บอลลีกพระรองของเมืองไทย คุณภาพในการต่อสู้ปี 2019 ขับเคี่ยวสู้กันอย่างดุเดือดไม่แพ้ไทยลีก
แม้ตำแหน่งจ่าฝูงจะเป็นของบีจี ปทุม ที่แต้มนำทีมอื่นขาดลอยไปแล้ว แต่กลุ่มผู้ตามที่ช่วงชิงโควต้าเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดของแดนสยามท ทั้งโปลิศ เทโร, ระยอง เอฟซี, อุดรธานี เอฟซี, อาร์มี่ ยูไนเต็ด, ไทยฮอนด้า, ลำปาง และ ศรีสะเกษ ยังมีหวังอยู่
ปี 2019 คุณภาพผู้เล่นหลายสโมสรไม่ห่างกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือแท็คติกการเล่น จังหวะจบสกอร์ ซึ่งอันดับในตารางมันตอบทุกอย่างได้เป็นอย่างดี หลายๆทีมไม่มีทุนซื้อผู้เล่นก็ต้องเสาะแสว่งหาพวกโนเนมมาใช้งาน
ซึ่งตลอดระยะเวลา6 เดือน เราได้เห็นผู้เล่นฝีเท้าดีจากลีกพระรองของเมืองไทยมากมาย แต่เราขอคัด 5 คน ที่มีแววดีฝีเท้าใช้ได้ และเหมาะสมกับการไต่ระดับตัวเองเพื่อไปเล่นในไทยลีกในอนาคตเสียทีไม่ชักช้าเสียเวลาคลิกเมาท์ไปเลื่อนอ่านกันเลยพี่น้อง
1.นันทวัฒน์ สวนแก้ว
ไอ้หนุ่มจากกระบี่ ผู้ที่สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า รวมถึงถ่างออกไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ริมเส้นได้ แม้จะรูปร่างสูงใหญ่ แต่ครอบครองบอลได้เชิงเท้าซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเล่นฟุตซอล สมัยที่เป็นนักเรียนโรงเรียนราชวินิตบางเขน เขาคือสมบัติอันล้ำค่าของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด แต่ด้วยโอกาสอันน้อยนิด "เจ้าป้อม" ต้องย้ายไปเล่นในรูปแบบยืมตัวกับขอนแก่น เอฟซี
อันที่จริงช่วงเลกแรกไทยลีก 2 ปี 2019 เขาได้โอกาสไปเล่นให้อุบล ยูไนเต็ดในสัญญายืมตัว ด้วยคุณภาพทีมที่ไม่ใหญ่มากและผู้เล่นในทีมเป็นประเภทดาวรุ่งผสมผสานกับตัวเก๋าที่ชื่อไม่ดัง ทำให้ "ป้อม" กลายเป็นคีย์แมนหลักในแดนหน้า 5 ประตู และ 1 แอสซิสต์ มันเพียงพอจะทำให้ระยอง เอฟซี เพื่อนร่วมลีกพระรอง ตัดสินที่จะขอดึงตัวเด็กหนุ่มวัย 20 ปี ไปร่วมทีมต่อทันที ด้วยอายุอานามที่น้อยนิดและสามารถตพัฒนาต่อยอดในชั้นเชิงลูกหนังอีกไกล ผู้เขียนเชื่อว่ามันถึงเวลาที่ "ป้อม" ต้องสัมผัสเวทีไทยลีกเสียที
2.วัชรินทร์ เนื่องพระแก้ว
เซ็นเตอร์แบ็คร่างยักษ์เจ้าของความสูง 188 เซนติเมตร จากนครราชสีมา คือแข้งโนเนมไร้ดีกรีบอลนักเรียนของจริง แต่ด้วยหน่วยก้านที่ดี "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดหญ้าไทย กุนซือไทยฮอนด้า จึงจับมาเซ็นสัญญาและขัดเกลาฝีเท้า 1 ปีจากแข้งไร้ประสบการณ์ลูกหนังอาชีพ เขาปักหลักเล่นบอลดิวิชั่น 1 ในปี 2016 ได้แบบไร้ปัญหา และมีโอกาสเล่นไทยลีก แต่ด้วยความที่ผลงานลุ่มๆดอนๆ ทีมจึงปลดโค้ชโต่ยออก และเขาคือแกนหลัก ที่ตัดสินใจขอแยกทางกับทีมหลังไร้เงากุนซือคู่บุญ จนได้ย้ายไปเล่นให้สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
แต่ด้วยชื่อเสียงและประสบการณ์ที่มีไม่เยอะ เขาจึงเป็นแค่ตัวสำรอง และต้องถูกปล่อยไปให้เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด,ศรีสะเกษ เอฟซี และเชียงใหม่ เอฟซี ยืมตัว จนกระทั่งมาลงเอยกับระยอง เอฟซี ในช่วงเลก 2 ไทยลีก 2 ซีซั่น ซึ่งทีมภายใต้การคุมทีมโดยชูศักดิ์ ศรีภูมิ จับ"โตโต้" ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องบัญชาเกมรับทีมม้านิลมังกร 6เกมนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม แถมยังชนะ 5 เกมรวดในลีก จนอันดับขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3 ในลีกหมายเลข 2 ของเมืองไทย
