โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

นักวิชาการชี้ "โควิด-19" เผยธาตุแท้สังคมไทย เสพติดอำนาจนิยม เตือนไม่ระวังอาจป่วยไม่หาย

มติชนสุดสัปดาห์

อัพเดต 10 เม.ย. 2563 เวลา 04.13 น. • เผยแพร่ 10 เม.ย. 2563 เวลา 04.13 น.
รัฐไทย โควิด-19

วันที่ 10 เมษายน 2563 รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ นักวิชาการด้านมานุษยวิทยา ได้แสดงความคิดเห็นต่อแนวคิดของอำนาจรัฐไทยในการบริหารจัดการวิกฤตโรคระบาดอย่างโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทั้งการใช้อำนาจตาม พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและการตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า

นักทฤษฎีด้านอำนาจคนหนึ่งเสนอว่าสถาบันเบ็ดเสร็จจำพวก คุก โรงพยาบาลบ้า และค่ายทหาร ต่างมีวิถีอำนาจหลักเหมือนกันคือวินัย ภายใต้สถาบันเหล่านี้ ผู้คุม จิตแพทย์ และนายทหาร จะใช้อำนาจในการปรับเปลี่ยนนักโทษ คนบ้า และพลทหารให้มีความเชื่องเชื่อและใช้ประโยชน์ได้ โดยอาศัยแหล่งอ้างอิงการใช้อำนาจต่างกันออกไป เช่น จิตแพทย์อาศัยอำนาจจากวิชาจิตเวชศาสตร์ในการบำบัดรักษาคนบ้า ขณะที่นายทหารอาศัยอำนาจจากสายบังคับบัญชาในการฝึกฝนพลทหาร พวกเขาจึงคุ้นเคยกับการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จภายในสถาบันของตนเหมือนกัน

สังคมไทยพิเศษตรงที่สนับสนุนให้บุคคลเหล่าใช้อำนาจเบ็ดเสร็จด้านนอกสถาบันเพราะเป็นสังคมที่นิยมอำนาจ นอกจากจะเป็นอาชีพที่ได้รับการยกย่องและยำเกรงในสภาวะปกติ เมื่อเกิดวิกฤติการณ์ขึ้นมาพวกเขามักจะถูกเรียกร้องให้เข้ามาแก้ไขโดยใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือ เราจึงเห็นการใช้คำเรียกพวกเขาสลับหรือแทนที่กันได้ในการระบาดของไวรัสครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกบุคลากรทางการแพทย์ว่า “นักรบชุดขาว” “อัศวินเสื้อกาวน์” การเรียกการรักษาพยาบาลว่า “สู้ศึก” หรือการเรียกอุปกรณ์ทางการแพทย์ว่า “อาวุธ” การเปรียบเปรยเหล่านี้แม้จะต้องการสร้างความฮึกเหิม ยกย่อง และให้กำลังใจ แต่ก็สะท้อนให้เห็นลักษณะอำนาจนิยมของสังคมไทยที่ต้องการให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จในการคลี่คลายปัญหาเหมือนกับทหาร

ในทำนองเดียวกัน การที่โฆษก ศบค. มักเปรียบเปรยสถานการณ์การระบาดของไวรัสกับศึกสงคราม อย่างการเรียกผู้ว่าราชการจังหวัดว่า “พ่อเมือง” เรียกการระบาดว่า “ตีค่าย” และเรียกการตรวจพบผู้ติดเชื้อในแต่ละจังหวัดว่า “ป้อมแตก” จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของสร้างสีสันและความเป็นกันเองในการแถลงข่าว หากแต่เป็นการเลือกใช้คำศัพท์หรือสำนวนที่เข้าถึงหรือโดนใจคนในสังคมที่ต้องการเห็นการใช้อำนาจเด็ดขาดในยามวิกฤติ ขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นว่าเพราะความที่เป็นจิตแพทย์ เขาจึงคุ้นเคยและเห็นความคล้ายคลึงของการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จภายในโรงพยาบาลบ้าและค่ายทหาร และไม่ค้านหากสังคมหรือสื่อจะใช้ศัพท์แสงทางการศึกสงครามมาเรียกปฏิบัติการทางการแพทย์แทน ไม่นับรวมความใกล้ชิดรัฐบาลด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ทำให้ระยะหลังเขาแสดงบทบาทเป็นโฆษกส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีรวมถึงรัฐบาลมากเข้าไปทุกที

