โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

เรื่องสั้น

The Age of Apocalypse (ศักราชสิ้นสูญ)

นิยาย Dek-D

อัพเดต 18 พ.ค. เวลา 05.00 น. • เผยแพร่ 18 พ.ค. เวลา 05.00 น. • Paraginos
The Age of Apocalypse (ศักราชสิ้นสูญ)
ภารกิจพิชิตร่างอวตาร คือสุดยอดแห่งความใฝ่ฝันของผู้เล่นทุกคนในเกม ทว่าหนึ่งร่าง มีได้เพียงหนึ่งผู้ครอบครอง คุณจะเป็นผู้เลือก หรือถูกเลือกกันล่ะ? ทว่าไม่มีสิ่งใดได้เปล่า เพราะมันมาพร้อมกับความรับผิดชอบ

ข้อมูลเบื้องต้น

The Age of Apocalypse คือเกมออนไลน์เสมือนจริงที่มีอิทธิพลที่สุดในโลก วิฬาร์เองก็เป็นหนึ่งในเกมเมอร์มือระดับท๊อป เขาจึงได้รับเชิญให้เข้าร่วมการทดสอบเกมนี้ด้วย ทว่าหลังจากการทดสอบจบลง เจ้าตัวติดธุระสำคัญ จึงต้องเลื่อนเวลาเข้าเกมหลังจากมันเปิดตัววางจำหน่ายไปถึงปีกว่า แต่หลังจากเขาออนไลน์ได้ไม่ถึงครึ่งวันก็ทำให้จีเอ็มหัวร้อนกันเป็นแถบๆ เพราะเขาดันไปเปิดภารกิจพิชิตร่างอวตารอันโด่งดังของเกมเข้า!

มันคือภารกิจที่จะมอบพลังอันเหนือจินตนาการของเหล่าเทพอสูรในตำนานให้กับผู้ครองร่าง

ถ้าหากเลือกได้ คุณล่ะ จะเลือกเป็นใคร?

พิเภก เทพโหรา ผู้หยั่งรู้แผ่นฟ้าและผืนสมุทร

ลักษมณ์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของพระเชษฐาตน

อินทรชิต ผู้พิชิตองอินทร์ เจ้าแห่งสรวงสวรรค์

หนุมาน สุดยอดขุนพลผู้สามารถใช้หนึ่งต้านพันได้โดยไม่เพลี่ยงพล้ำ

องค์ราม จอมจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์

หรือจะเป็น

ทศกัณฐ์

จอมอสุรินทร์ ปิ่นเมืองลงกา

แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด โปรดจงจำเอาไว้ พวกท่านทั้งหลายต่างต้องรับผิดชอบต่อชะตากรรมของโลก เตรียมการเพื่อนำมนุษย์ทุกคนเข้าร่วมมหาสงครามครั้งสุดท้าย

มหาสงคราม ที่ตัดสินระหว่าง

ความเป็น

และความตาย

ขอเชิญรับชมใน

บทนำ

หมอกกระหวัดรัดเลี้ยว วุ่นวาย

เมฆฝุ่นฟุ้งกำจาย แผ่กว้าง

พลันกำเนิดเทพไท้ มารคู่

เป็นดั่งแสงเงาสร้าง ฟากฟ้า นรกานต์

ส่ำสัตว์ทั้งใหญ่น้อย

เคลื่อนเลื่อนคล้อยในวัฏฏะ

เสพสุขทุกข์โลภะ

ล้วนโมหะทั้งมากมี

เทพสถิต ณ แดนสรวง

แลดูปวงสรรพชีวี

สรรค์สร้างปฐพี

สายนทีสีทันดร

อสูรหมู่มารา

แลตรวจตราในสาคร

ใครจมห้วงนิวรณ์

ธ จะสอนให้รู้ทัน

เทวาอสุเรนทร์

เปรียบดังเปนแสงเงากัน

พิทักษ์ห้วงพสุธัน

ดั่งบรรพตค้ำโลกา

[กำจาย=กระจาย, นรกานต์=นรก, วัฏฏะ=รอบแห่งการเวียนเกิดเวียนตาย, โลภะ=ความโลภ, โมหะ=ความไม่รู้, ปฐพี=แผ่นดิน, นที=สายน้ำ, สีทันดร=ห้วงสมุทรที่ล้อมรอบโลก, สาคร=แม่น้ำ, นิวรณ์=สิ่งที่ขัดขวางจิตไม่ให้ก้าวหน้าในคุณธรรม, ธ=ท่าน, อสุเรนทร์=จอมอสูร, พสุธัน=แผ่นดิน, บรรพต=ภูเขา]

