ค. 2563 เวลา 11.22 น.
พวกเค้าได้เงินเดือนประจำกันแล้ว เค้าไม่ค่อยมุ่งมั่นแคร์นักท่องเที่ยวเท่าไหร่นักท่องเที่ยวบ้านเค้าควรต้องช่วยเหลือตัวเองเยอะๆ
03 ม.ค. 2563 เวลา 14.30 น.
แม้อากาศเป็นพิษ คน 54321 เป็นพิษอย่างมหันต์ประเทศไทยก็ยังน่าอยู่ พร้อมธรรมชาติแสนรื่นรมณ์
20 ธ.ค. 2562 เวลา 00.13 น.
POM
ลำปางคับ อากาศดี ไปอาบน้ำแร่แจ้ซ้อน กินยำไข่ออนเซน นั่งรถม้า เดินกาดกองต้า ฟินเฟอร์รรรร
20 ธ.ค. 2562 เวลา 00.02 น.
Chingchai
ขอแนะนำเมืองน่าเที่ยวลำดับที่ 11 ครับ เมืองนี้เป็นเมืองพุทธ ผู้คนมีจิตใจโอบอ้อมอารี สถานที่ท่องเที่ยวมีทั้งทางธรรมชาติ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ มากมาย หลากหลายภาษา แต่ละเมืองย่อยมีอาหารอร่อยๆที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง มีไมตรีจิตและมิตรภาพที่ดีกับผุ้มาเยือน สื่อสารกันเข้าใจง่ายกับผู้คนในพื้นที่ ขอแนะนำ"ประเทศไทย"ครับพี่น้อง..
19 ธ.ค. 2562 เวลา 23.44 น.
ดูทั้งหมด