*คอลัมน์ข้าพระบาททาสประชาชน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3506 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 19-21 ก.ย.2562 โดย… ประพันธุ์ คูณมี *
รัฐธรรมนูญ หรือ คนเฮงซวยกันแน่
การเลือกตั้งทั่วไปภายใต้กฎกติกาตามรัฐธรรมนูญ 2560 เพิ่งจะจบสิ้นเมื่อเดือนมีนาคม และรัฐบาลใหม่เพิ่งจะจัดตั้งขึ้น เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่และแถลงนโยบายเมื่อเดือนกรกฎาคม คณะรัฐมนตรีเพิ่งได้เข้าปฏิบัติหน้าที่เพียงเดือนเศษ สภาผู้แทนราษฎรเพิ่งประชุมสมัยแรก และจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 18 กันยายน 2562 นี้
การเมืองภายหลังการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเพิ่งเริ่มต้น ขณะที่รัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ต่างเร่งสร้างผลงานทำงานแก้ปัญหาประชาชน แต่ตรงกันข้ามพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ต่างก้มหน้าก้มตามุ่งมั่นสู่ยุทธศาสตร์ 2 ล้มให้ได้คือ 1.ล้มรัฐบาล 2.ล้มล้างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
ภายใต้เป้าหมายดังกล่าว พวกเขาต่างเดินหน้าจัดขบวน เดินสายทั่วประเทศรณรงค์ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ปั่นและสร้างกระแสทางการเมืองโดยมุ่งโจมตีและประณามรัฐธรรมนูญสารพัดที่จะหาเหตุมากล่าวอ้าง เพื่อปลุกระดมเชิญชวนประชาชนและบุคคลกลุ่มต่างๆ เพื่อล้มรัฐบาล ล้างรัฐธรรมนูญให้ได้ ไม่ว่านํ้าจะท่วมประชาชนจะทุกข์ยากเดือดร้อนเพียงใดก็ตาม พวกเขาก็ไม่สนใจจะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญให้ได้ ประหนึ่งว่าหากแก้ไม่ได้พวกเขาคงสิ้นลม นี่คืออาการของฝ่ายค้านยามนี้ โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ ที่กำลังแสดงบทบาททางการเมืองให้เป็นข่าวได้ทุกวัน
ในที่สุดก็เป็นเรื่องจนได้ บนความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่คึกคะนอง อ่อนหัดและไร้เดียงสา ประเภทแกว่งปากหาคุก ของสมาชิกพรรค การเมืองที่อ้างตนว่ารุ่นใหม่ ในงานเสวนาทางการเมืองเรื่อง “รัฐธรรมนูญนี้เพื่อใคร รัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อคนไทยทุกคน” เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2562 ที่ตลาดเกษตร จ.มหาสารคาม คุณพรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคอนาคตใหม่ หนึ่งในแกนนำสำคัญของพรรค ได้บังอาจกล่าวอภิปรายบนเวที ด้วยความหยาบคายสุ่มเสี่ยงเป็นความผิดในทางกฎหมายต่อบุคคลอื่น โดยเธอได้อภิปรายว่า “เห็นสมควรต้องร่างใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เฮงซวยทุกมาตรา เนื่องจากกระบวนการที่ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญไม่ชอบธรรม ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการร่าง” โดยพุ่งเป้ากล่าวหาว่ารัฐธรรมนูญนี้ ร่างโดย นายวิษณุ เครืองาม, นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประชาชนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ปัญหาว่าการกล่าวเช่นนี้ เป็นความจริงหรือไม่? เป็นความผิดต่อกฎหมายอย่างไร? เป็นคำพูดและการกระทำที่เหมาะสมกับความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่?
จากการติดตามกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 เห็นว่า มิใช่เป็นการร่างโดย นายวิษณุ เครืองาม และ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ แต่เป็นการร่างโดยกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ 2 คณะ ชุดแรกมี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน ชุดที่ 2 มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน โดยกระบวนการร่างได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน กลุ่มอาชีพต่างๆ รวมทั้งมีการให้ประชาชนเสนอความคิดเห็นส่งมาด้วย สุดท้ายเมื่อร่างเสร็จ ยังนำมาให้ประชาชนลงประชามติ ซึ่งก็ปรากฏว่ามีประชาชนให้ความเห็นชอบด้วยเสียงข้างมากถึง 16.8 ล้านเสียง
การกล่าวของ คุณช่อ-พรรณิการ์ วานิช จึงเป็นการบิดเบือนและเป็นความเท็จ และไม่เคารพต่อประชามติประชาชน กลุ่มและพวกของคุณช่อเองก็รณรงค์ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่แพ้ประชามติประชาชน ย่อมถือว่ามีส่วนร่วมแต่แพ้เสียงประชาชนส่วนใหญ่ การกล่าวอภิปรายของเธอในวันนี้ อ้างว่าประชาชนไม่มีส่วนร่วมจึงบิดเบือนครับ