ตำนานจากยุคบรรพกาลที่สูญหาย เมื่อครั้งที่ทวยเทพสร้างโลกเบื้องบน หมู่อสูรสร้างโลกเบื้องล่าง ทั้งสองต่างร่วมมือกันดูแลแดนสรวงที่ตัวเองบันดาลสร้างขึ้นมา ก่อกำเนิดส่ำสัตว์มากน้อย ขับเคลื่อนสรรพชีวิต เป็นวัฏสงสารวนเวียนว่าย

แต่เมื่อผ่านกาลอันเนิ่นนาน ประวัติศาสตร์จึงถูกลบเลือนลืมหายไป ข้าจึงขอบังอาจเปิดเผยความลับแห่งจักรวาล ให้ทุกท่านได้ยลโฉมพลังจากห้วงอดีตกาลที่เคยถูกกลบฝังไว้ในสายธารแห่งกาลเวลา ใน

The Age of Apocalypse

ศักราชสิ้นสูญ

บทที่ ๑ The Age of Apocalypse

“สร้างตัวละครเสร็จสิ้น” เสียงแจ้งจากระบบบอกวิฬาร์*หลังจากการสร้างตัวละครเรียบร้อย

[*วิฬาร์ แปลว่า แมว]

กระจกเบื้องหน้าสะท้อนให้เห็นเจ้าของแววตาสีน้ำตาลเข้มที่วางตัวอยู่บนใบหน้าคมภายใต้เส้นผมสีดำ แม้ว่าหน้าตาโดยรวมของเขาจะดูค่อนข้างธรรมดา แต่แววตาคมกริบคู่นั้นกลับคล้ายจะบอกว่าเขาไม่ใช่คนที่ใครๆ จะมาดูถูกได้

“ผู้เล่นต้องการฟังเนื้อเรื่องของดิ เอจ ออฟ อโพคาลิปส์ (The Age of Apocalypse) หรือไม่?” ระบบเอ่ยถาม เขาฟังแล้วก็ตอบตกลงทันที

“ฟัง”

ก่อนเริ่มเกมแทบทุกเกมบนโลก มักจะมีการเล่าเท้าความถึงเรื่องราวเบื้องหลังของตัวเกมให้เหล่าเกมเมอร์ได้รับรู้และอินไปกับมัน บ่งบอกประวัติความเป็นมาของเรื่องราว สถานที่ และตัวละครที่จะมาปรากฏในเกมให้ผู้เล่นทำความเข้าใจเบื้องต้นกัน ไม่ต่างจากตัวอย่างหนังสั้นๆ เรื่องหนึ่ง

แต่ในเมื่อผู้เล่นแทบทุกคนต่างรู้กันอยู่แล้วว่า ดิ เอจ ออฟ อโพคาลิปส์ เซิร์ฟเวอร์อินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเกมที่อิงเรื่องราวมาจากวรรณคดีชื่อดังอย่างรามเกียรติ์ ก็ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่พร้อมใจกันกด ‘ข้าม’ เรื่องราวน่าเบื่อนี้ไปในทันที

แต่ไม่ใช่กับวิฬาร์

แม้ว่าเขาจะเคยเล่นเกมนี้มาตอนช่วงเบต้าเทสต์**แล้วครั้งหนึ่ง แต่เขายังรู้สึกสนุกกับการดำเนินเรื่องราวผ่านการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และเนื้อหาอันแปลกใหม่ของตัวเกม นอกจากนี้ในช่วงนั้นยังไม่มีเนื้อเรื่องของดิ เอจ ออฟ อโพคาลิปส์มาให้ฟังเหมือนตอนนี้ด้วย และอีกอย่าง เกมนี้มักจะชอบซ่อนภารกิจไว้กับเนื้อหาและเรื่องเล่าอยู่เป็นประจำ ดังนั้นการฟังเนื้อหาของเกม ก็อาจมีข้อมูลหรือเบาะแสอะไรเอาไว้ใช้ในอนาคตได้บ้างก็ได้

