โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เลิกเอาความสุขผูกขาเขาได้แล้ว - ดีเจพี่อ้อย

THINK TODAY

เผยแพร่ 20 ธ.ค. 2562 เวลา 11.45 น. • ดีเจพี่อ้อย

  เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน จะเปลี่ยนพ.ศ.กันอีกแล้วค่ะ 1 ปีที่กำลังจะผ่านไป อยากโละทิ้งอะไรไว้ในปีนี้ และในปีต่อๆไป เราอยากพกอะไรติดตัวไป ไม่ว่าจะผ่านไปสู่ปีไหนๆก็ตาม ตั้งคำถามให้กับตัวเองเล่นๆค่ะ ในช่วงเวลาของการทบทวน

  ปีที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยสุขหรือทุกข์ มีมากกว่ากัน ไม่ต้องไปข้อข้อมูลจากศูนย์วิจัยไหนๆ ใช้มาตราวัดจากใจของตัวเองนี่แหละค่ะ หากความทุกข์ปีนี้มันมากไป ปีหน้าเริ่มต้นกันใหม่ ให้สัดส่วนความสุขมีสูงขึ้น ความสุขไม่ได้อยู่ที่เรามีอะไร แต่อยู่ที่เรารู้สึกยังไงกับสิ่งที่เรามีนะคะ ถ้าปีนี้ เราเอาความสุขของเราไปผูกที่ขาของใคร ปีต่อๆไป ขอให้ความสุขขึ้นอยู่กับตัวของเราเองบ้าง  

   คำถามช่วงส่งท้ายปลายปีค่ะ

   “พี่อ้อยคะ หนูอยู่ด้วยกันกับสามีมา11ปี มีลูกสองคน แต่เขาไม่เคยสนใจหรือใส่ใจหนูกับลูกเลย ดูเหมือนเขาไม่มีความรับผิดชอบอะไร ปากก็พูดว่ารักครอบครัว แต่การกระทำมันไม่ใช่ มันตรงกันข้ามทุกอย่าง อีกอย่างเขาไม่ค่อยยอมรับฟังความคิดเห็นของหนู เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ เราอยู่ด้วยกันทุกวันแทบไม่ค่อยได้คุยอะไรกันเลย คุยกันที ก็ทะเลาะกันทุกที พอเขากินเหล้ามาทีไร ก็หาเรื่องตลอด หนูทนมา11ปีแล้ว ตอนนี้หนูไม่ไหวแล้วจริงๆ ที่ทนได้ทุกวันนี้เพราะลูก ไม่อยากให้ลูกขาดใครคนใดคนหนึ่งไป อยากปรึกษาว่าหนูควรทำยังไงดี”   

  บางที “ความอดทน” ก็ใช้แล้วหมดไป แต่ “ความเข้าใจ” ใช้ไม่มีวันหมดนะคะ วันนี้เราปักหลักอดทน จนมองไม่เห็นแล้วว่า ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เราเลือกเขาเพราะอะไร ความดีที่เราถึงขั้นยอมสละความสุดซึ่งความโสด โดดลงจากคานเพื่อแต่งงานกับเขา ตอบตัวเราให้ได้ก่อน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบแม้แต่ตัวเรา ต่างคนต่างรักกันในข้อดี และบางทีก็ต้องหยวนๆในบางข้อเสียที่ไม่เพลียหัวใจมากเกินไป เขาเองวันนี้ดูเหมือนทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจเรา เขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่ต้น หรือเพิ่งเปลี่ยนไปเป็นคนแบบนี้ ที่ต้องให้ถามตัวเองก่อน เพราะน้องบอกเองว่า ต้องทน เพื่อให้ลูกมีพ่อแม่อยู่ครบ ซึ่งก็ไม่ได้จบที่อบอุ่นเสมอไปนะ

