แมลงวันในไร่ส้ม
ข่าวร้าว-เขย่ารัฐบาล
ภท. -ปชป. เข้ม
ต้อนรับสภาสมัยสอง
ต้อนรับเทศกาลเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญที่สอง ที่เริ่มต้นเมื่อ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และมีระเบียบวาระแรงๆ รออยู่ ด้วยข่าวสั่นสะเทือนรัฐบาล
เรื่องหนึ่ง ได้แก่ กรณีฝ่ายค้านและพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560
เท่ากับฝ่ายค้านกำลังจับมือพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงชิงการนำในการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทำเอาพรรคพลังประชารัฐเต้น และประกาศว่าตำแหน่งนี้ต้องมาจาก ส.ส.รัฐบาล ตามมาด้วยการโต้แย้งผ่านสื่ออย่างดุเดือด
สำหรับกรรมาธิการดังกล่าว จะตั้งขึ้นตามข้อเสนอตามญัตติของฝ่ายค้าน แต่ญัตติดังกล่าวยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของสภา รอคิวอยู่ในระเบียบวาระการประชุม
อีกเรื่อง คือ ข่าวพรรคภูมิใจไทยแสดงความไม่พอใจแกนนำรัฐบาลบางคนในบางพรรค โดยระบุว่าเป็นผู้ปล่อยข่าว และมีสื่อไปจัดรายการวิพากษ์วิจารณ์ทำให้พรรคและแกนนำพรรคได้รับความเสียหาย
ดังที่ทราบกันว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แกนนำพรรคภูมิใจไทยประกาศฟ้องร้องสื่อมวลชนที่จัดรายการโจมตีรัฐมนตรีของพรรค
โดยระบุด้วยว่า การโจมตีดังกล่าว เชื่อมโยงถึงแกนนำรัฐบาลอีกสายหนึ่ง
เว็บไซต์เนชั่นฯ รายงานเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พาดหัวว่า “ศักดิ์สยาม-ภท. จ่อฟ้องเนชั่น พาดพิงข้อมูลไม่ตรงความจริง”
เนื้อหาข่าวระบุว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้แจ้งต่อที่ประชุม ส.ส. พรรค ถึงกรณีรายการโทรทัศน์เนชั่นทีวี รายการเนชั่นสุดสัปดาห์ ผู้ดำเนินรายการพูดพาดพิงนายศักดิ์สยามและพรรคภูมิใจไทย ถึงประเด็นที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี
โดยนายศักดิ์สยามกล่าวว่า รายการดังกล่าวพาดพิง ให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง เมื่อถอดข้อความทั้งหมด พบว่าพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง สร้างความเสียหายให้แก่ตนเองและพรรคภูมิใจไทย ถือว่ามีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และการหมิ่นประมาท
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคภูมิใจไทย แถลงหลังประชุมดังกล่าวว่า ทางพรรคจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 คน และบริษัทต้นสังกัด ในฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยนายศักดิ์สยามจะไปแจ้งความที่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมกันนี้หัวหน้าพรรคจะทำหนังสือมอบอำนาจให้ ส.ส.เขตของพรรคทั้ง 39 คน ไปดำเนินการแจ้งความในพื้นที่ของตัวเอง รวมทั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทั้ง 12 คน ซึ่งรวมถึงตัวนายอนุทิน ก็จะไปแจ้งความด้วยเช่นกัน
เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านหยิบยกประเด็นนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายศุภชัยกล่าวว่า เป็นสิทธิที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ขณะนี้มีเพียงกระแสข่าวว่าใครจะถูกอภิปรายเท่านั้น ซึ่งการที่ผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 คนเอาเรื่องที่ไม่เป็นความจริงมาพูด คนที่ไม่รู้ก็อาจจะเชื่อและคล้อยตามได้ ทำให้นายศักดิ์สยามและพรรคเกิดความเสียหาย
ผู้ดำเนินรายการเนชั่นสุดสัปดาห์ กับ 3 บ.ก. ได้แก่ นายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร บรรณาธิการบริหาร นสพ.กรุงเทพธุรกิจ นายบากบั่น บุญเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นสพ.ฐานเศรษฐกิจ และนายสมชาย มีเสน ซีอีโอเครือเนชั่น
ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน มีกระแสข่าวจากพรรคภูมิใจไทย เผยแพร่ในสื่อต่างๆ ว่า กรณีทีวีช่องหนึ่งโจมตีการทำงานของนายศักดิ์สยาม และพรรคภูมิใจไทยได้ฟ้องร้องแจ้งความเอาผิดสื่อดังกล่าว และ ส.ส.ทยอยแจ้งความดำเนินคดีนั้น
ล่าสุดแกนนำพรรคได้แจ้งไปยังพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้วว่า รู้ตัวผู้ปล่อยข่าว ซึ่งอยู่ร่วมในคณะรัฐมนตรีแล้ว อีกทั้งสื่อดังกล่าวมีความใกล้ชิดกับพรรคแกนนำรัฐบาล จึงแจ้งไปยังผู้ใหญ่ในรัฐบาลว่า หากบุคคลดังกล่าวไม่หยุดปล่อยข่าวให้ร้ายพรรคภูมิใจไทย
อาจจะส่งผลกับการยกมือในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลของฝ่ายค้านที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคมนี้ด้วย
นายศุภชัย ใจสมุทร ในฐานะประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับแจ้งจาก ส.ส.ทั่วทุกภาคของประเทศว่า ได้ทยอยไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนแล้วกว่า 20 คน ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ที่เหลือจะทยอยร้องทุกข์ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้
ก็น่าสนใจว่า ใครจะออกมาทำหน้าที่ “กาวใจ” เยียวยาหรือสมานรอยร้าวที่เกิดขึ้น
เบื้องหน้าเบื้องหลังของกรณีนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่พรรคภูมิใจไทยได้คุมกระทรวงเกรดเอที่มีบทบาทเด่นหลายกระทรวง โดยเฉพาะคือกระทรวงคมนาคม ที่พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคแกนนำ ก็ต้องการดึงเอาไว้ทำหน้าที่ต่อ
แต่ในการต่อรอง รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำส่งผลทำให้พรรคภูมิใจไทยได้เก้าอี้นี้ไป และเมื่อเข้าบริหารงาน ก็เกิดการจัดระเบียบภายใน และมีแนวทางของตนเองในการดำเนินนโยบาย
ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกับแกนนำรัฐบาลด้วยกัน และบานปลายไปถึงการเสนอข่าวของสื่อ
ข่าวที่เกิดขึ้น สะท้อนว่า เป็นการกระทบกระทั่งที่หนักหน่วงและมีดีกรีรุนแรงอยู่พอสมควร
ส่วนปัญหาตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ผ่านสัปดาห์แรกเข้าสู่สัปดาห์ที่สองของการประชุมสภา แต่ก็ยังไม่ลงตัวว่าจะเป็นใคร
สำหรับพรรคพลังประชารัฐในระยะแรก จะเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา ลงชิงตำแหน่ง แต่ในที่สุดเจ้าตัวประกาศถอย
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ยังยืนยันชื่อของนายอภิสิทธิ์
ส่วนพรรคเพื่อไทย ในระยะแรกไม่ขัดข้องที่จะเป็นนายอภิสิทธิ์ แต่ต่อมามีท่าทีจะเสนอชื่อนายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค มือกฎหมายชั้นนำอีกคนหนึ่งของพรรค แต่ยังไม่สรุปชัดเจน
กลายเป็นปัญหาทางการเมือง เพื่อชิงความได้เปรียบ ระหว่างฝั่งที่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยพรรคฝ่ายค้านกับพรรคประชาธิปัตย์ และฝ่ายที่ต้องการใช้การตั้งกรรมาธิการวิสามัญมาศึกษา มาดึงเกมออกไปก่อน
ใครจะพลิกเกมชิงความได้เปรียบ ย่อมมีผลต่อความสำเร็จในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นงานยากสุดๆ ของการเมืองในระยะ 5 ปีนี้
ความเห็น 6
ฟ้องอย่างไรก็ไม่ชนะหรอก. ถ้าไม่มีมูล หมามันคงไม่มาขี้ เดี๋ยวก็โดนขุดคุ้ยลากใส้ออกมายาวเป็นศอก. เพราะนโยายที่มาหาเสียงแถวบ้านกูคนเขาด่ากันทั้งเมือง. เรื่อง จะสนับสนุนให้เอาโฉนด สปก. ไปขายแดกได้ แล้ว ปลูกกัญชาบ้านละ 6. ต้น สรุปทำตามนโยบายพรรคมึงโดนจับกันหมด. ถุยยยยย
15 พ.ย. 2562 เวลา 09.49 น.
อนาคตใหม่ นี่มันเลวจริงๆ
สำนักข่าวที่ดีคือ
เนชั่น ทีนิวส ไทยโพส ผจก
15 พ.ย. 2562 เวลา 09.40 น.
ภาณุ 6395
ดีครับฟ้องให้เจ๊งไปเลยเนชั่นชักจะเลอะเทอะไปใหญ่แล้วยุบไปเถอะ
15 พ.ย. 2562 เวลา 09.35 น.
Wichit.Siri
เป็นบุคลสาธารณะ ย่อมวิพากวิจารย์ได้
15 พ.ย. 2562 เวลา 09.34 น.
God of war Lincoln
ขี้ในมติชนที่ไม่ล้าง
15 พ.ย. 2562 เวลา 09.31 น.
ดูทั้งหมด