ทั้งนี้ รศ.ดร.อนุสรณ์มองว่า ว่ากันว่าวิกฤติเผยให้เห็นธาตุแท้ของสังคม การระบาดของไวรัสครั้งนี้ก็เผยให้เห็นธาตุแท้ของสังคมไทยอีกครั้งโดยเฉพาะในด้านอำนาจนิยม แต่ที่ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาก็คือว่ามันได้ดึงเอาอำนาจเบ็ดเสร็จของแพทย์ที่ปกติจะจำกัดอยู่ในสถาบันให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับอำนาจเบ็ดเสร็จของทหารในบริบทของ “การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน” ซึ่งหากเราไม่ตระหนักหรือว่าไม่ระมัดระวังพอ เราก็จะกลายเป็น “ผู้ป่วย” ที่ไม่มีวันหายและตกอยู่ภายใต้การบงการของอำนาจเบ็ดเสร็จเหล่านี้ไม่มีที่สิ้นสุด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 73

  • Niwatc
    ผู้นำของประเทศทางฝั่งตะวันตกประชาธิปไตยจ๋าที่ดร.ไปร่ำเรียนจนเขาให้ดีกรีมา เขาพูดกับคนของเขาประมาณว่า พวกเรากำลังทำสงครามกับ... บางคนพูดว่า โรคระบาดครั้งลงนี้ร้ายแรงยิ่งกว่าสงครามโลกที่ผ่านมา..ทั้งนี้ก็เพื่ิอให้คนของเขาตระหนักถึงภัยที่ต้องร่วมใจกันต่อสู้ ทำไมเขาไม่เน้นย้ำหัวใจประชาธิปไตยที่มีเสรีภาพมาพูดกับคนของเขาเพื่ิอให้ร่วมกันต่อสู้โรคระบาดล่ะ ก็เพราะเขารู้บริบทของปัจจุบัน รู้กาละเทศะในการใช้ความรู้ ประสบการณ์ ให้ได้ผลที่สุด ผู้นำและผู้ปฎิบัติงานของไทย ทำถูกต้องตามสถานการณ์แล้วครับ...
    11 เม.ย. 2563 เวลา 02.32 น.
  • สิทธิชัยสนุ่นพิทักษ์
    สมองมีแค่นี้ยังไปให้เป็นรศ.ต้องเปลี่ยนเป็น​ ลส.​สงสารประเทศที่เอาพวกนี้ไปสอนในหมาลัยเด็กออกมาถึงไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร
    11 เม.ย. 2563 เวลา 01.29 น.
  • sarawutssp
    ดร. พันธุ์นี้แหละที่เค้าเรียก ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ดีแต่วิจารณ์คนอื่น เอาเท้าราน้ำไปเรื่อยๆ ทำประโยชน์อะไรให้บ้านเมืองบ้าง ติดโควิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็อย่าบากหน้ามาใช้บริการสาธารณะสุขของรัฐที่แกวิจารณ์ล่ะ
    11 เม.ย. 2563 เวลา 00.52 น.
  • Mattara Sripun
    เป็นกลไกการจัดการที่ได้ผลบวกต่างหาก คุณวิเคราะห์แนวคิดอำนาจนิยมโดยไม่เข้ากับเนื้อหาและสถานการณ์ บทความขยะ
    11 เม.ย. 2563 เวลา 00.49 น.
  • สมชาย
    ไม่สงสัยเลยทำไมเด็กรุ่นใหม่ถึงมีความคิดเข้าข้างตัวเองไม่ดูสังคมรอบด้านเพราะมีอาจารย์แบบนี้นี้เอง
    11 เม.ย. 2563 เวลา 00.38 น.
ดูทั้งหมด