[**เบต้าเทสต์ คือช่วงการทดสอบระบบของเกมออนไลน์ก่อนออกวางจำหน่ายจริง เพื่อตรวจสอบ ปรับปรุง และแก้ไขจุดบกพร่องของระบบด้วยอาสาสมัคร/ผู้ทดสอบในจำนวนหนึ่ง]

เมื่อเขาเลือกฟัง เสียงนุ่มของผู้บรรยายก็ดังขึ้น พาเขาเข้าสู่เบื้องลึกของตำนาน ดึงอารมณ์ไปตามการขึ้นลงของเสียงนั้นทันที

“ก่อนที่ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์จะถูกจารึก ปรากฏมีดินแดนหิมพานต์ ที่เหล่าเทพเจ้าและสิ่งมีชีวิตพิศวงดำรงอยู่ท่ามกลางหมู่มวลมนุษย์ เหล่าอสูร นาคา กินรี วานร เทวดาอารักษ์ และอื่นๆ อีกมากมาย…”

เนื้อหาถูกเล่าด้วยภาพและเสียงที่น่าตื่นเต้น เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับดินแดนหิมพานต์ที่คล้ายดั่งในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ สิ่งมีชีวิตแต่ละเผ่าพันธุ์ต่างอยู่กันอย่างผาสุก แต่เมื่อวันคืนผ่านไป วัฏจักรต่างๆ ก็เกิดขึ้นไม่ต่างจากยุคปัจจุบัน

มีรุ่งเรือง

มีล่มสลาย

แต่ละเผ่าพันธุ์ต้องการพื้นที่ที่มากขึ้น เพื่อรองรับประชากรที่มากขึ้น เพื่อเฟ้นหาทรัพยากรที่มากขึ้น ที่ดีขึ้น และเมื่อแผ่นดินของตนเองเล็กเกินกว่าจะรองรับความปรารถนานั้นได้ จึงต้องเกิดการช่วงชิง!

และวันคืนแห่งสันติสุขก็แปรเปลี่ยนเป็นสงคราม

มนุษย์ ยักษ์ นาคา วานร และสัตว์วิเศษอีกหลากหลายสายพันธุ์ ต่างเข้าห้ำหั่นกันวันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า

ต่างฝ่ายต่างพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งร่วมมือ และหักหลังกัน

มีผู้ชนะ

มีผู้แพ้

สงครามจบลง สันติสุขกลับมา และเริ่มเกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง วนเวียนมิรู้จบ

จวบจนวันหนึ่ง

วันที่ทัพมนุษย์ และยักษ์ ม้วนตัวเองเข้าสู่ยอดคลื่นแห่งความตายอีกคำรบ และครั้งนี้ก็เป็นศึกที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าครั้งใดๆ

และมันได้ถูกจารึกไว้จนถูกเล่าขานในห้วงเวลาต่อมานานนับพันปี

ด้วยการนำทัพของราม กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งกรุงศรีอยุธยาทวาราวดี ผู้มีกายสีเขียวผ่อง ว่ากันว่าเป็นสมมติเทพผู้อวตารลงมาจากสรวงสวรรค์ มียอดขุนพลในสังกัดมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นหนุมาน วานรกายเผือก ผู้มีสี่หน้าแปดกร หาวเป็นดาวเป็นเดือน ยอดขุนพลเอกผู้ไม่เคยย่อท้อต่อการศึก

หรือลักษมณ์ พระอนุชาผู้เข้มแข็ง จอมทัพที่ช่วยรามเล่นศึกแทบทุกสมรภูมิ คว้าชัยชนะมานับครั้งไม่ถ้วน

จวบจนกระทั่งพิเภก หนึ่งในอสูรผู้แปรพักตร์ ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอย่างแม่นยำราวกับมีภูตเทพกระซิบบอก

แต่ถึงกระนั้น ฝ่ายตรงข้ามที่นำทัพด้วยจอมอสูร ทศกัณฐ์ เจ้าเมืองลงกาผู้มีสิบพักตร์ยี่สิบกร มีอิทธิฤทธิ์มากมายก็ไม่ได้ด้อยกว่ากัน เพราะก็มีวงศาคณาญาติที่เก่งกล้าสามารถ เพียบพร้อมไปด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ได้ประทานมาจากปวงเทพมากมาย