  เป็นพ่อแม่ลูก ไม่ใช่แค่ผูกขาติดกัน แล้วความผูกพันมันจะเกิด อยู่บ้านเดียวกัน ไม่คุยกัน ไม่มีค่าในสายตาซึ่งกันและกัน ยิ่งดูอ้างว้างทั้งๆที่มีผู้คน อันนี้ทนทุกข์ทรมานกว่า ถ้ายังไม่อยากหย่า ก็ต้องหาข้อดีที่ยังพอมี เอาไว้บำรุงหัวใจให้เดินหน้าต่อไปไหว ตอนนี้น้องทุรนทุราย อยากจะหนีๆไป เพราะคิดว่าเขาเป็นฝ่ายผิดแต่เพียงผู้เดียว เชื่อเถอะค่ะ ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เวลามีปัญหาความรัก ก็ต้องร่วมกันแก้ทั้งสองคน เขาแย่อย่างที่น้องบอก แล้วน้องแสดงออกยังไงบ้าง ตำหนิแต่เขา จนบ้านเรามีแต่บรรยากาศเหมือนอยู่ในคุก ไม่มีใครที่สุขซักคนหรือเปล่า เขาเป็นสามีที่แย่ แต่เป็นพ่อที่ดีไหม เขากอดลูกแน่นแค่ไหน ถ้าไม่มีเขาอยู่ในบ้าน ลูกจะทรมานมากหรือเปล่า พอมีลูก เราคิดคนเดียวไม่ได้แล้ว คิดแทนก็ไม่ได้นะคะ แค่สังเกตและเฝ้าดู ใช้ความรู้สึกในการตัดสินภาพที่เห็นแบบเป็นกลาง แล้วเลือกทางที่ดีที่สุด ณ.จุดที่ต้องเลือกค่ะ

  มันมีแค่ สองทาง เดินต่อหรือพอแค่นี้ ถ้าเลือกจะพอ และคิดว่าเราดูแลลูกได้ดีพอ กอดลูกให้อุ่นไม่ต่างจากพ่อก็ต่างคนต่างไป สามีภรรยาแยกกัน แต่ความผูกพันของการเป็นแม่ของลูก และพ่อของลูก ตัดกันไม่ได้ตลอดชีวิต ลูกยังมีทั้งพ่อและแม่ แค่เราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว ไม่ต้องทนอยู่ในบ้านอึมครึม เดินไร้ตัวตนไปมา แค่หลอกตัวเองเอาว่า ลูกจะได้อบอุ่น เพราะมีพ่อมีแม่อยู่ครบ แต่ตบตีทะเลาะกันทุกวัน ครอบครัวต้องมีความรักความผูกพันมันถึงจะอบอุ่นค่ะ

  แต่ถ้าอยากเดินต่อ ต้องใช้ความเข้าใจมากกว่าความอดทน ลองจับมือคุยกันอีกครั้ง เรายังรักกันอยู่ไหม เรามีข้อเสียอะไรที่เธออยากให้ปรับปรุง แล้วค่อยบอกในมุมของเราว่า อยากให้เขาเป็นยังไง อยากขอบคุณเขาเรื่องไหน แต่ถ้าไม่ไหว ก็บอกขอโทษเขาไป ที่เราไม่ใช่ภรรยาที่ดีนัก เธอถึงไม่ค่อยรักเท่าไหร่ เราถึงทะเลาะกันอยู่เรื่อยไป จนทำร้ายหัวใจลูก พูดแบบนี้แล้วดูซิว่าเขาจะตอบว่าอะไร ปรับได้ปรับ ปรับไม่ได้ก็เปลี่ยนเป้าหมายในใจ ว่าต่อจากนี้ไป สุขทุกข์ของเราจะไม่ได้อยู่ที่เขา เอาหัวใจไปฝากไว้ที่ลูก เธอหาเรื่องทะเลาะ เราหาเรื่องเงียบ ไม่ให้เขามีผลอะไรต่อใจเราอีกต่อไป เพราะน้องบอกเองแล้วไง ว่าอยากอยู่ต่อไปเพื่อให้ลูกยังมีพ่อ บรรลุเป้าหมายแล้วก็จบ ดีกว่าปักหลักอดทนจนเริ่มรู้สึกเสียเวลา 

