‘ประกอบเหตุอย่างไร ผลก็เป็นอย่างนั้น’ หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น ก็คือ ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น..นั่นแหละ
คนทั่วไปเวลาเจอเรื่องเลวร้าย ทุกข์ระทม มักจะถามหาเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมเป็นแบบนั้น ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมคนอื่นไม่เป็น แต่เราเป็น คำตอบของเรื่องนี้มีเพียงอย่างเดียวก็คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเราคือผลแห่งการกระทำของเราเองทั้งนั้น
ทุกคนรู้ดีว่า ‘กรรม’ คือการกระทำ แต่บางคนเข้าใจ บางคนก็ไม่เข้าใจ พูดให้ง่ายก็คือถ้าอดีตเคยทำกรรมอะไรไว้ สิ่งเหล่านั้นล้วนส่งผลมายังปัจจุบันและอนาคตทั้งนั้น
เพราะกรรม..เป็นเรื่องที่แม่นยำและไม่มีใครหลีกหนีพ้น ทำดีไว้ก็ส่งผลดี แต่ถ้าทำชั่ว วิบากแห่งกรรมนั้นก็จะตามไปให้ได้รับผลของมัน
ดังนั้น การที่คน ๆ หนึ่งร่ำรวย อยู่ดีมีสุข ทำอะไรก็เจริญรุ่งเรือง ในขณะที่อีกคนมีเหตุเภทภัยทำให้ต้องตกทุกข์ได้ยาก ยากจนข้นแค้น เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นผลแห่งการกระทำของแต่ละบุคคลต่างหาก
“ไม่มีความบังเอิญในพุทธศาสนา” ซึ่งศาสนาพุทธอธิบายเรื่องความบังเอิญไว้ว่า เป็นความเกี่ยวเนื่องที่มาจากเหตุและผล มาจากการกระทำทั้งในอดีตอันใกล้และไกล ส่งผลมายังปัจจุบันให้ได้รับทุกข์-สุขหรืออะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในชีวิต
กรรมในปัจจุบัน เกิดจากเหตุในอดีต และกรรมในปัจจุบันนี้เอง ก็เป็นเหตุให้เกิดในอนาคต
ทุกสิ่งเกิดจากเหตุ และดับไปเพราะเหตุนั้นดับลง..ไม่มีความบังเอิญในพุทธศาสนา
ไม่ว่าจะพบเจอใคร จะรู้จักหรือไม่ก็ตาม..ไม่ใช่เหตุบังเอิญ พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า "เราเกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน น้ำตาที่เสียจากความพลัดพรากจากคนที่เรารัก นับรวมกันได้เป็นมหาสมุทร ดังนั้นเราจึงได้เคยพบปะผู้คนมามากมาย จนผู้คนที่เดินบนถนนไปมานี้ต่างก็เคยเกิดมาเป็นพี่น้องเราทั้งสิ้น"
ไม่ว่าจะเกิดอะไร ไม่มีเรื่องใดบังเอิญ..ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ทุกสิ่งล้วนเป็นเรื่องที่ต้องเกิดจากเหตุปัจจัย ทุกอย่างมาจากอดีตชาติที่เคยทำไว้ทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นทำกรรมดีในปัจจุบันให้มากเข้าไว้ โดยไม่ต้องสนใจว่าเคยทำกรรมอะไรในอดีต ของแบบนี้คิดไปก็เปล่าประโยชน์ ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ สู้ก่อกรรมดี ถึงแม้จะลบล้างกรรมชั่วที่เคยทำไว้ไม่ได้ แต่กรรมดีก็จะส่งผลให้อนาคตของเราพบเจอแต่เรื่องที่ดี
อย่างไรก็ตาม โลกนี้ยุติธรรมดีแล้ว เพราะการที่คนเราเกิดมาต่างกัน สุข-ทุกข์ต่างกัน ก็เป็นเพราะทำกรรมมาต่างกัน เรียกว่าประกอบเหตุอย่างไร ผลก็เป็นอย่างนั้นนั่นแล..
ความเห็น 27
Y0S
คำสอนของ...พระพุทธเจ้าถูกต้อง แต่การทำให้ได้สิยากมาก ลองอยู่เงียบๆแล้วถามตัวเองดูสิ...ว่าตอนมีความสุขไหม ลำบากไหม ขัดสนเงินทองมากไหม แล้วเวลาไปตามทางมองดูคนอื่นที่เค้าไม่มีเท่าเราดูสิ แล้วจะได้รู้ว่าเราลำบากจิงหรือ
12 มี.ค. 2562 เวลา 16.02 น.
ญาณนี แก้ว อินสุริยา
อดีตส่งผลมาเป็นปัจจุบันที่แก้ไขไม่ได้.แต่ปัจจุบันถึงจะมีความทุกข์มากสักแค่ไหน.ขอให้คุณพึ่งมีความคิดบวกกับทุกข์ที่ได้รับและใช่สติคิดเหตุและผลพร้อมด้วยใจที่เปิดรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมาต่อจากนี้.และยิ้มกับสิ่งต่างๆมีธรรมของพ่อเป็นแนวทางปัญหาทุกๆอย่างจะต้องผ่านไปได้แน่นอน.เริ่มต้นจากความคิดและรอยยิ้มคนที่คุณรัก
12 มี.ค. 2562 เวลา 22.39 น.
การทำความดีก็ย่อมที่จะได้รับผลดีจากการที่ได้ทำเอาไว้ แต่หากทำชั่วก็คงย่อมที่จะต้องได้รับผลกรรมกับในสิ่งที่ได้กระทำเอาไว้เช่นกันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว.
12 มี.ค. 2562 เวลา 12.18 น.
W.Direk_666 🐮789🐉♍♑🇹
หว่านพืชเช่นใดๆไว้ก็ได้อย่างนั้น.. แต่กรรมเราทำอย่าวไรไว้มักได้ผลที่ตรงข้ามกันแล้วแต่จะมาในรูปแบบใดเท่านั้น ปัจจุบันเราทำตัวอย่างไรเราก็้ป็นอย่างนั้น ทำดีไว้เถอะจะมากจะน้อยก็ทำไปเถอะ
13 มี.ค. 2562 เวลา 00.01 น.
โกมล กัลณา
ศาสนาพุทธคู่กับเมืองไทยตลอดมา วันนี้คงนำหน้าการเมือง เพื่อ........
13 มี.ค. 2562 เวลา 00.05 น.
ดูทั้งหมด