อินทรชิต ผู้ได้รับพรจากตรีมูรติ มีฤทธิ์แก่กล้า จนสามารถนำทัพไปพิชิตพระอินทร์มาแล้วครั้งหนึ่ง

กุมภกรรณ ผู้ถือครองหอกโมกขศักดิ์ อสูรที่ได้ชื่อว่าซื่อสัตย์ถือมั่นในความยุติธรรม ผู้ที่เคยพาลักษมณ์ลงไปเหยียบประตูมรณะที่ยมโลกจนเกือบสิ้นชีพด้วยหอกโมกขศักดิ์

ไมยราพ จอมทัพผู้มากด้วยเล่ห์กล กฤติยามนตร์อภินิหาร ที่ครั้งหนึ่งเคยลักตัวรามลงไปสู่บาดาลจนหนุมานต้องบุกน้ำลุยทะเลเดือด ฝ่าฟันเข้าไปชิงตัวองค์รามคืนมา

ไม่มีใครรู้ว่าต้นสายปลายเหตุของสงครามที่ว่า เป็นเพราะทศกัณฐ์หลงใหลในรูปโฉมโนมพรรณของสีดา จนต้องลักตัวนางไปไว้ที่ลงกานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่

หรือว่าแท้จริงแล้ว นั่นเป็นกลศึกของราม ที่ต้องการหาข้ออ้างในการเปิดสงครามบทใหม่ ช่วงชิงดินแดนจากเหล่ายักษ์

ทั้งสองทัพต่างโรมรันพันตูจนแผ่นดินลุกเป็นทะเลเพลิง ไฟสงครามลุกลามไปทุกหย่อมหญ้า เหตุเพราะต่างฝ่ายต่างกะเกณฑ์ไพร่พลเหล่าพันธมิตรเข้าร่วมในศึกครั้งนี้อย่างเต็มกำลัง

จวบจนวันนึง…

…วันที่สงครามจบลง

ทว่ากลับไม่ปรากฏนามของผู้กุมชัยชนะ หรือฝ่ายปราชัย

เหล่าพลพรรคยักษ์มาร มนุษย์ นาคา วานร ที่เคยร่วมรบ กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลงเหลือเพียงตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาปากต่อปาก

เรื่องต่อเรื่อง

ในนามของรามเกียรติ์ (เกียรติแห่งราม)

เพราะผลจากสงคราม พลังในตำนานเหล่านั้นจึงถูกกลบฝังลงไปพร้อมกับประวัติศาสตร์ และรอคอยผู้กล้าที่จะปลุกมันขึ้นมาอีกครั้ง

จงตามหาเรื่องราวที่แท้จริง ขุดค้นพลังอำนาจของเหล่าขุนศึกและจอมทัพที่ซุกซ่อนเอาไว้ ผ่านภารกิจอวตารเพื่อถือครองพลังอำนาจนั้นไว้ในมือให้จงได้

เพื่อทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดของทวีป และเตรียมพร้อมรับมหาศึกสงครามครั้งสุดท้าย

หากคุณคู่ควร จะสามารถได้รับพลังแห่งราม ผู้นำทัพของหมู่มวลมนุษย์

ครอบครองความแกร่งกล้าของหนุมาน บุตรแห่งพระพาย

หรือครองพลังอันไร้ขีดจำกัดแห่งทศกัณฐ์ จอมทัพเมืองลงกา

คุณเท่านั้นที่เลือกเอง!

จงแข็งแกร่งขึ้นเถิดนักเดินทาง!

มิฉะนั้นพวกเจ้าจะไม่มีแม้แต่แผ่นดินให้เหยียบย่าง!

………………..

เสียงและภาพบรรยายจบลง แต่ยังแฝงความรู้สึกสะท้อนก้องเข้าไปในจิตใจของเขา

น้ำเสียงช่วงสุดท้ายคล้ายกับจะเอ่ยเตือนให้ผู้เล่นรู้ตัวอยู่เสมอว่าโลกใบนี้มีกฎเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่พวกเขาต้องจดจำเอาไว้ในใจให้มั่น

ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด!