ครอบครัวบ้านแตก ไม่ได้แปลว่าชีวิตลูกจะเหลวแหลกเสมอไป ให้ลูกอยู่ในภาวะแวดล้อมที่มีแต่ความขัดแย้ง มันรุนแรงกว่าต่างคนต่างแยกย้าย แต่เจอกันเมื่อไหร่มีแต่เรื่องดีๆคุยๆกัน ยิ้มให้กัน ใส่ใจกัน เป็นพ่อแม่ลูก แต่ไม่ได้ผูกพันกันในฐานะสามีภรรยาแล้วเท่านั้น

  ทุกชีวิตมีสิทธ์เลือกค่ะ ถ้าปีที่กำลังจะผ่านไป เราให้คนอื่นกำหนดความสุขในชีวิตเรา ต่อจากนี้ เราจะเป็นคนกำหนดความสุขในชีวิตของเราเอง ขอให้ความสุขอยู่กับเนื้อกับตัวนะคะ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 10

  • Yong
    ผมเห็นว่าเลิกเอาความทุกข์ไปผูกขาของคนอื่นได้แล้วน่าจะถูกต้องกว่าครับ
    20 ธ.ค. 2562 เวลา 21.32 น.
  • แต่สำหรับผมมันสายไป ผมพยายามให้ครอบครัวเราดีขึ้น โดยที่ลืมคนข้างๆ จนเราเลิกกันบีอยครั้ง พอจะตัดใจไปจริงๆ เริ่มมีคนคุยเข้ามา ก้มาชั่งใจดู เลยรู้ว่าเราลำบากกันมา 12 ปี เราไม่ควรทิ้งเขาไป ในบางเรื่องที่ทำให้เราไม่พอใจ เอามาเป็นเหตุ ให้เลิกรากัน แต่คนที่เข้ามาคุยด้วยเขาก้มีแฟนอยู่แล้ว ก้เลยไม่ได้สานต่อ ยุติกันไป แล้วผมก้กลับมาเริ่มคุยกะเขา ปรับเปลี่ยนทุกอย่าง แต่ด้วยเรื่องงานที่เข้ามามากจนไม่มีเวลาให้ ทำให้เราไม่เข้าใจกัน และเลิกรากันไป ตอนนี้ได้แต่มองหน้าลูกเวลาหลับ และก้บอกแค่เพียงพ่อจอโทษนะลูก😭
    21 ธ.ค. 2562 เวลา 12.42 น.
  • ผมคิดว่าบางครั้งในการที่ได้ห่างกันสักพักหนึ่ง เช่นการที่คุณพาลูกของคุณกลับไปหาคุณพ่อคุณแม่คุณที่บ้านสักระยะหนึ่ง ก็คงอาจจะช่วยทำให้แฟนของคุณเกิดความคิดและความรู้สึกที่ดีๆต่อครอบครัวขึ้นมาได้บ้างเหมือนกัน.
    21 ธ.ค. 2562 เวลา 04.29 น.
  • WI Pookrod
    เดินตามพระพุทธองค์เที่สุดหลุดพ้นบ่วงทั้งปวง ไม่รัก ไม่หลงไม่อยากได้ อยู่กับตัวเองเป็นสรณะ และลมหายใจนะจ๊ะ ทุกคนที่มีความรัก ความฝัน ความเหงา ความ..... ตั้งไว้ที่อานาปา ว่าเราไม่เกิน 100 ปีก็ต้องจากกัน ความสุขที่มีเดี่ยวก็ดับ อย่าแสวงหาอีกเลย
    21 ธ.ค. 2562 เวลา 15.06 น.
  • น้องใบหม่อน
    เหมือนที่บ้านเลยคะ
    20 ธ.ค. 2562 เวลา 13.02 น.
ดูทั้งหมด