สนค.เผยไทยกำลังจะมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม สร้างโอกาสหลายธุรกิจ ทั้งโรงแรม จัดงานแต่งงาน ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ประกันภัย การเงิน การให้คำปรึกษาและวางแผนครอบครัว บันเทิงและนันทนาการ
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค.ได้ทำการสำรวจประโยชน์ทางเศรษฐกิจ จากกฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทย ตามนโยบายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
จากการสำรวจพบว่า นอกจากจะช่วยยกระดับด้านความเท่าเทียมทางเพศของไทยแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจด้วย โดยเฉพาะธุรกิจบริการในหลากหลายสาขา เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานแต่งงาน ธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหาร ธุรกิจประกันภัยและธุรกิจทางการเงิน ธุรกิจการให้คำปรึกษาและการวางแผนครอบครัวสำหรับคู่รักหลากหลายเพศ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงและนันทนาการ โดยเฉพาะซีรีส์วาย เป็นต้น
ทั้งนี้ มีผลการศึกษาของสถาบันด้านการวิจัย The William Institute ในสหรัฐ พบว่า ภายหลังที่สหรัฐ ได้มีการบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมทั่วประเทศในช่วงปี 2558-2562 สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 3,800 ล้านดอลลาร์ และยังช่วยสร้างการจ้างงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นถึง 4.5 หมื่นราย
สำหรับธุรกิจบริการที่มีโอกาสเติบโต โดยธุรกิจโรงแรม มีโอกาสเติบโนจากการจัดงานแต่งงานของกลุ่ม LGBTQIA+ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานแต่งงาน เช่น ธุรกิจสตูดิโอถ่ายภาพ ธุรกิจเช่าชุดแต่งงาน จะขยายตัวตามไปด้วย ธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหาร ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เดินทางมาไทย จากการที่มีกฎหมายรองรับและสภาพสังคมที่เป็นมิตร จะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้รู้สึกปลอดภัยและสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจประกันภัยและธุรกิจทางการเงิน ที่จะเติบโตตามคู่รักหลากหลายเพศ ที่จะทำประกันชีวิต กู้เงินซื้อบ้าน ถือกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินร่วมกัน ธุรกิจการให้คำปรึกษาและการวางแผนครอบครัวสำหรับคู่รักหลากหลายเพศ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงและนันทนาการ โดยเฉพาะซีรีส์วาย และการมีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลระดับโลก World Pride ซึ่งจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในระดับสากลและก่อให้เกิดรายได้ในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้องของไทย
ดังนั้น ไทยควรใช้โอกาสนี้ในการผลักดันเป็นศูนย์กลางการจัดงานแต่งงานของทุกเพศสภาพในเอเชีย เนื่องจากความพร้อมในด้านกฎหมาย ความเป็นเลิศในด้านการจัดงานและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องของไทย และการมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งทางด้านธรรมชาติ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นสถานที่สำหรับการจัดงานแต่งงานและฮันนีมูน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับไทยเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม หากกฎหมายครอบคลุมถึงการอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถจดทะเบียนสมรสได้ ภาครัฐต้องคำนึงถึงการอำนวยความสะดวกในด้านการจดทะเบียนสมรส โดยเฉพาะในเรื่องเอกสาร วีซ่า ระยะเวลาในการดำเนินการ และสนับสนุนให้ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องในการจัดงานแต่งงานมีมาตรฐานและคุณภาพ เพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับคู่รักต่างชาติ เพื่อที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ไทยเป็นจุดหมายยอดนิยมของคู่รัก LGBTQIA+ ทั่วโลกในการแต่งงาน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 สภาผู้แทนราษฎรไทยได้มีมติเห็นชอบร่าง พรบ.สมรสเท่าเทียม และเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติรับหลักการร่างพรบ.สมรสเท่าเทียมวาระแรกแล้ว และมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างกฎหมาย
หากไทยมีกฎหมายดังกล่าว จะช่วยขยายสิทธิการสมรสให้ครอบคลุมบุคคลในทุกเพศให้สามารถสมรสกันได้อย่างถูกกฎหมายและสนับสนุนให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เท่าเทียมกับคู่รักชาย-หญิง และไทยจะกลายเป็นชาติที่ 37 ของโลกและชาติแรกของอาเซียนที่มีกฎหมายนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- บีโอไอ ไฟเขียว 'Chery' ยักษ์ค่ายรถยนต์จีน ตั้งฐานผลิต EV ในไทย
- สนค. เปรียบจุดแข็ง-จุดอ่อน 5 ชาติอาเซียน หนุนดึงดูดลงทุนจากต่างประเทศ
- โพล สนค. เผยอิทธิพลโซเชียล รีวิวจากผู้ใช้จริง มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจกิน เที่ยว ช้อปปิ้ง
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter):https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg
ความเห็น 0