ดิ เอจ ออฟ อโพคาลิปส์ เป็นเกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก เพียงแค่คุณสวมหมวกเชื่อมประสาทแล้วล้มตัวลงนอน ระบบก็จะเชื่อมคลื่นสมองและดึงจิตสำนึกของคุณเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์เกม เปลี่ยนรูปแบบการเล่นเกมแบบเดิมๆ ของการจับเมาส์ถือจอย เป็นการรับรู้ผ่านสมองโดยตรง เสมือนว่าร่างกายของคุณเข้าไปอยู่ในเกมนั้นจริงๆ ได้เห็นโลกนั้นด้วยตาของตัวเอง ไม่ต้องจ้องผ่านจอสี่เหลี่ยมที่จืดชืดเช่นเคย

ก่อนมันจะวางขาย เกมเมอร์ทั่วโลกต่างรอคอยการมาถึงของมันอย่างตื่นเต้น คาดหวังที่จะได้เห็นเทคโนโลยีที่คล้ายจะหลุดออกมาจากโลกของนิยายด้วยดวงตาของตนเอง

ทว่าหลังจากที่พวกเขาเหล่านั้นได้เล่นดูก็พบว่า แทนที่มันจะถูกออกแบบให้ผู้เล่นทุกเพศทุกวัยสามารถเล่นได้ มันกลับมีความยากอย่างมหาศาล ทำให้หลังจากเปิดตัวเพียงอาทิตย์เดียว ก็ถูกชาวเน็ตทั่วโลกก่นด่าถล่มทลาย

นักวิจารณ์ เกมเมอร์ ต่างลงความเห็นด้านลบกันแทบทั้งสิ้น

ทำไมน่ะหรือ?

แม้ในเกมจะมีระบบทักษะ เวทมนตร์ และไอเทมต่างๆ ที่น่าดึงดูดใจ สัมผัสอันเสมือนจริง แต่ส่วนที่ทำให้ผู้คนทั้งโลกพร้อมใจกันชูนิ้วกลางให้ก็คือ มันไม่มีกฎป้องกันความรุนแรง ในเกมมีเพียงการป้องกันพื้นฐานอย่างเรื่องการป้องกันการอนาจารในที่สาธารณะ ลดระดับความเจ็บปวดบางส่วนเพื่อความปลอดภัยของสมอง หรือการป้องกันกันการมีเพศสัมพันธ์กันเท่านั้น แต่ส่วนที่กลับเหลือเปิดโอกาสให้ฆ่าฟันกันได้ตามสบาย

ในเกม ผู้เล่นสามารถกระทืบกันได้อย่างอิสระ ทำให้ช่วงอาทิตย์แรกหลังเปิดตัว มีผู้เล่นนับล้านคนผันตัวไปเป็นโจรฆ่าชิงทรัพย์กันอย่างโจ๋งครึ่ม

แม้หลังจากนั้นจะมีผู้เล่นมากมายเรียกร้องให้ปรับปรุงระบบป้องกันความรุนแรงขึ้นมา แต่ทางบริษัทเกมก็ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

แต่หลังจากเกมเปิดตัวมาได้หนึ่งเดือน ยอดขายที่ใครต่อใครคาดเดากันว่าจะดิ่งวูบราวกระโดดลงจากปากเหว กลับพุ่งขึ้นราวจรวด

สุดท้ายนักวิจารณ์จึงโยนความดีความชอบของเรื่องนี้ไปให้ระบบที่เป็นทั้งที่รักและที่ชังของตัวเกม

ระบบแลกเปลี่ยนเงินตรา

ผู้เล่นที่ออกล่าสัตว์อสูร หรือทำภารกิจสำเร็จ บางครั้งจะได้รางวัลเป็นเหรียญทอง ซึ่งทางบริษัทเกม จะยอมรับซื้อคืนในอัตรา 1 เหรียญทองต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ!

ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนสูงขนาดนี้ ก็ทำให้ ดิ เอจ ออฟ อโพคาลิปส์ กลายเป็นเกมที่ผู้เล่นทั้งรักทั้งเกลียดในเวลาเดียวกันไปในทันที

ทำให้ในที่สุดแล้ว ผู้เล่นที่หวังรวยจากการเล่นเกมจึงต้องกลืนน้ำลายกลับลงคอ แล้วเอาเวลาไปพัฒนาทักษะของตัวเอง เพื่อก้าวข้ามผู้เล่นคนอื่นๆ แล้วถีบตัวเองไปสู่จุดสูงสุดอยู่ตลอดเวลา

