โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ธรรมlife EP.48 #ทำไมคนปฏิบัติธรรมบางคนชอบคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น

สวนโมกข์

เผยแพร่ 14 มี.ค. 2563 เวลา 21.30 น.

ธรรมlife โดย อ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์

คำถาม ทำไมคนปฏิบัติธรรมบางคนชอบคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น

ตอบโดย พระครูสิทธิสรกิจ (พิศุทธ์ วิสุทฺโธ) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ

คุณเคยมีคนรู้จัก หรือคนที่รักไม่ว่าจะพี่น้องพ่อแม่ ไปปฏิบัติธรรม 3 วัน 5 วัน 10 วัน กันบ้างมั้ยคะ?? 

ถ้ามี คุณเคยรู้สึกมั้ยว่า พอกลับมา เขามักจะดีเกินไป จนเราไม่ไหว ไม่ใช่เพราะอะไร เพราะเขาดูจะอยากจะให้เราแก้ไข เปลี่ยนนิสัยเยอะแยะหลายสิ่งเหลือเกิน จนคุณแอบรู้สึกว่า ทำไมไปปฏิบัติธรรมกลับมาคล้ายๆว่าเราจะคุยกันรู้เรื่องน้อยลงกว่าเดิม 

วันนี้พระอาจารย์ท่านเมตตาตอบ เพื่อเราจะได้เข้าใจตัวพวกเขา รวมทั้งตัวเราเองมากขึ้นค่ะว่า ทำไมนะ คนปฏิบัติธรรมบางคน ถึงชอบคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น

“อย่าว่าแต่คนไปปฏิบัติธรรมเลย เรื่องนี้เกิดกับคนทั่วไปได้ทั้งนั้น อาตมาเชื่อว่า แม้แต่เจ้าของคำถามตอนนี้ก็อาจคิดอยู่ว่าฉันไม่เห็นต้องไปปฏิบัติธรรมเลย ฉันยังดีกว่าคุณแม่ ยังดีกว่าคุณพ่อที่ไปปฏิบัติธรรม 

“ส่วนเรื่องที่ว่าเวลาที่ไปปฏิบัติธรรม แล้วคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น มันมักจะเกิดจากสังคมนี้ที่ชี้นำไปว่า ถ้าฉันได้ไปทำอะไรอย่างนี้คือฉันเป็นคนดี ทุกวันนี้มีการการันตีว่า ฉันไปเข้าคอร์สมานะ ฉันจบหลักสูตรปฏิบัติธรรมนี้มานะ นั่นแปลว่า ฉันได้การันตีแล้วว่าฉันเป็นคนดี 

“ทีนี้การมาบอกให้ที่บ้านหรือคนรอบข้างทำอย่างนั้นอย่างนี้ อยากให้มองว่าเกิดจากการอยากส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับคนรอบข้าง เหมือนกับเราไปกินอะไรอร่อยมา เราก็อยากให้คนที่บ้านไปกิน กินสิๆๆ เพียงแต่คนที่บ้านไม่ได้ชอบกิน หรือ เราไปได้ของใหม่ได้อะไรดี ๆ มา เราอยากให้คนที่บ้านใช้ ก็ซื้อมาให้ แต่คนที่บ้านไม่อยากใช้ เพราะฉะนั้น ให้อาศัยจากจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นเลย แล้วลองพูดคุยกัน

“ขอให้ลองพูดคุยกันจริงๆ ในแง่ของการรับฟังกันและกันนะว่า ไปปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไร ได้ทำอะไรบ้าง แล้วตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร การพูดคุยนี้ก็จะชวนให้คนปฏิบัติธรรมนั้นกลับมาเห็นตัวเองชัดอีกครั้งว่า ตอนนี้เขายังมันเหมือนเดิม หรือว่ามันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ก็จะเป็นการเอื้อประโยชน์ ในการให้คนที่ไปปฏิบัติธรรมมา ได้รักษาความรู้ความสามารถนั้นให้ดำรงอยู่ต่อ และเป็นประโยชน์กับคนที่อยู่รอบข้างด้วย

