“เชน ธนา” เข้าพบตำรวจรับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกงเงิน

จากกรณีเพจดัง โพสต์ข้อความ ว่า ตำรวจกองปราบ ออกหมายเรียก อดีตนักร้องชื่อดัง เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมาเข้าพบเป็นครั้งที่ 2 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกงเงิน หลังทำหนังสือขอเลื่อนกำหนดนัดหมายมาแล้วหลายครั้ง

คดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2565 หลังบริษัทรับผลิตอาหารเสริมบริษัท ไทยยินตัน จำกัด ได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับ นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือ เชน ธนา กับ ภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์แบรนด์อาหารเสริมชื่อดัง ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง”

โดยอ้างว่าผู้ถูกกล่าวหาคนดังกล่าวสั่งซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจาก บริษัท ไทยยินตัน จำกัด มูลค่ากว่า 79 ล้านบาท แต่เมื่อทางบริษัทส่งสินค้าไปให้ อดีตนักร้องกับไม่ยอมจ่ายเงินค่าสินค้า อ้างว่า ทำผิดสัญญา สินค้าไม่ได้คุณภาพตามที่สั่ง หลังรับเรื่องทางพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้ตรวจสอบพิจารณาข้อเท็จจริงแล้วเชื่อว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นคดีเกี่ยวกับเรื่องคดีแพ่ง จึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ทางบริษัทดังกล่าวจึงตัดสินใจนำหลักฐานเข้ายื่นฟ้องต่อศาลเอง

ข่าวทั่วไป

“เชน ธนา” อดีตนักร้องบอยแบนด์ สู่เจ้าของธุรกิจร้อยล้าน และข้อกล่าวหาฉ้อโกง 79 ล้าน

2 ชั่วโมงก่อนหน้า18 พ.ย. 2024

กระทั่งต่อมาอัยการมีความเห็นให้สั่งฟ้อง จึงทำหนังสือมายังพนักงานสอบสวนกองปราบ เพื่อให้ออกหมายเรียกมาทำการแจ้งข้อกล่าวหาวันที่ 24 ต.ค. 2567 แต่พอถึงวันดังกล่าว เชน ธนา และ ภรรยา ได้ทำหนังสือขอเลื่อนการเข้าพบออกไปเป็นวันที่ 5 พ.ย.2567 แต่พอถึงวันดังกล่าว เชน ธนา และ ภรรยา ได้ทำหนังสือขอเลื่อนอีกครั้งเป็นวันที่ 12 พ.ย.2567 แต่พอถึงวันดังกล่าวเชน ธนา และ ภรรยา ก็ได้ทำหนังสือแจ้งขอเลื่อนออกไปอีก โดยอ้างเหตุผลเรื่องปัญหาสุขภาพ และติดธุระบางอย่าง

ทางพนักงานสอบสวนจึงตัดสินใจออกหมายเรียกให้มาเข้าพบเป็นครั้งที่ 2 โดยกำหนดนัดหมายเป็นวันนี้ (18 พ.ย.67) ซึ่งหากครบกำหนดหมายเรียกครั้งที่ 2 แล้ว เชน ธนา กับ ภรรยา ยังไม่มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนอาจมีการพิจารณาดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (18 พ.ย.67) เวลา 14.28 น. มีรายงานว่า เชน ธนา ได้เดินทางมาที่กองปราบ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำแล้ว โดยไม่ได้ให้สมภาษณ์กับสื่อมวลชน เนื่องจากมาคนละตึกกับจุดที่นัดสื่อมวลชน

ก่อนที่ “เชน ธนา” จะออกมาให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตา พร้อมขอโทษทั้งคู่ค้าและสังคม ว่า คดีนี้เป็นแพ่งตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้ผมต้องยื่นพยาน สินค้าก็ยังมีอยู่ผมยังไม่ได้ขาย จริงๆ ถ้าไม่ได้เป็นปัญหาเยอะผมก็ยินดีแก้ปัญหา บางครั้งเป็นการโฆษณาเกินจริง บางครั้งเจ้าหน้าที่ อย. ต้องขีดทิ้ง ซึ่งผมได้ส่งหลักฐานให้เจ้าหน้าที่หมดแล้ว มันมีประเด็นมีความเสียหายจริงๆ

วันนี้ถ้ายังมีโอกาสผมก็ยังจะขายของอยู่ ผมสู้มาหลายปีแล้วจริงๆ ขายไม่ดีผมก็ขาดทุน ผมก็ใช้หนี้มาตลอด เชื่อว่าเจ้าหนี้เข้าใจผม บางช่องรู้ว่าผมใช้หนี้หมดแล้วด้วย อะไรที่เอาเข้าปากแล้วสีไม่เหมือนกัน สุขภาพของลูกค้าก็เป็นสิ่งสำคัญถ้าลูกค้าตายผมก็ตาย ก็ไม่รู้จะพูดยังไง

ซึ่งคดีนี้ เรามีโอกาสที่จะอุทธรณ์แล้วก็อุทธรณ์ไปตามขั้นตอน ตัวผมยังมองว่าผมมีหลักฐานที่ค่อนข้างแน่นพอ ผมก็ยังคงเป็นลูกหนี้ที่ดี ผมเคยบอกตัวเองว่า “ไม่อนุญาตให้ตัวเองมีความสุข ถ้ายังใช้หนี้ไม่หมด” ข้อมูลที่ออกรายการเมื่อกี้ยังมีการคาดเคลื่อน แต่ขอยังไม่พูดดีกว่า ซึ่งถ้าโชคร้ายจริงๆ จะได้ยื่นประกันตัวหรือไม่ ให้เป็นไปตามกระบวนการ

ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า ผมไปฉ้อโกง และมี พรบ. เช็ก ในส่วนของอีกคดีหนึ่ง ศาลชั้นต้นตัดสินแล้วว่า มีการยกฟ้อง ไม่ใช่การฉ้อโกง แต่สื่อกลับนำมาลง และเรื่อง พรบ เช็ก ผมกำลังต่อสู้อยู่ ผมโดนคุก และมีการประกันตัวออกมาจริงๆ

ทั้งนี้ “เชน ธนา” ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า อันนี้คือ 1 ใน 20 ตัว วันนี้อยากจะบอกว่าผมยังสู้อยู่นะ อยากให้ทุกคนอุดหนุนสินค้ากัน ยังมีความสามมารถในการขายของอยู่ วันที่ 26 พ.ย.67 นี้ เวลาประมาณ 10.00 น. น่าจะมารับคำฟ้อง ที่กองปราบอีกครั้ง

หากมีความคืบหน้า ‘อีจัน’ จะอัปเดตให้ทราบ