“ขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ขอบคุณผู้บริหารพรรค ส.ส. สมาชิกพรรค ที่ให้ การสนับสนุนพวกเรามาโดยตลอด การได้ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐถือเป็นประสบการณ์ที่ดี เป็น ความทรงจำที่ล้ำค่า”
ประโยคทิ้งท้าย แถลงการณ์ของ “4 กุมาร” นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ที่เปิดแถลงลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ต้องขีดเส้นใต้กับประโยค “ความทรงจำล้ำค่า” ที่อ่านแล้วก็พอจะปะติดปะต่อ จินตนาการภาพออก เบื้องหลังของ 4 กุมาร ในการกลั่นประสบการณ์+ความรู้สึกเขียนออกมา ซึ่งความทรงจำบนตัวอักษรนั้นอาจจะมีทั้งดี ทั้งเลวร้ายก็เป็นไปได้
แม้ว่าทั้ง 4 กุมาร จะเป็นทีมคีย์แมนด้านเศรษฐกิจของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาตั้งแต่ยังเป็นรัฐบาล คสช. ซึ่งถูกเชิญมาร่วมทีมในนาม “ทีมสมคิด” ร่วมกันคิด ร่วมกันวางสารพัดโปรเจค แถมยังเป็นทีมที่แห่ขบวนขันหมากมาทำเนียบรัฐบาล สู่ขอเพื่อใส่ชื่อ “บิ๊กตู่” ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีเมื่อครั้งศึกเลือกตั้งที่ผ่านมา
แม้ว่าจะมีความผูกพัน และไว้ใจของบิ๊กตู่ กับทีม 4 กุมาร ที่สั่งงานได้ดั่งใจ แต่สิ่งที่ต้องไม่ลืม นี่คือการเมืองแบบรัฐบาลผสม ไม่ใช่ยุค คสช. ที่บิ๊กตู่จะตัดสินใจได้เพียงคนเดียวแบบเบ็ดเสร็จ
ย้อนไปเมื่อช่วงปลายปี 62 ต่อเนื่องมาต้นปี 63 ก่อนที่โควิดจะระบาด และบรรยากาศของพรรคพลังประชารัฐยังไม่เป็นแบบนี้ ถ้าจำกันได้ ช่วงนั้นมีกระแสข่าวในการปรับ ครม.มาแล้วรอบหนึ่ง ซึ่งมาจากการตกลงกันไว้ในพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อครบวงรอบการทำงานของรัฐมนตรี 3 หรือ 4 เดือน ก็จะต้องประเมินและนำไปสู่ปรับครม.
เพียงแต่ว่าโควิด-19 มาคั่นจังหวะของการปรับ ครม. ให้ปรับโหมดการทำงานของรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติโรคร้าย ด้วยอำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้“สัญญาใจ” ในเชิงการทำงานแบบรัฐบาลผสม ต้องพับเก็บไว้ก่อนร่วม 4 เดือน
เมื่อโควิดคลี่คลาย ทุกอย่างคลายล็อกเกือบจะ 100% สัญญาใจในการปรับ ครม.ที่พับเก็บเอาไว้ จึงถูกคลี่ออกมาทวงถามอย่างจริงจัง
แต่เกมนี้ สุดท้ายแล้วด้วยความเป็นชายชาติทหาร ว่ากันว่า “พี่ใหญ่ไม่หักน้อง น้องก็ไม่หักพี่ใหญ่”
โดยเฉพาะเก้าอี้ ครม.ในสัดส่วนของนายกฯ แม้ว่า 4 กุมาร จะไม่ได้สังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่โควตานั้นก็จะยังมีอยู่ในมือของ “บิ๊กตู่”
ความเห็น 23
Pilot guide
ตายทั้งน้องทั้งพี่ คอยดู
10 ก.ค. 2563 เวลา 04.08 น.
สุพจน์
คนที่ควรปรับออกก่อนเพื่อนคือพี่ใหญ่ น้องจะกล้าไหม
10 ก.ค. 2563 เวลา 04.21 น.
nikom
สมประโยชน์คือเรื่องที่สำคัญที่สุด คำพูดต่างๆที่พูดออกมาก็เพื่อให้ดูดีเท่านั้น สุดท้ายถ้าไม่สมประโยชน์ ตีกันแน่ เหมือนที่เคยพูดกันเรื่องแย่งชามข้าว ในสภาพแบบนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน ประชาชนในประเทศกำลังเดือดร้อนแสนสาหัส แต่พวกคุณมัววุ่นวายหาประโยชน์ ช่างน่าอนาถ
10 ก.ค. 2563 เวลา 04.29 น.
เรื่องของพวกมึงแดกกันให้อิ่ม
10 ก.ค. 2563 เวลา 04.29 น.
Chanwit
เชือดคอตัวเอง
10 ก.ค. 2563 เวลา 06.00 น.
ดูทั้งหมด