ส่วนที่อภิปรายพูดพล่อยๆว่า “รัฐธรรมนูญนี้ เฮงซวยทุกมาตรา” นั้น ต้องขอตำหนิ ถือเป็นคำอภิปรายที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ไม่ต่างจากการสำรอกของเสียออกจากปาก พูดแบบไร้วุฒิภาวะ ขาดความรับผิดชอบ ที่สำคัญเป็นความผิดต่อกฎหมายด้วย โดยคำว่า “เฮงซวย” นี้ ศาลฎีกาเคยมีคำวินิจฉัยไว้ ตามฎีกาที่ 1623/2551 ว่า “การดูหมิ่นผู้อื่นอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 หมายถึง การดูถูกเหยียดหยาม สบประมาท หรือทำให้อับอาย การวินิจฉัยว่า การกล่าววาจาอย่างไรเป็นการดูหมิ่นผู้อื่นหรือไม่ จึงต้องพิจารณาว่า ถ้อยคำที่กล่าวเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามสบประมาทผู้ที่กล่าวถึง หรือเป็นการกระทำให้ผู้ที่ถูกกล่าวถึงอับอายหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ถือได้ว่าเป็นการดูหมิ่นแล้ว ไม่ต้องถึงเป็นการใส่ความให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา 326
ตามพจนานุกรมให้ความหมายคำว่า “เฮงซวย” ว่า เอาแน่นอนอะไรไม่ได้ คุณภาพตํ่า ไม่ดี ซึ่งมีความหมายในทางเสื่อมเสีย การที่จำเลยพูดใส่ผู้เสียหายด้วยความไม่พอใจว่า “ไอ้ทนายเฮงซวย” จึงเป็นถ้อยคำที่จำเลยด่าผู้เสียหาย เป็นการดูถูกเหยียดหยามและสบประมาทผู้เสียหายว่าเป็นทนายความเฮงซวย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 เทียบเคียงได้กับพฤติกรรมของคุณช่อ
ด้วยเหตุนี้ การกระทำของเธอผู้นี้ นอกจากไม่เหมาะสมในฐานะ ส.ส.ผู้แทนของปวงชนชาวไทย ผู้มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำปฏิญาณว่า “ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตาม ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” ยังเป็นความผิดต่อกฎหมายฐานดูหมิ่นและหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ถูกพาดพิงถึงคือ นายวิษณุ เครืองาม และ ท่านมีชัย
รัฐธรรมนูญฉบับนี้มิใช่หรือ ทำให้มี ส.ส.ชื่อพรรณิการ์ ทำให้พรรคอนาคตใหม่แจ้งเกิดทางการเมือง เปรียบเหมือนมารดาที่ให้กำเนิดนักการเมืองรุ่นใหม่ คุ้มครองสิทธิและให้โอกาสประชาชนมีส่วนร่วมในทางการเมือง รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงมิได้เฮงซวย ที่เฮงซวยคือนักการเมือง ที่มิได้สำนึกต่อบุญคุณของรัฐธรรมนูญนี้ต่างหาก
ส.ส. ส.ว. นักการเมือง พรรค การเมือง และประชาชนทั้งหลาย พึงได้โปรดสังวรตนเองด้วยว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับนี้ เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยในรัฐธรรมนูญและพระราชทานแก่นายกรัฐมนตรี และได้มีกระแสพระราชปรารภให้ประกาศใช้ต่อไป ถือเป็นพระราชพิธีสำคัญต่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยมีองคมนตรี ทูตานุทูต สมาชิกสภานิติบัญญัติ ประธานศาลทุกศาลและบุคคลสำคัญร่วมในพิธี
การที่บุคคลใดบังอาจกล่าวหาว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้เฮงซวยทุกมาตรา” ย่อมหมายถึงรัฐธรรมนูญนี้เฮงซวยทั้งฉบับ กินความถึงหมวด 1 ทั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ด้วย จึงเป็นการกล่าวโดยมิบังควรอย่างยิ่ง เข้าข่ายเป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้ายได้
จึงไม่ควรที่บ้านเมืองจะปล่อยให้นักการเมืองประเภทนี้ลอยนวล
ความเห็น 574
Nattapon/Eig
BEST
ถ้านักการเมืองมันมีแต่อัปปรีย์จัญไร ต่อให้รัฐธรรมนูญดีเลิศขนาดไหน นักการเมืองมันก็ไม่มีวันจะพอใจหรอกครับ ตราบใดที่พวกมันยังคอยแสวงหาผลประโยชน์จากประเทศชาติอยู่แบบนี้
17 ก.ย 2562 เวลา 14.07 น.
Ad.U.TFDA
BEST
ที่เฮงซวยก็คือ ช่อ ปากเสีย ร้องหาคุกตลอดเวลา
ถามว่า ช่อ เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้าง
นอกจากสร้างความแตกแยกของคนไทย ไม่มีสมองหรือมี
แต่ปัญญาอ่อน
17 ก.ย 2562 เวลา 14.12 น.
pojkung
BEST
น่าจะเป็นคน ที่เฮงซวย
17 ก.ย 2562 เวลา 14.09 น.
Thanet
ปากแกว่งหาที่แท้ๆช่อเอ้ย
17 ก.ย 2562 เวลา 14.10 น.
รอง พจน์
นิ้วชี้คนอื่นได้ แต่ชี้ตัวเองไม่ได้ คุณช่อน่าจะลองไปทบทวนดู รธน หรือตัวคุณกันแน่ ที่เฮงซวย ในส่วนตัวผมคิดว่า ประเทศไทยซวย เพราะมี สส แบบคุณ
17 ก.ย 2562 เวลา 14.23 น.
ดูทั้งหมด