ในยุคสมัยที่คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น นอกจากการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และมีรูปร่างสมส่วนแล้ว การเลือกรับประทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาล แคลอรี่ และไขมันต่ำ ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่นิยมทำควบคู่กันไป แต่นอกจากที่กล่าวมาแล้ว นักโภชนาการยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มี “รสเค็ม” หรือมี “เกลือ” (โซเดียม) ประกอบอยู่ในปริมาณมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และโรคไต ยิ่งต้องระวังมากกว่าคนปกติ เพราะหากได้รับโซเดียมมากเกินไปจะทำให้อาการที่เป็นอยู่ทรุดลงได้ สำหรับคนทั่วไป ถ้าเป็นผู้ใหญ่ ในแต่ละวันไม่ควรได้รับโซเดียมเกินกว่า 2,000 มิลลิกรัม ส่วนเด็กไม่ควรเกิน 1,900 มิลลิกรัม/วัน
Cr.pritikin.com นอกจากเกลือ และอาหารสำเร็จรูปบางชนิดที่เรารู้ว่ามีเกลือผสมอยู่แล้ว ยังมีอาหารบางประเภทที่เราอาจไม่รู้สึกถึง “รสเค็ม” แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า อาหารชนิดนั้นจะไม่มีโซเดียมสูง บทความหนึ่งจากเว็บไซต์ health.com ระบุถึงอาหาร 13 อย่างที่มีความ “เค็ม” มากกว่าที่คุณรู้ แต่ในที่นี้จะขอพูดถึงอาหารเพียง 5 ชนิดที่คนไทยคุ้นเคยกันดี มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง…
Cr.natursenf.ch 1.ซอสปรุงรสต่างๆ (Sauces) ซอสปรุงรส รวมถึงน้ำสลัด มีเกลือผสมอยู่แน่นอน โดยน้ำสลัดเพียง 2 ช้อนโต๊ะ อาจมีโซเดียมสูงถึง 300 มิลลิกรัม
Cr.celiac.org 2.ซีเรียล (Cereal) ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากธัญพืชใส่นมสดสักถ้วย อาจเป็นอาหารเช้าเพื่อสุขภาพของหลายๆ คน แต่คุณอาจไม่รู้ว่า ซีเรียลส่วนใหญ่จะมีโซเดียมผสมอยู่ 180 – 300 มิลลิกรัม/ 1 หน่วยบริโภค
Cr.sassyvegangirl.wordpress.com 3.ขนมอบ (Baked goods) เมื่อคุณกิน เค้ก, โดนัท, คุกกี้ และขนมอบต่างๆ นอกจากจะได้รับน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรด ในปริมาณมากแล้ว ขนมเหล่านี้ยังมีรสเค็มซ่อนอยู่ เพราะนอกจากเกลือแล้วยังมีการเติมสารกันบูดซึ่งมีโซเดียมผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่ โดนัท 1 ชิ้น จะมีโซเดียม มากกว่า 200 มิลลิกรัม
Cr.cookinglight.com 4.ซุป (Soup) หนุ่มสาวรักสุขภาพหลายคนนิยมรับประทานซุปร้อนๆ 1 ถ้วย แทนอาหารกลางวันมื้อหนักๆ แต่หารู้ไม่ว่า ในซุปถ้วยเล็กๆ มีเกลืออยู่มากกว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะซุปสำเร็จรูปที่บรรจุอยู่ในกระป๋อง ซุป 1 ถ้วย อาจจะให้พลังงานน้อยกว่า 300 แคลอรี่ แต่อาจมีโซเดียมมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณสูงสุดที่แนะนำในแต่ละวัน!!
Cr.ewg.org 5.อาหารที่มีการลดโซเดียม (Reduced-sodium foods) อาหารที่มีฉลากติดบนบรรจุภัณฑ์ว่ามีการลดโซเดียม (Reduced-sodium foods) อาจทำให้คุณเข้าใจผิดว่าจะได้รับเกลือน้อยลงด้วย แต่ในความเป็นจริง ปริมาณโซเดียมที่หายไปนั้นน้อยมาก คือ เพียง 25% เท่านั้น (เกณฑ์ที่องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกากำหนดไว้) นั่นหมายความว่าในอาหารแช่แข็งที่มีโซเดียม 1,000 มิลลิกรัม ถึงจะลดโซเดียมไปแล้ว ส่วนที่ยังเหลืออยู่ก็ยังมากถึง 750 มิลลิกรัมเลยทีเดียว อ่านมาถึงตรงนี้ บางท่านอาจจะคิดว่า โลกเราอยู่ยากขึ้นทุกวัน จะกินอะไรก็ต้องคอยอ่านฉลากว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน แต่ก็ต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า เพราะที่ผ่านมาเรากินโดยไม่รู้ ไม่เคยสนใจว่าสิ่งที่เรารับประทานนั้นมีประโยชน์ หรือมีโทษต่อร่างกาย
Cr.pritikin.com แม้วันนี้ การให้ความสำคัญกับสารอาหารที่เราได้รับ อาจจะช้าเกินไป เพราะความเจ็บป่วยได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ถ้าคิดในแง่บวก ข้อมูลเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อญาติพี่น้อง ลูกหลานของเราที่ยังแข็งแรงดี เพียงแค่บอกต่อ หรือแชร์ข้อมูลไปถึงคนที่เรารัก ให้เขาเหล่านั้นได้ป้องกันตัวเอง ก่อนที่โรคภัยจะมาเยือน…
ความเห็น 7
ToTe
เพราะเราจะอายุสั้นลงเรื่อยๆจากเมื่อก่อน
ธรรมชาติเลยวิวัฒนาการให้เราสืบพันธ์ได้ไวขึ้น
5555
15 มี.ค. 2561 เวลา 13.39 น.
รู้มากยากนาน รู้น้อยพลอยรำคาญจริงๆ
เราจะกินอะไีรสักอย่างคิดแล้วคิดอีก จนกลายเป็นกินอะไรไม่ได้สักอย่าง
15 มี.ค. 2561 เวลา 10.48 น.
❤️Tg 👍BE 🚚EB 🤟
ก็ไม่เข้าใจ ก็ไม่ได้กินแทนข้าว เช่นอย่างเครื่องปรุงรส อีกอย่างทุกอย่างก็ผ่าน อย.แล้ว จะให้หลีกไปไหน.
15 มี.ค. 2561 เวลา 08.14 น.
Sawat...ZPL
อายุ35ลงมาคงไม่ต้องกังวลสักเท่าไหร่แต่ถ้า35ขึ้นต้องระวังบ้างแล้ว
15 มี.ค. 2561 เวลา 13.38 น.
🇧🇪 patcha79 หวยยุโรป
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
เห็นซอสสุกี้ แล้วอยากกินเลยค่ะ ร้อนๆแซบๆ 😤😤😤
นิ้วเท้าเกยกันแวะมานะคะ www.pjfootcare.com
15 มี.ค. 2561 เวลา 16.36 น.
ดูทั้งหมด