"NCP" เคาะราคา IPO หุ้นละ 2 บาท P/E 28.14 เท่า เปิดจอง 19-24 ก.ค.67 คาดเทรด mai ภายในเดือนกรกฎาคม 2567 หวังเสริมแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถการเติบโตแบบก้าวกระโดด
วันที่ 18 กรกฎาคม 2567 *NCP กำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.00 บาท เปิดจองซื้อ 19 และ 23-24 กรกฏาคม 2567 คาดเทรด mai ภายในเดือนกรกฎาคม 2567 เดินหน้าระดมทุนเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถการเติบโตแบบก้าวกระโดด*
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ไนซ์ คอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCP เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม (Joint Lead Underwriters) จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน)
พร้อมแต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 3 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท
โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ “NCP” คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการภายในเดือนกรกฎาคม 2567
ด้าน นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม กล่าวว่า NCP ได้กำหนดราคาขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 27.78 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้
โดยกำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่ 2.00 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าเสนอขาย 100 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ หรือ Price to Earnings Ratio : P/E เท่ากับ 28.14 เท่า นับเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สอดคล้องกับสภาวะของตลาดในปัจจุบันและอัตราการเติบโตของบริษัทในอนาคต ถือว่ามีความเหมาะสมสำหรับนักลงทุน
โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นในวันที่ 19 และ 23-24 กรกฎาคม 2567 และมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ขณะที่นายศรัณย์ เวชสุภาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไนซ์ คอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCP เปิดเผยว่า เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหลักทรัพย์จะนำไปใช้เพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เช่น
การก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ จำนวน 30 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1 ปี 2568, ก่อสร้างสถานที่ทำงานในเรือนจำ จำนวน 10 ล้านบาท ภายในปี 2569, พัฒนาระบบเทคโนโลยีซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจใหม่และพัฒนาระบบเครือข่ายเพื่อรองรับการเพิ่มจำนวนพนักงาน จำนวน 5 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2568
และเป็นเงินทุนหมุนเวียน นับเป็นการเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถ ที่จะช่วยเสริมสร้างการเติบโตของ NCP ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม ได้ทำสัญญากับบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก เพิ่มเติม เพื่อขอล็อคหุ้นในสัดส่วนที่เหลือจากการติด Silent period เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยงดการเสนอขาย หรือโอนด้วยวิธีการใดๆ นับแต่วันที่หุ้นเริ่มซื้อขาย (Lock-Up) เพื่อแสดงความจริงใจและสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดแก่นักลงทุน
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) นับเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดย NCP พร้อมมุ่งมั่นขยายธุรกิจทางด้าน Telesales เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์และการบริการของบริษัท แบบ One Stop Service ที่ครอบคลุมทุกความต้องการให้กับพันธมิตรธุรกิจในทุกมิติ” นายศรัณย์ กล่าว
ทั้งนี้ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2564 – 2566) บริษัทมีรายได้รวม 191.23 ล้านบาท 181.03 ล้านบาท 173.11 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 25.56 ล้านบาท 20.22 ล้านบาท และ 12.53 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ผลประกอบการงวด 3 เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 45.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2.75 ล้านบาท ตามลำดับ
ความเห็น 0