ไม่มีใครควรต้องเจ็บเพราะความรัก ไม่ว่าจะเจ็บใจหรือเจ็บตัวก็ตาม เพราะคนรักกันจะต้องไม่ทำร้ายกันทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ที่แปลกก็คือ มีคนจำนวนไม่น้อยยอมเจ็บตัว โดยให้เหตุผลว่านอกจากการทำร้ายร่างกายแล้ว เรื่องอื่นก็รับได้หมด ซึ่งคนส่วนใหญ่มักยอมทนเพื่อให้ความรักและครอบครัวได้เดินหน้าต่อ แม้จะเป็นวิธีการที่ค่อนข้างแปลกแต่ผู้หญิงจำนวนมากในบ้านเรากลับคิดและทำแบบนั้น
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าความรักจะเอาชนะได้ คิดว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก แต่รู้อะไรไหม..คนที่เคยลงไม้ลงมือแค่สักครั้งก็จะเป็นอย่างนั้นไปตลอด และมีแนวโน้มจะหนักขึ้นกว่าเดิมเสียด้วย ที่สำคัญเค้าอาจไม่ได้หมดรัก แต่แค่โมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้ กลายเป็นที่มาของความรักไป เจ็บตัวไปแบบที่เป็นอยู่นี่เอง
ในมุมของคนนอกเจอความสัมพันธ์แบบนี้อาจพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เลิกไปเลย จะทนอยู่ทำไม” ยังไงความรักแบบนี้ก็มีทางเลือกแค่ 2 ทาง คือยอมทนเจ็บตัวเพื่ออะไรสักอย่างไปเรื่อย ๆ หรือจบแบบไม่เจ็บ (ตัว) แล้วไปมีชีวิตใหม่ สุดท้ายเรามีสิทธิ์เลือก ไม่มีใครตอบแทนได้ว่าแบบไหนจะดีกว่ากัน ความรักของเรา ชีวิตของเรา..เราต้องตัดสินใจและยอมรับสิ่งที่จะตามมาด้วยตัวเอง
ถ้าเลือกไปต่อ..ต้องเจอกับอะไร
เมื่อเจอปัญหาแบบนี้คนส่วนใหญ่จะแนะนำให้ค่อย ๆ ยุติความสัมพันธ์ลง เพราะอย่างที่บอกว่าให้เค้าเปลี่ยนแปลงหรือควบคุมตัวเองมันยากกว่าให้เราหนีไปไกล ๆ เสียอีก แต่ในทางกลับกัน..คนที่เป็นฝ่ายไปไหนไม่ได้กลับเป็นคนที่ถูกทำร้ายเองนั่นแหละ
คนโดนทำร้ายมักจะมองข้ามความเจ็บปวดทางร่างกายและจิตใจของตัวเอง แต่กลับมองไปที่ความสัมพันธ์ในอดีต ความทรงจำที่สวยงาม และเรื่องอื่น ๆ ที่เค้าทำดีด้วย โดยเลือกที่จะไม่มองประเด็นหลักอย่างการใช้กำลัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่แปลกตรงที่เรายอมให้ตัวเองเจ็บเพียงเพื่อจะรักษาความสัมพันธ์ที่บิด ๆ เบี้ยว ๆ แบบที่ทนได้ก็ทนไป ทนไม่ได้ก็ต้องทน
>>7 บทเรียนซ้ำซาก ที่สอนให้รู้ว่า..อย่าทนถ้ามันเริ่มเจ็บ<<
จริง ๆ แล้ววิธีการรับมือกับความสัมพันธ์ลักษณะนี้มันก็มี แต่ทางดีที่สุดอาจไม่ใช่ทางที่ถูกใจเราที่สุดก็ได้ เพราะไม่ว่าจะกูรูความรัก คนธรรมดา หรือหน่วยงานไหน ๆ ก็บอกว่าควรยุติความสัมพันธ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวเอง เพราะอาจไม่ใช่แค่เจ็บตัว แต่ถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ได้
