สื่อจีนตีข่าว ครม.ใหม่ไทยกับโจทย์ใหญ่'เศรษฐกิจท่องเที่ยว'ยุคโควิด

‘เสี่ยงโรคหรืออดตาย’ สื่อจีนตีข่าว ครม.ใหม่ไทยกับโจทย์ใหญ่‘เศรษฐกิจท่องเที่ยว’ยุคโควิด

8 ส.ค. 2563 สำนักข่าวซินหัวของจีน เสนอข่าว Thailand's new cabinet economics team to face challenge in rebooting economy amid pandemic: research unit อ้างความเห็นของ เชาว์ เก่งชน (Charl Kengchon) ประธานกรรมการบริหารศูนย์วิจัยกสิกรไทย (Kasikorn Research Centre) เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ของไทยมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ นั่นคือการแก้ฟื้นฟูเศรษฐกิจท่ามกลางสถานการณ์ที่ทั่วโลกยังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ทรัพยากรทางการเงินลดลงและอัตราการว่างงานสูงขึ้น

โดยความท้าทายที่เกิดขึ้นทันทีคือการสนับสนุนภาคธุรกิจและแรงงาน เนื่องจากมาตรการบรรเทาทุกข์และการแจกเงินสดได้สิ้นสุดลงแล้ว และแม้จะมีสัญญาณของการฟื้นตัวที่ดีขึ้น แต่ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย ก็พบว่ามีเพียงบางภาคส่วนเท่านั้นที่กลับมาดำเนินกิจการได้ โดยเฉพาะการที่ยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุด แต่การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติก็เป็นความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะกลับมาเผชิญสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง

ขณะเดียวกัน หลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ยังเผชิญสถานการณ์โรคระบาด ทำให้ภาคการส่งออกของไทยฟื้นตัวได้ช้าลง เชาว์ ยังกล่าวด้วยว่า ยังมีปัจจัยอื่นอย่างธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจใช้นโยบายปรับลดดอกเบี้ยลงหรืออัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มขึ้น นั่นจะทำให้เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลงแต่เงินบาทจะแข็งค่าขึ้น กลายเป็นอุปสรรคของกิจการด้านส่งออกของไทยที่จ่ายเป็นเงินเหรียญสหรัฐแล้วมาแลกเป็นเงินบาท และการที่ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลกมีขนาดใหญ่มาก ธนาคารกลางอาจไม่สามารถป้องกันเงินบาทแข็งค่าขึ้นได้
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าหากเศรษฐกิจไทยไม่ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาจมีแรงงานภาคบริการ 4.5 ล้านคน และภาคการผลิต 1 ล้านคนต้องตกงาน

ที่มา xinhuanet