การทะเลาะวิวาท หรือแสดงความคิดเห็นแล้วมีการด่าทอด้วยคำหยาบคายถือว่าเป็นเรื่องปกติของคนในสังคมไทย นอกจากพูดกันลอยๆ แล้ว ก็ยังมีการพิมพ์ด่าประจานกันในโลกโซเชียลด้วย ซึ่งคำที่เราพูด หรือพิมพ์เขียนไว้นั้น ล้วนรุนแรงกระแทกใจคนฟัง คนอ่าน แต่เราก็ยังเฉยเพราะคิดว่าไม่เป็นไร ทั้งที่จริงการด่าทอด้วยคำหยาบโดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่สามารถแคปภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานได้ มีความผิดฐานดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า และในวันนี้สำนักงานกิจการยุติธรรม จะพาทุกๆ คนไปศึกษาโทษตามประมวลกฎหมายอาญาความผิดฐานดูหมิ่น รวมถึงคำหยาบคายที่เสี่ยงโดนฟ้อง เพื่อให้เกิดความเข้าใจและระมัดระวังในคำพูดมากขึ้น
โทษทางอาญาความผิดฐานดูหมิ่น (ยอมความไม่ได้)
การดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า หมายถึง การดูถูกเหยียดหยาม สบประมาท หรือทำให้อับอาย ซึ่งการด่าหรือเหยียดหยาม “ต่อหน้า” หรือ “ด้วยการโฆษณา” ต้องรับผิดทางอาญาความผิดฐานดูหมิ่น ซึ่งความผิดฐานดูหมิ่นมีด้วยกัน 4 กรณี ได้แก่
1. ดูหมิ่นเจ้าพนักงานที่กระทำตามหน้าที่ (ม.136) : จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษา ในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี (ม.198) : จำคุกตั้งแต่ 1 – 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. ดูหมิ่นผู้อื่น “ต่อหน้า” หรือ “ด้วยการโฆษณา” (ม.393) : จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่ง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. กระทำการใดๆ ที่ดูหมิ่นเหยียดหยามศพ : จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดูหมิ่นซึ่งหน้า คำด่าเสี่ยงโดนฟ้อง
คำด่าหยาบคายเพื่อให้ “สะใจคนด่า เจ็บใจคนฟัง” เป็นการทำร้ายกันด้วยคำพูด แบบนี้เรียกว่า “ดูหมิ่นซึ่งหน้า”
- “อีดอก” : เป็นคำหยาบคายที่สามัญชนฟังแล้วเข้าใจได้ชัดเจนว่าผู้ถูกด่าเป็นผู้หญิงไม่ดี (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2521)
- “อีเหี้ย”, “อีสัตว์”, “อีควาย” : เป็นคำหยาบและเปรียบเทียบผู้ถูกด่า เป็นสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สี่เท้า (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5257/2548)
- “อีตอแหล” : เป็นคำพูดเหยียดหยาม และสบประมาทผู้ถูกด่าว่าเป็นคนพูดเท็จ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8919/2552)
- “เฮงซวย” : เป็นการดูถูกเหยียดหยามและสบประมาทว่าเป็นคนเอาแน่นอนไม่ได้ คุณภาพต่ำ ไม่ดี (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2551)
- “ผู้หญิงต่ำๆ” :เป็นคำพูดที่เหยียดหยามว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี มีศักดิ์ศรีต่ำกว่าผู้หญิงทั่วไป (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2256/2537)
- “มารศาสนา”: เป็นคำดูถูกเหยียดหยาม และสบประมาทว่าเป็นคนใจบาปหยาบช้า คอยกีดกันไม่ให้ผู้อื่นทำบุญ และสาธารณชนรังเกียจที่จะคบหาสมาคมด้วย (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3226/2525)
- “ไอ้หน้าโง่” : เป็นถ้อยคำแสดงอยู่ในตัวให้เข้าใจได้ชัดเจนถึงการเหยียดหยาม (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7572/2542)
- “พระหน้าเปรต พระหน้าผี” :พูดต่อหน้าพระภิกษุที่เป็นบุคคลที่ประชาชนทั่วไปเคารพนับถือ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10/2527)
- “ไอ้ระยำ” :เป็นคำดูถูกเหยียดหยามและสบประมาท (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2538)
- “อีร้อย…” ตามด้วยคำลามก : เป็นคำด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2495)
การด่าคนอื่นข้างเดียวคนด่าจะผิดคนเดียว ถ้าต่างฝ่ายต่างด่ากันก็จะมีความผิดกันทั้งคู่ ซึ่งหากนำคำเหล่านี้ไปพูดใส่หน้าใครเข้า คนพูดจะมีความผิดฐานดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าทันที อย่าให้อารมณ์มากำหนดคำพูดเป็นการดูถูกและดูหมิ่นผู้อื่นเลย
ข้อมูล : สำนักงานกิจการยุติธรรม
ความเห็น 24
MotE MeLRos€ ♨
ที ฆ่า คน ปล้นจี้
ข่มขื่น โทษ แม่ง โครตจะเบา
19 ก.พ. 2563 เวลา 10.13 น.
ว่างก็ฟ้องไปนะ
19 ก.พ. 2563 เวลา 10.09 น.
อุ้ม แจ้งวัฒนะ
อีดอก ไม่ใช่คำหยาบ สาวสอง ใช้แทนคำว่าสวัสดี หรือ แสดงความสนิทสนม ครับ 5555
19 ก.พ. 2563 เวลา 10.30 น.
...
คยว ปญอ
19 ก.พ. 2563 เวลา 10.29 น.
Siridana Khongkhakhe
ดีจ้าฟ้องเลย
19 ก.พ. 2563 เวลา 10.06 น.
ดูทั้งหมด