‘อุบัติเหตุ’ ถือเป็นสิ่งที่หลายคนไม่อยากประสบพบเจอ นอกจากการความเจ็บปวดที่ต้องพักฟื้นก็อาจมาพร้อมกับความสูญเสียครั้งใหญ่ บางครั้งอาจเป็นปมฝังใจของผู้ประสบเหตุ ยิ่งเป็น ‘เด็ก’ อาจยากที่จะลบเลือนความทรงจำจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าได้
โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ Thai RSC ได้รวบรวมสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนรถทุกประเภท พบว่ามีผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 5,352 ราย มีช่วงอายุที่หลากหลาย แต่ทว่าก็มีเด็กที่อายุเพียง 1-14 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถึง 12.04% และบาดเจ็บ 23.83% จากผู้บาดเจ็บสะสม 307,014 ราย แม้ส่วนใหญ่จะเกิดอุบัติเหตุกับรถจักรยานยนต์ 80 % ส่วนรถยนต์เพียง 20 %
ล่าสุดเรียกว่าเป็นประเด็นบนโลกออนไลน์กับราชกิจจานุเบกษาประกาศผ่านทางเว็บไซต์ระบุว่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 ซึ่งสาระสำคัญระบุให้ คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือนั่งในที่พิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย
คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ซึ่งภายหลังราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศเผยแพร่ไปได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้เป็นวงกว้างทั้งเชิงบวกและเชิงลบ
จนรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลต้องสยบดราม่าว่า “ไม่ได้บังคับตายตัวว่าจะต้องใช้คาร์ซีท แต่เพียงต้องจัดที่นั่งให้เด็กปลอดภัยเพียงเท่านั้น”
แม้ประเทศไทยจะยังไม่ได้บังคับทันถ่วงที แต่ทว่าเพื่อนบ้านเราในอาเซียก็มีข้อบังคับใช้คาร์ซีทและคาดโทษเช่นกันเริ่มด้วย
ฟิลิปปินส์
-ถ้าเกิดพบว่าเด็กไม่ได้นั่งอยู่ในคาร์ซีทจะถูกปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 เปโซ ถ้าครบ 3 ครั้ง จะถูกปรับ 5,000 เปโซและยึดใบอนุญาตขับรถยนต์ 1 ปี
มาเลเซีย
-ถ้าเกิดพบว่าเด็กไม่ได้นั่งอยู่ในคาร์ซีทจะถูกปรับเป็นเงินจำนวน 2,000 ริงกิต
สิงคโปร์
-กรณีที่ผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะเสียค่าปรับสูงถึง 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์และจำคุก 3 เดือน
นอกจาก 3 ประเทศที่ได้เผยในข้างต้นที่มีโทษที่แตกต่างกันออยากไป แต่ส่วนใหญ่ ‘คาร์ซีท’ จะไม่ถูกติดตั้งบนรถในแท็กซี่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง
ทั้งนี้การติดตั้งคาร์ซีทเป็นอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยขณะนั่งในรถของลูกคุณเอง เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุลูกของคุณจะลอยออกจากรถจากแรงกระแทก
ดังนั้นหากมีกำลังทรัพย์ที่เพียงพอก็ติดตั้งดีที่สุด หรือบางครอบครัวอาจไม่ได้มีทุนทรัพทย์ที่จะซื้อก็แนะนำให้ขัดเข็มขัดนิรภัยเพื่อลดการสูญเสีย แม้การเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จะมีเพียง 20 % ก็ตาม แต่ทั้งหมดก็เกิดจากการสูญเสีย
อ้างอิง
ความเห็น 71
PM
แต่ไม่เคยให้ความรู้ประชาชนว่าห้ามวางคาร์ซีทไว้ที่เบาะหน้า แม้แต่รูปพาดหัวยังทำให้คนสับสนว่าวางคาร์ซีทไว้เบาะหน้าได้ และคนทั่วไปก็ไม่เคยอ่านสติ๊กเกอร์ตรงที่บังแดดว่าห้ามวางคาร์ซีทไว้เบาะหน้ากันเลย ตำรวจก็หาช่องแค่จะหาเงิน ไม่ได้คิดถึงความปลอดภัยของประชาชนจริงๆหรอก
18 ก.ย 2565 เวลา 10.23 น.
Prasit
สั่งเข้ามามากมายมหาศาลต้องถอนทุนให้ได้
ประชาชนจะตาย ไม่ต้องสนใจออกกฎหมายบังคับแล้ว
ประชาชนตกงาน ไม่มีเงินกินก็ไม่ใช่เรื่องของผม
น่าอนาถประเทศไทย
01 ก.ย 2565 เวลา 22.00 น.
Winner
ไม่ต้องบังคับหรอกครับ มันอยู่ที่ความรักลูก ถ้ารักมากเขาก็จะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเอง
01 ก.ย 2565 เวลา 00.56 น.
จันผา
อย่าลืม ต้องห้ามนั่งกะบะแบะแคปด้วยครับ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตประชาชน
28 ส.ค. 2565 เวลา 13.03 น.
อนุทิน ( pop)
อุบัติเหตุส่วนมากเกิดจากพฤติกรรมของคนที่ไม่มีวินัยและประมาท กฏหมายบางข้อไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในสังคมไทยปัจจุบัน ทำให้มีช่องโหว่ให้เกิดการรีดไถ
27 ส.ค. 2565 เวลา 02.05 น.
ดูทั้งหมด