เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว @Opass Putcharoen เกี่ยวกับเรื่องเล่าที่เจอจากวอร์ดผู้ป่วยโควิด-19 โดยระบุข้อความว่า เรื่องเล่าจากวอร์ดโควิด เคสหนักที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ห้องไอซียูก็ต้องขยายจากที่เตรียมไว้ 4 เตียง ตอนนี้ต้องเตรียมเพิ่มขึ้นเพื่อรับผู้ป่วยได้ถึงเกือบ 20 คน
เรากำลังเปลี่ยนตึกทั้งตึกเป็นไอซียูสำหรับเคส COVID ที่อาการหนัก นอกเหนือไปจากจากวอร์ดปกติ 4 วาร์ดที่มีคนไข้โควิดแน่นอยู่แล้ว เมื่อวันก่อนมีเคสนึงใส่ท่อช่วยหายใจเพราะปอดอักเสบรุนแรง ตอนเช้าไปราวน์กับเรสสิเดนท์ รู้ว่าคนไข้เป็นคนขับแท็กซี่ผู้หญิงอายุสี่สิบปี น่าจะติดจากการสัมผัสนักท่องเที่ยว ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเราไม่ค่อยเห็นผู้หญิงมาขับรถรับจ้าง เลยให้เรสสิเดนท์รีบโทรไปถามครอบครัวว่ามีปัญหาอะไรบ้างมั้ย ได้ความว่าตั้งแต่คนไข้มาอยู่โรงพยาบาลก็หยุดงาน รายได้ทั้งหมดหายไป
สามีขับรถรับจ้างได้เงินรายวัน ตอนนี้ต้องหยุดงานตั้งแต่มีการระบาด มีลูกเล็กๆสองคน ห้าขวบกับสองขวบ พอภรรยาติดโควิดก็ถูกไม่ให้อยู่ที่ห้องเช่าเพราะคนกลัวว่าติดโควิดมาจากภรรยา ต้องระเห็ดออกมาอยู่บ้านที่เถ้าแก่ที่กำลังสร้างไม่เสร็จ ใช้เงินเก็บที่มีอยู่สามพันบาท ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ พอรู้เรื่องเสร็จทุกคนช่วยกันทันที ตามแก็งค์พ่อลูกมา swab และให้นอนที่โรงพยาบาลรวมกันไปก่อน โชคดีที่ผลตรวจไม่เจอเชื้อโรคโควิดทั้งสามคน
สิ่งที่ต้องรีบทำก็เพื่อออกใบยืนยันแล้วทางครอบครัวจะได้ไม่ถูกตีตราจากคนอื่น (จริงๆถ้าสังคมเข้าใจเราไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดตามครอบครัวของคนไข้มา swab เพราะถ้าเขากักตัว 14 วันไม่ออกไปไหนก็จะไม่ไปแพร่กระจายเชื้อให้ใคร) ช่วยลงทะเบียนช่วยเหลือ ระดมทุนมาช่วยในช่วงสามเดือนถัดจากนี้ ส่วนภรรยาตอนนี้นอนอยู่ไอซียูทางทีมช่วยกันดูแลอย่างเต็มที่
เคสนี้เคสเดียวสะท้อนหลายๆมุมที่เราก็ยังต้องแก้ไขหรือมองข้าม สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือความเข้าใจเรื่องการติดต่อโรค การตีตราคนไข้และญาติของคนไข้ ยังมีเรื่องปัญหาสุขภาพที่มันผูกติดกับเศรษฐกิจและสังคม สิ่งที่ต้องการในตอนนี้คือทำให้การระบาดอยู่สั้นที่สุด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อเนื่องและวงกว้าง ช่วยกันทำ social distancing ให้มากที่สุด เมื่อโรคหยุดระบาดทุกสิ่งทุกอย่างจะค่อยๆฟื้นกลับมาใหม่ สร้างความเห็นอกเห็นใจกันในสังคมทั้งให้กับคนไข้และบุคคลากรที่กำลังช่วยดูแลคนไข้
“ผมว่ากำลังใจมาที่บุคคลากรทางการแพทย์มีมากมายพอแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือช่วยกันเข้าใจโรคและเห็นใจคนไข้ด้วยครับ”
ความเห็น 33
Rosemary
BEST
ในความโหดร้ายของโรคย่อมมีสิ่งสวยงามเสมอ..ขอบพระคุณคนหมอและทีมงานที่ทำให้มีเรื่องราวดีๆในยามที่ประเทศเจอมรสุมใหญ่..ขอให้คุณหมอและทีมงานบุคลากรทั้งประเทศมีสุขภาพแข็งแรง..และเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังป่วยนะคะ..
31 มี.ค. 2563 เวลา 10.46 น.
สมเกียรติ
BEST
อ่านแล้วตื้นตันใจ ขนลุกครับ คุณหมอคนดี นี่สิผู้มีพระคุณ ขอบคุณครับ
31 มี.ค. 2563 เวลา 10.42 น.
ต้น
BEST
เห็นด้วยครับคุณหมอ ขอบคุณน้ำใจที่มีให้กับคนไข้ครับ สงสารครอบครัวนี้เลยครับ
31 มี.ค. 2563 เวลา 10.39 น.
โบกี้
ขอบคุณมากๆๆคุณหมอทุกๆๆท่าน
31 มี.ค. 2563 เวลา 10.45 น.
ษมานิษฐ์
สู้ๆนะคะเราจะผ่านไปด้วยกันขอเป็นอีก1กำลังใจค่ะ
31 มี.ค. 2563 เวลา 10.44 น.
ดูทั้งหมด