วันนี้ (9 มี.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำคณะพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงความคืบหน้าคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 30 ล้านบาท เป็นรอบที่ 2
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า หลักการของพนักงานสอบสวนจะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง พยานหลักฐานจะต้องนิ่ง โดยทางกองปราบได้สรุปสำนวนคดีและออกหมายจับนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ ส่วนการดำเนินการกับตำรวจจะให้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้ตอบคำถามของสื่อมวลชน
"ผมบอกแต่แรกแล้ว ถ้าเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการลงโทษ ไม่มีมวยล้มต้มคนดู" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ระบุ
พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวว่า การสอบสวนคดีนี้ ร.ต.ท.จรูญ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี (ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี)ว่า มีการสอบสวนด้วยมิชอบด้วยกฎหมาย ส่วนพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องอีก 2 นาย มีความเห็นว่าควรมีพยานที่ยืนยันการกระทำผิดจึงตำรวจทั้ง 2 นายเป็นพยาน คือ พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี และ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี โดยยึดกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นหลัก และจะดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุทธิ เพียงคนเดียว
พล.ต.ท.ฐิติราช ระบุว่า ขณะนี้ พล.ต.ต.สุทธิ ได้สติแล้วหลังจากมีคำสั่งให้ย้ายออกมาออกมาจากสิ่งแวดล้อมเดิม ส่วนเรื่องการเจรจาต่อรองกับ ร.ต.ท.จรูญ อีกฝ่ายหนึ่งได้ให้ข้อเสนอและจูงใจให้ช่วยเหลือทางคดีแต่เจ้าตัวไม่ได้รับข้อเสนอนั้น เป็นเรื่องของความเชื่อว่าอีกฝ่ายถูกต้อง โดยไม่ได้ใช้หลักทางวิทยาศาสตร์
"ผู้การเชื่อว่านายปรีชาถูก และ ร.ต.ท.จรูญ ผิด จึงมีการเจรจาพูดคุยไม่ใช่เจตนาทุจริต การพูดคุยเพื่อหาทางออก โดยเป็นความเชื่อในพื้นที่นั้นๆ จริงๆ เหมือนถูกสะกดจิตหมู่"
พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ให้การน่าสงสัยเพราะจำอะไรไม่ได้เลย ร.ต.ท.จรูญ ตัดโอกาสตัวเองในการไม่ชี้แจง แต่ด้านครูปรีชา พูดน่าเชื่อถือเพราะมีพยานหลายปากทางตำรวจสอบสวนกลางจึงใช้วิธีสืบสวนพบว่า พยานทั้งหมดเป็นเท็จ เมื่ออีกฝ่ายเป็นเท็จอีกฝ่ายก็ถูก และทั้ง 3 คนที่เกี่ยวข้องในที่เกิดเหตุ มีคำตอบให้สังคมแล้วเพราะศาลออกหมายจับ 2 คน และครูปรีชามีคำให้การที่เกิดจากความจำที่อาจคลาดเคลื่อน แต่การสืบสวนโดยมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่าเป็นเท็จทั้งหมด เหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ 3 คน ซึ่งคดีไม่มีความซับซ้อนเลย
พล.ต.ต.กมล กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.ต.ต.สุทธิ มีความผิดตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุชนแสวง ผบก.วน.ระบุว่า เรื่องวินัยต้องให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดเป็นผู้พิจารณา ส่วนการให้ออกราชการไว้ก่อนตามหลักการต้องดูว่า ผู้ถูกกล่าวหาอยู่แล้วทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการหรือไม่ หรือเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนหรือไม่ ซึ่งเป็นดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา
ความเห็น 209
FS1.วีรพัฒน์ ว.
BEST
เป็นถึงนายพลตำรวจ แต่ขาดสติ ถูกสะกดจิตแบบนี้ ควรจะพิจารณาตัวเอง แล้วลาออกไปทำอาชีพอื่นเถอะคับ
09 มี.ค. 2561 เวลา 10.10 น.
MSE เชิดชัยทรานสปอร์ต
BEST
ตำรวจเลวๆยังเอาไว้อีกหรือ ประเทศไทย
เปลือง ภาษี ประชาชน
09 มี.ค. 2561 เวลา 10.07 น.
BEST
ปกป้อง..
09 มี.ค. 2561 เวลา 10.08 น.
ปกป้องกันสุดๆๆ
เหตุนี้ไงตร.เลวๆเลยไม่ค่อยกลัวทำผิดนายก็ปกป้อง
09 มี.ค. 2561 เวลา 10.12 น.
Narin
ทำไมเป็นแบบนี้
09 มี.ค. 2561 เวลา 10.13 น.
ดูทั้งหมด