“ผมเตือนแล้ว” ผบก.ปปป. เผยคุยกับ ‘ชาดา’ ให้ทำตามกม. คดีจับ ‘ลูกเขย’ เรียกรับสินบน

ตำรวจ ปปป. ร่วม ป.ป.ท.-ป.ป.ช. แถลงจับ ‘นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่’ ลูกเขยรมช.มหาดไทย ‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’ กับพวก หลังได้รับร้องเรียนเรียกสินบน 6 แสน โครงการก่อสร้างประปาหมู่บ้าน

ความคืบหน้าคดี เมื่อเวลา 19.26 น. วันนี้ (24 ต.ค. 66) มีการแถลงข่าวผลจับกุม นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี กับพวกรวม 4 คน โดยเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 3 คน พลเรือน 1 คน นำโดยพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) พร้อมตำรวจชุดจับกุม, นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และนายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

สืบเนื่องจากตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้รับร้องเรียนจากผู้ประกอบการในพื้นที่ ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานีว่า เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลตลุกดู่ มีพฤติกรรมเรียกรับสินบน โดยข่มขู่ผู้เสียหายตั้งเเต่ก่อนเข้าร่วมประมูลโครงการของทางเทศบาล จนกระทั่งผู้เสียหายชนะการประมูลโครงการฯ อีกทั้งยังมีการใช้อิทธิพลสร้างอุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ให้เข้าพื้นที่ การขัดขวางการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และการบ่ายเบี่ยงไม่รับการตรวจการจ้าง

ทั้งยังมีการเรียกให้ผู้เสียหายเข้าไปพบ เพื่อเจรจาเรียกเงิน จำนวนร้อยละ 15 ของวงเงินตามสัญญา (2 โครงการ รวมประมาณ 100,000 บาท) ซึ่งภายหลังผู้เสียหายขอต่อรองเหลือโครงการละ 300,000 บาท (รวมเป็นเงิน 600,000 บาท)

จากพฤติการณ์ดังกล่าว ถือเป็นการใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ในทางมิชอบและโดยทุจริตเรียกรับสินบนจากผู้เสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ นายกเทศมนตรีฯ, ปลัดเทศบาลฯ, ช่างควบคุมงานเทศบาลฯ, คนกลางที่ทำหน้าที่เจรจา และผู้ร่วมขบวนการ

วันนี้ ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา ขณะรับมอบเงินจำนวน 600,000 บาท ตามที่ได้นัดหมายกับผู้เสียหายไว้ พร้อมกันนี้ยังนำหมายค้น 6 จุด เข้าจับกุมผู้ต้องหารายอื่นๆ ยึดของกลางเป็นเงินสด 6 แสนบาท อาวุธปืนของนายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ และเช็คของเทศบาล ซึ่งนำมาแลกกับเงิน 6 แสนบาท โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ขณะที่ นายศรชัย ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐว่า จากนี้พนักงานสอบสวน มีเวลา รวบรวมหลักฐาน 30 วัน ก่อนส่งสำนวนคดีให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า หลายพื้นที่ตรงนั้น ถ้าไม่ใช่คนที่กำหนดให้ได้งานก็จะไม่ได้งาน ถ้าได้งานก็จะไม่ได้ทำ ตรงนี้เราคงต้องแก้ปัญหาให้ผู้เสียหาย คงต้องให้ตำรวจไปอยู่ด้วย และให้ ป.ป.ช. คุ้มครองพยาน เพื่อให้ผู้เสียหายดำเนินการโครงการได้ ทั้งนี้พฤติกรรมเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล คล้ายๆ คดีกำนันนก เราทำงานอยู่มีความคืบหน้าไม่ได้นิ่งนอนใจ โมเดลนครปฐมเกิดขึ้นอย่างไรก็จะมีโมเดลของอุทัยธานีตามมา

ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวด้วยว่า “ตัวผมเองก็ได้คุยกับท่านชาดา แล้วก็ท่านชาดาไม่ได้ขออะไร ก็เพียงแต่บอกว่า พี่ผมเข้าใจครับ พี่ก็ว่าไปตามกฎหมายเลยไม่เป็นไร ผมเตือนแล้ว ถ้าใครไม่ทำ ใครไม่หยุดก็ดูแลตัวเองไป ตรงนี้ได้คุยกันแล้ว ผมก็นำเรียนท่านว่า ในสิ่งที่ทำเนี่ย พวกเราได้รับการร้องเรียนมาแล้ว เราก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย ท่านเข้าใจ”

‘อนุทิน’ เผย ‘ชาดา’ โทรแจ้งแล้ว หลังลูกเขยถูกจับ ขอประชาชนมั่นใจไม่มีแทรกแซง หากผู้ว่าฯ อุทัยธานี มีหลักฐานพร้อมให้สั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่ จ.อุทัยธานี จับกุมขบวนการเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการทำโครงการก่อสร้างระบบประปาในพื้นที่

โดยหนึ่งในผู้ถูกจับกุม คือ นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศบาลตำบลตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นลูกเขยของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทยและรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

นายอนุทิน กล่าวว่า นายชาดา และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้โทรศัพท์มาแจ้งตนแล้ว โดยนายชาดาได้บอกตนว่า ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการพิสูจน์ว่า ไม่มีใครมีเส้น และใหญ่เกินกว่ากฎหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นญาติ เป็นลูก หรือบุคคลใกล้ชิด ที่ต้องถูกดำเนินการตามกฏหมาย

นอกจากนี้ นายชาดา ยังบอกด้วยว่า ได้แจ้งไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี หากมีหลักฐานครบเมื่อไหร่ ก็สั่งให้นายวีระชาติหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหากใครทำผิดกฏหมายอะไรก็ต้องรับผลกรรมตามความผิดที่ตัวเองก่อ และขอยืนยันว่า นายชาดาจะไม่เข้าไปก้าวก่าย พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้จะมีความชัดเจนขอให้พี่น้องประชาชนไว้ใจได้

มีรายงานว่า เวลา 22.00 น. วันที่ 24 ต.ค. 66 ภายหลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำ กลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 4 แสนบาท ยื่นประกันตัวในขั้นสอบสวน

พนักงานสอบสวน บก.ปปป. มีความเห็นอนุญาตให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะเห็นว่า มีหน้าที่การงาน ที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง และไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนี โดยจะนัดหมายให้มาเข้าพบอีกครั้งเมื่อสำนวนคดีเสร็จสิ้น เพื่อส่งตัวไปยัง ป.ป.ช. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ภาพจาก FB ตำรวจสอบสวนกลาง และพรรคภูมิใจไทย

ตร.ปปป. รวบลูกเขย ‘ชาดา’ หลังถูกร้องเรียนเรียกรับสินบน สร้างระบบประปาหมู่บ้าน