มีเวลาสั้น ๆ ประมาณ 10 นาทีที่ทีมงาน LINE TODAY ได้นั่งคุยกับ 'อาจารย์คฑา ชินบัญชร’ หมอดูชั้นฟ้าแถวหน้าของเมืองไทย เป็นเวลา 10 นาทีที่เพลิดเพลินมาก ๆ กับการได้นั่งฟังเรื่องราวสนุก ๆ และประสบการณ์ของการเป็นหมอดูไพ่ที่ยิงยาวมาเป็นเวลากว่า 30 ปี เริ่มต้นได้อย่างไร ปรับตัวอย่างไร เราขอหยิบยกเอาประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาจารย์คฑามาเล่าสู่กันอ่านในบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ อ่านจบแล้วอย่าลืมไปเช็กฟีเจอร์ฤกษ์มงคลที่อาจารย์ฝากผลงานเอาไว้บนแท็บดูดวงของ LINE TODAY ด้วยล่ะ!
จับพลัดจับผลูจนได้มาเป็นหมอดู
"เริ่มต้นด้วยความอยากเป็นครู เพราะอ่านหนังสือเรื่องโต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" อาจารย์เล่าให้ฟังว่าตอนเด็กเป็นเด็กที่ชอบอ่านหนังสือมาก ๆ และความรักในวรรณกรรมนี้ล่ะก็เป็นตัวจุดประกายที่นำพามาสู่ความชอบในศาสตร์ดูดวง
"สมัยเด็ก ๆ พ่อแม่จะชอบถามว่าวันหยุดอยากไปไหน ที่นึงที่ต้องไปเสมอไม่เคยขาดเลยคือ ร้านศึกษาภัณฑ์ ไปแล้วก็เลือกหนังสือที่ตัวเองชอบไปนั่งอ่าน อยู่ได้เป็นวัน ๆ เราเลยกลายเป็นเด็กที่รักการอ่าน และฝึกภูมิความรู้ไปด้วย ประกอบกับเราชอบเรื่องฮีโร่ วีรบุรุษต่าง ๆ โดยเฉพาะท่านกวนอู เราจะมองเป็นอาจารย์ เป็นไอดอลของเราเสมอ อีกด้านคือเราชอบด้านประวัติศาสตร์ด้วย มันเลยทำให้เราลึกซึ้งลงไปในเรื่องต่าง ๆ ได้ไม่ยาก
อาจารย์เรียนจบคณะศึกษาศาสตร์ ช่วงแรกก็ไปทำงานเป็นผู้ช่วยหัวหน้าแผนกดนตรี ซึ่งตลกมากเพราะเราเล่นดนตรีไม่เป็นเลย (หัวเราะ) ทำได้ประมาณ 6 เดือนก็ออกมา หลังจากนั้นก็มีเพื่อนมาชวนให้ไปเป็นหมอดูไพ่ยิปซีให้หน่อย เขาจะเปิดซุ้มหมอดูในโรงแรม เพื่อนเป็นเจ้าของโรงแรม เราก็บอกว่าไปได้ ๆ คิดว่าเล่น ๆ ขำ ๆ ถือว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนยื่นศาสตร์ดูดวงให้เราเลยก็ว่าได้นะ ครั้งแรกคนต่อคิวยาวเลย มีแต่คนหน้าคุ้น ๆ ทั้งนั้น (หัวเราะ) แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ส่วนครูบาอาจารย์ในศาสตร์ไพ่นั้นก็คือหนังสือของอาจารย์ขุนทอง อสุนี ณ อยุธยา เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์คนเดียวทางไพ่ยิปซีของอาจารย์คฑาครับ"
ดูดวงด้วยความเป็นตัวของตัวเอง