ดังนั้นถ้าเลือกจะไปต่อกับคนแบบนี้ ก็ต้องรู้ว่าเค้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงและควบคุมตัวเองได้ หนึ่งในเหตุผลของคนที่ทำร้ายร่างกายคนอื่น มักเป็นเพราะความโมโหที่ทำให้ควบคุมตัวเองไม่ได้จนต้องลงไม้ลงมือ แต่พอหายโมโห เค้าก็คือคนที่เรารักจนไม่สามารถจากไปไหนได้ แต่แน่นอนมีครั้งแรก ยังไงครั้งอื่น ๆ ก็ต้องตามมา
แปลว่าสุดท้ายนอกจากจะได้เป็นคนรักแล้ว ยังอาจได้เป็นกระสอบทรายไปตลอดชีวิตอีกด้วย เพราะคนเราลองได้โมโหจนทำร้ายอีกคนได้แล้ว โอกาสที่จะมีครั้งต่อ ๆ ไปก็มีสูงมาก
เมื่อทนเจ็บตัวไม่ไหว..จะเลิกยังไง
อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่าเมื่อรักแล้วต้องเจ็บทั้งตัวและใจ ก็ควรต้องตัดใจและเดินออกมาจากชีวิตของอีกคนเสีย ทางที่ดีที่สุดของเรื่องแบบนี้ก็คือการยุติความสัมพันธ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวเองเอาไว้ก่อน แต่การจะเลิกทันทีกับคนลักษณะนี้บางทีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ก่อนหน้านี้มีข่าวให้เห็นมากมายว่าพอฝ่ายหนึ่งขอเลิก อีกฝ่ายไม่พอใจจนต้องตามก่อกวน ทำร้ายกันไม่จบสิ้น สุดท้ายกลายเป็นรักต้องฆ่าที่ต้องจบลงด้วยชีวิต เพียงเพื่อไม่ให้เค้าไปมีคนใหม่
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์เหล่านี้มักมาจากความรักที่เกินรักประกอบเข้ากับการควบคุมตัวเองไม่ได้ เบื้องต้นอาจเป็นแค่ความโมโหจนเป็นเหตุให้ทำร้ายร่างกาย แต่ในอนาคตไม่มีใครบอกได้ว่าจะไปจบลงที่ตรงไหน
>>7 รูปแบบความรักที่ต้องหนีไปให้ไกล ถ้าไม่อยากรักไป..เจ็บไป<<
ดังนั้นการยุติความสัมพันธ์กับคนที่ทำร้ายร่างกายเรา ยิ่งจบได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าเลิกแล้วจบ ต่างคนต่างไปมีชีวิตใหม่ของตัวเองได้ไวก็ยิ่งเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามันไม่ได้ง่ายแบบนั้น เราก็ต้องมีวิธีรับมือกับความสัมพันธ์และอดีตคนรักแบบปลอดภัยต่อร่างกาย จิตใจ และชีวิตของตัวเองให้ดีที่สุด
ในกรณีที่ไม่จบง่าย ๆ บอกเลิกแต่ปลายทางคือเจ็บตัวหนักกว่าเดิม ก็อย่าลังเลหรืออายที่จะขอความช่วยเหลือหรือบอกเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้กับคนใกล้ชิดได้รับรู้ เพราะไม่แน่ว่าคนเหล่านี้อาจเป็นพยานปากสำคัญในอนาคตก็ได้ ระหว่างนั้นก็วางแผนว่าจะเลิกราอย่างไรให้เร็วที่สุด