“นอกจากนี้ อยากให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจว่า การเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาต้องใช้ระยะเวลานาน เราจะไปเข้าคอร์ส 2 วัน 3 วัน แล้วเปลี่ยนเลยทันทีมันคงไม่ใช่ คนที่อยู่รอบข้างผู้ไปปฎิบัติธรรมก็อย่าไปจับเอาว่าเขาไป 2 วัน 3 วัน เขาต้องเปลี่ยนอย่างถาวร อันนี้จริง ๆ ก็จะกลายเป็นเห็นผิดด้วยกันทั้งคู่ เป็นเรื่องของทิฐิ และเรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ไม่เสมอกันไปอีก

“ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่ฝึกได้ ปรับให้เข้ากันได้ โดยลองเริ่มจากพูดคุยกันอย่างที่บอก สุดท้ายที่อยากจะฝากคือการปฏิบัติธรรมไม่ได้อยู่ที่วัด การปฏิบัติธรรมนั้นอยู่ที่ใจ ไปที่ไหนก็ได้ อยู่ที่ไหนก็ได้ ขอให้รู้จักตรวจสอบตัวเองตลอดเวลา อันนี้ถือเป็นการปฏิบัติธรรมเหมือนกัน”

อย่าลืมว่า ถ้าคุณรู้สึกหนัก มีทุกข์ในใจแบ่งเรื่องราวของคุณให้พวกเราได้ค่ะ ที่สำคัญลองเติมธรรมกันวันละนิดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ ส่งความหนัก ความทุกข์ สิ่งสงสัยมาให้พวกเราได้ที่ www.bia.or.th/dhamlife อ้อมจะไปหาคำตอบจากพระอาจารย์มาให้ค่ะ อะไรที่อ้อมช่วยได้ อ้อมยินดีค่ะ 

ติดตามข้อธรรมดีๆ ได้ที่เพจ fb : หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ หรือ Line @Suanmokkh_Bangkok  

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 19

  • Nokp
    มันก็เป็นแบบนี้​ เป็นธรรมดา​ ยิ้มให้เขาเถอะ​ สงสารเขาคิดเสียว่าปฎิบัติมาตั้งนานยังไปไม่ถึงไหนเลย​ กลับยิ่งหนักกว่าตอนไม่ปฎิบัติธรรมอีก
    15 มี.ค. 2563 เวลา 01.27 น.
  • Alonely
    นุ่งขาวห่มขาว แต่จิตใจสกปรกก้อมี รักษาศีลได้แต่ตอนไปอยู่วัด พอออกจากวัดมา รักษาไม่ได้สักข้อ
    15 มี.ค. 2563 เวลา 01.20 น.
  • ก็เพราะสิ่งที่เขาไปปฏิบัติยังไม่ถูกต้องดีนักอย่างไรล่ะ คนทุกคนยังมีกิเลสอยู่มาก การที่เขาคิดไปปฏิบัติธรรมนั่นก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่การที่คุณจะไปคาดหวังว่าเขาปฏิบัติธรรมมาแล้วจะต้องเป็นคนดี อัตตาลดลงก็ไม่ใช่ เขายังเป็นนักเรียนอยู่ เพิ่งจะกำลังเรียนเท่านั้นเอง พอออกจากเรียนก็เลยร้อนวิชาไปหน่อย
    15 มี.ค. 2563 เวลา 01.38 น.
  • BeeBee'
    ที่เป็นเช่นนั้นเพราะ สัญญาวิปลาส ปฎิบัติธัมมะ ผิดทาง เห็นนั้น เห็นนี่ แล้วสำคัญตนผิดคิดว่าตนเอง สำเร็จนั้นสำเร็จเป็นพระโสดาบัน สำเร็จพระอรหันต์ จริงๆๆแล้วปฎิบัติธัมมะไป มันไม่มีอะไรเลย...มันเป็นอนัตตาหมดเลย...มันเข้าไปทำลาย กิเลส อาสวะ อนุสัย สังโยชน์ กิเลส กรรม วิปาก อุปปาทาน นี้คือแก่นแท้ของศาสนาพุทธ นอกจากนี้แล้วไม่ใช้ศาสนาพุทธ
    15 มี.ค. 2563 เวลา 01.57 น.
  • suchet k.
    ไปแอบเอากันตอนวิปัสนายังมีเลย 555
    15 มี.ค. 2563 เวลา 01.55 น.
ดูทั้งหมด