"โชคดีที่เราเรียนครูมามันทำให้เรารู้จักวิธีการพูดคุย การถ่ายทอดข้อมูลออกไป พอตอนไปนั่งเป็นหมอดูจำเป็นที่โรงแรมของเพื่อน มันทำให้เราแตกฉาน ด้วยภาษาที่เราทำนาย ทันสมัย ชัดเจน ด่าเป็นด่าไปเลย คนที่มาดูดวงกับเราเขาก็จะคิดตามได้ ตัวอย่าง มีหญิงสาวมาถามว่าดวงความรักของเขากับแฟนเป็นยังไง เราดูไพ่แล้วไพ่ก็บอกว่า อยู่กันไปก็ต้องเลิกอยู่ดี แต่สิ่งที่เราสื่อสารออกไปคือ ทุกวันนี้มีความสุขไหม ถ้าไม่มีความสุขจะทนกันไปทำไม ไปหาคนใหม่ที่แซ่บกว่าไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าไม่ลองอีกสิบคนยี่สิบคนจะรู้ได้ไงว่าคนไหนแซ่บ! เราก็พูดไปตรง ๆ แบบนี้ได้ เหมือนเป็นการเตือนสติเขาไปในตัวนะ เขาก็คิดได้เอง
ไพ่ให้แค่คำตอบ แต่สติต้องเกิดจากหมอดูที่มอบให้ และต้องเป็นหมอดูที่มีจรรยาบรรณคู่กับความรู้ ที่บอกว่ามีความรู้เพราะการสื่อสารออกไปเป็นเรื่องสำคัญ บางคนต้องตบ บางคนต้องลูบ มันใช้คำพูดกันคนละแบบ ตรงนี้หมอดูก็ต้องมีความเชี่ยวชาญหลายทาง
เลยคิดว่าที่อาจารย์ประสบความสำเร็จได้เพราะอาจารย์ทุ่มเท ทุกเรื่องที่ได้ลงมือทำ ทำให้วันแรกที่เราไปนั่งโต๊ะเป็นหมอดู คิวเต็มสองร้อยกว่าคิว พูดได้เลยว่าเป็นหมอดูคนเดียวในโลกที่นั่งวันแรกแล้วคิวสองร้อยคน ยาวไปสองเดือน พอหมดสองร้อยคิวนี้ เราก็คิดว่าไม่ทำต่อแล้ว แต่ปรากฏว่าคิวยังมาเรื่อย ๆ ไม่หมดซักที เราเลยสงสัยว่าเพราะอะไร ก็เป็นเพราะว่าคนที่เคยดูกับเราเขาไปบอกปากต่อปาก ว่าแม่นนะ ตรงนี้เราเลยภูมิใจ ท้ายสุดก็เลยทำมาเรื่อย ๆ จนมาถึงวันนี้"
ปรับตัวจากโลกออฟไลน์มาเป็นโลกออนไลน์
ในระยะเวลา 30 ปี มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย และสิ่งหนึ่งที่ทุกวงการหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการรับมือกับการแทรกแซงของยุคดิจิตัล อาจารย์คฑาเล่าถึงการก้าวข้ามยุคหมอดูนั่งโต๊ะ สู่ยุคที่หมอดูทุกคนต้องสร้างคอนเทนต์ว่า "ปรับตัวไม่ยากเลยถ้าเรารู้จัก ‘ธรรมะ’ หมายถึงธรรมชาติที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทุกสิ่งไม่แน่นอน ไม่หยุดอยู่กับที่ ถ้าเรารู้ว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงหนึ่งของโลก เราไม่เครียดและปรับตัวอยู่กับมันให้ได้ มันก็ไปได้ อีกอย่างคือ เวลามีโอกาสเข้ามา ให้รีบคว้าไว้ เพราะโอกาสไม่ได้มีมาบ่อย ๆ และอาจารย์จะลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ อย่าด้อยค่าศักยภาพของตัวเองครับ"
เช็กฤกษ์มงคลกับ อาจารย์คฑา ชินบัญชร ได้ในแท็บดูดวงบน LINE TODAY