วิธีที่พิสูจน์มาแล้วว่าได้ผลที่สุดก็คือต้องจริงจังและเด็ดขาด เลิกคือเลิก จบคือจบ มีคนกลางที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับเราทั้งคู่มาอยู่ด้วยเพื่อป้องกันการทำร้ายกันเกิดขึ้น ที่สำคัญคือเราเองต้องเข้มแข็ง ต้องปกป้องตัวเองให้ได้ ที่สำคัญคือต้องคิดไว้เสมอชีวิตและความปลอดภัยของเราสำคัญที่สุด ต่อให้รักแค่ไหน แต่การทำร้ายร่างกายก็ควรจะเป็นจุดสิ้นสุดของความรักได้แล้ว เลิกหันไปมองอดีต แต่ให้มองหาอนาคตว่าเราจะทนกับความสัมพันธ์ในแบบที่รักไป เจ็บตัวไปแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน
สำหรับคนแต่งงานแล้ว มีลูก หรือมีสถานะทางสังคมที่ต้องรักษา ก็อย่าเพิ่งคิดว่าการสิ้นสุดความสัมพันธ์ในครั้งนี้จะทำให้ทุกอย่างต้องจบลง เราแค่ไม่ยอมให้ตัวเองต้องเจ็บตัวและเจ็บใจก็เท่านั้นเอง ไม่ต้องกลัวหรืออายที่จะต้องเลิกราหรือหย่าร้าง ถ้ามันไม่มีความสุข เรามีสิทธิ์ที่จะหยุดและจบความสัมพันธ์แบบนี้ลง เพราะไม่มีใครควรต้องทนกับความรักที่มีแต่ความเจ็บปวดแบบนี้เลย
>>50 ข้อต้องรู้ ในวันที่ชีวิตผิดหวังเพราะความรัก<<
แม้คำว่า “รัก” สำหรับเราอาจจะดูยิ่งใหญ่และไม่มีอะไรมาทำลายได้ แต่ยังไงความรักก็ไม่ใช่การอดทนกับอะไรสักอย่างอยู่ดี เพราะฉะนั้นจงอย่ารักใครจนมองไม่เห็นความเจ็บปวดของตัวเอง
ความเห็น 66
BEST
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องทน เวลาเห็นผู้หญิงถูกผู้ชายทำร้าย เรายังทนไม่ได้ต่อให้ผู้ชายคนนั้นจะรวยขนาดไหนก็ตาม
31 พ.ค. 2563 เวลา 19.36 น.
เฮียฉะ
BEST
ถ้าโดนทุบตี แล้วยังเรียกว่า รัก เชิญตามสบายเลยจ้า รักคือต้องทนุถนอม ไม่ใช่แจกแม่ไม้มวยไทย จีนฝรั่งแขก
31 พ.ค. 2563 เวลา 23.59 น.
สิ่งที่ทำให้ผญ.ไม่มีทางไปที่สุด
น่าจะ ขู่ฆ่า ทำร้าย ภรรยาและญาติพ่อแม่ฝ่ายภรรยา
พอพ่อแม่บอกให้ลูกสาวเลิกกับลูกเขย
ก็บาดหมางใจกัน
ผช.จะกลับไปหาลูก
ก็ไม่กล้ามองหน้าพ่อแม่ฝ่ายผญ.
ทางที่ดีอย่าทะเลาะกันเลย ปัญหาครอบครัวแตกแยกมันส่งผลกระทบหมด
แม้กระทั้งพ่อแม่ฝ่ายเขาหรือเราและลูก
หมดรักกันแล้วให้อยู่กันในฐานะเพื่อนคู่ชีวิตก็ได้
คำว่าเพื่อนเวลาคุณรักเพื่อน หวังดีกับเพื่อนคุณยังรักและซื่อสัตย์ได้
ทนคำว่าเพื่อนเพราะเป็นพ่อและแม่ของลูกคุณ..ต้องทนได้ซิ
อย่างน้อยขอแค่อย่าทรยศกัน
มีคนใหม่ก็เจอปัญหาเดิมๆ
01 มิ.ย. 2563 เวลา 01.51 น.
ก่อนจะมีแฟนสักคนก็ควรที่จะศึกษากันให้ดีก่อนจะดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมาข้ำใจในวันข้างหน้า.
01 มิ.ย. 2563 เวลา 01.13 น.
กิตติยา
ถ้าอยากทนต่อไปก็หาโอกาสไปแอบฝึกศิลปป้องกันตัว แม่ไม้มวยไทย ยูโด คาราเต้ เทควันโด เอาไว้ตอบโต้
01 มิ.ย. 2563 เวลา 00.19 น.
ดูทั้งหมด