3.นิรุธ จำเริญศรี
ชื่อของสมชาย ชวยบุญชุม จัดได้ว่าเป็นบุคคลที่ช่ำชองในการปั้นนักบอลโนเนมที่ไร้ทีมเห็นค่าให้กลายมาเป็นสตาร์ดังในชั่วข้ามคืนมาแล้ว หลายต่อหลายคน การอพยพมาทำกูปรีอันตรายที่ผลเล่นส่วนใหญ่คุ้นเคยกับ"น้าฉ่วย" ผสมผสานกับผู้เล่นที่โดนสบประมาทว่าฝีเท้าชั้นไม่ถึง ซึ่ง 1 ในนั้นมีชื่อของ "เบียร์" นิรุธ จำเริญศรี ปีกขวาหมายเลข 16 รวมอยู่ด้วย
หมอนี่ผ่านการลงเล่นลีกรากหญ้าของเมืองไทยมาอย่างโชกชวน ทั้งนอร์ทกรุงเทพ,ม.ราชพฤกษ์, สีหมอก เอฟซี,บีซีซี, เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด จนฝีเท้าเข้าตา"น้าฉ่วย" จนถูกดึงตัวมาร่วมทีม เขาไม่เคยสัมผัสเวทีลูกหนังไทยลีก และลีกพระรอง แต่สปีดต้นที่เร็ว โดนจับไปเล่นบริเวณปีกขวา และปักหลักเป็น 11 คนแรกของศรีสะเกษถึง 20 เกม แม้จำนวนประตูที่ทำได้มีแค่ลูกเดียว แต่นี่คือคนที่ทีมขาดไม่ได้ในการทำเกมรุก
4.เทพพิทักษ์ พูลจวง
"เมสซี่เมืองระยอง" ฉายาที่แฟนบอลท้องถิ่นตั้งให้ "เอิร์ธ" เด็กหนุ่มวัย 20 ปี เขาคือแข้งโคตรโนเนมที่เป็นไปด้วยความคลั่งไคล้การเล่นฟุตบอล และความชอบมันทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นทีมบ้านเกิดมาเป็นเวลา 5 ฤดูกาลติดต่อกัน นับตั้งแต่บอลลีกภูมิภาคเมื่อปี 2015
บทบาทมิดฟิลด์ตัวรุกหมอนี่ครบเครื่องการเล่น บอลสั้นบอลยาว การยิงไกล อาจขาดในเรื่องการยิงฟรีคิก แต่ถึงกระนั้นการได้ทำงานกับกุนซือคู่บุญ อย่างชูศักดิ์ ศรีภูมิ ที่มอบโอกาสให้เล่นบอลอาชีพครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน ทำให้"เอิร์ธ" ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจและมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเก่า 14 เกมในลีกพระรอง พร้อมกับ 4 ประตู และ 2แอสซิสต์ เรียกได้ว่าผลงานดีขึ้นกว่า 2-3 ฤดูกาลเลยด้วยซ้ำ และนี่เป็นโอกาสอันดีที่ต้นสังกัดระยอง เอฟซี จะได้มีความหวังในการลุ้นทำอันดับเลื่อนชั้น ในอีก 11 เกมที่เหลือต่อจากนี้
5.อภิโชติ เวกอรุณ
มิดฟิลด์ตัวรุกจากจังหวัดยโสธร ที่มาจากโรงเรียนสวนป่าเขาชะอางค์ และมาแจ้งเกิดจากเกมดิวิชั่น 1 เมื่อปี 2016 "จ๊วบ" ลงมาเป็นสำรองในเกมที่บางกอก เอฟซี ชนะพีทีที ระยอง 3-1 โดยที่ยิง 1 ประตูและจ่าย 1 แอสซิสต์ หลังจากนั้นชีวิตเขาเปลี่ยนไปทันที ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในไทยลีก แต่เป็นอุบล ยูไนเต็ด ที่เซ็นสัญญาไปร่วมทีม ทว่าโอกาสในทีมชุดใหญ่หมอนี่ได้รับโคตรน้อยนิด สุดท้ายได้แค่ซ้อมไปวันๆ กระทั่งสงขลา ยูไนเต็ด ขอยืมตัวไปเล่นในปี 2017 แน่นอนว่าเขาได้เล่นสม่ำเสมอ แต่ฝีเท้าและความมั่นใจเก่าๆมันหายไปไม่เหมือนเดิมอีกเลย
อย่างไรก็ดีในสภาพที่อุบล ยูไนเต็ด ตกชั้นจากไทยลีก แถมไร้เงินทองในการเฟ้นหาผู้เล่น อภิโชติ กลับได้โอกาสลงเล่นลีกพระรองเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง คุณภาพผู้เล่นไทยของอุบล แม้จะธรรมดา แต่เขาได้ลงเล่นไปถึง 22 เกม และพัง 1 ประตูในการเล่นในปีนี้ เรียกได้ว่าผลงานทีมจะออกไปในทางดิ้นรนหนีการตกชั้น แต่อดีตเจ้าของฉายาเงาชนาธิป ยังได้สัมผัสสนามอย่างต่อเนื่องและมีเวลาที่จะพัฒนาฝีเท้าไปได้ไกลกว่าเดิมแน่ๆ
เอ็มเร่
Xwongthong@gmail.com
ความเห็น 0