ยินดีต้อนรับนักอ่านทุกท่าน

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมตั้งใจนำเสนอและเตรียมการมานานมาก จึงหวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับมันนะครับ

ปล. มีข้อติชมอะไรก็พูดคุยมากันได้นะครับ _ ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

ผู้อ่านทุกท่านสามารถติดตามการอัพเดท รวมถึงพูดคุยเนื้อหาของนิยายเรื่องนี้กับนักอ่านท่านอื่นๆ ได้ที่เพจ Paraginosนะครับ

บทที่ ๒ สุ่มของรางวัล

เมื่อเสียงจากระบบเล่าเรื่องจบ ห้องสร้างตัวละครก็ค่อยๆ สว่างขึ้นเป็นแสงสีนวลตา ก่อนจะได้ยินเสียงผู้หญิงเสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้ง

“ผู้เล่นวิฬาร์ได้ฟังเรื่องราว ‘ตำนานแห่งหิมพานต์’ จนจบ ผ่านภารกิจลับหมายเลข 1 ผู้ตามรอยประวัติศาสตร์ ได้รับกล่องสุ่มของขวัญระดับ B เป็นของรางวัล

ผู้เล่นสามารถเปิดกล่องเพื่อสุ่มของรางวัลได้ภายในเกม

ได้รับรางวัลทักษะระดับ A ‘แปลภาษาโบราณ’ ระดับ 1

หากผู้เล่นเผยแพร่ข้อมูลการผ่านภารกิจลับ ของรางวัลที่ได้จะถือว่าเป็นโมฆะทันที”

พริบตานั้นในมือขวาของวิฬาร์ก็ปรากฏกล่องสีขาวสะอาดเดินลายด้วยดิ้นทองส่องประกายงดงามขนาดเท่ากำปั้นขึ้นมา

“มีภารกิจลับตั้งแต่ยังไม่เข้าเกม?” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสังเกตกล่องสีขาวบนมืออย่างสนใจ การใส่ภารกิจลับไว้ตั้งแต่เริ่มเกมทำเอาเขาอดคิดอย่างตื่นเต้นไม่ได้ว่าในเกมจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เพราะเขาได้ยินมาไม่น้อยว่าหลังจากเปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว เนื้อหาเกมมีการเพิ่มภารกิจ สถานที่ สัตว์อสูร และไอเทมมาอีกมากมาย ถึงจะได้ฟังเรื่องเล่าจากเพื่อนมาบ้าง แต่สิบปากว่าไม่เท่าหนึ่งตาเห็น สุดท้ายเขาจึงมาสัมผัสมันด้วยตัวเอง

“เตรียมพร้อมเข้าสู่เกมใน 3…2…1”

ทันทีที่เสียงนับถอยหลังเสร็จสิ้น ร่างเขาก็ถูกเคลื่อนย้ายมายังทุ่งหญ้าโล่งกว้างแห่งหนึ่งทันที

และเมื่อสูดลมหายใจแรกในเกมเข้าปอด วิฬาร์ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นและคุ้นเคยยิ่งกว่าครั้งก่อนที่เคยได้เล่นในช่วงเบต้าเทสต์ซะอีก

ความรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองเป็นปลา ที่ได้ว่ายกลับส่งสู่มหาสมุทรอันคุ้นเคย ความสดชื่นที่ชุ่มปอดแตกต่างไปจากโลกความจริงทำให้วิฬาร์พริ้มตาสัมผัสมันอย่างอิ่มเอม ก่อนที่จะค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกอย่างเชื่องช้า

เขาลองพลิกข้อมือขึ้นมาแล้วกำมือหลวมๆ พลางกำหนดสมาธิขึ้นหมายจะทดสอบอะไรบางอย่างที่ตั้งใจทำมาตั้งแต่ก่อนเข้าเกม และเพียงอึดใจเดียวก็เห็นระลอกคลื่นบางเบาก่อตัวขึ้นที่หมัดของเขาดังที่ตั้งใจ

เขามองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างยินดี ความรู้สึกที่สัมผัสได้ถึงเวทมนตร์ที่ชัดเจนมากขนาดนี้ทำให้เขาข่มความรู้สึกตื่นเต้นไว้ไม่อยู่

ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มปริศนาขึ้นมาพลางหัวเราะในใจ ก่อนจะละความสนใจจากละอองเวทมนตร์อ่อนจางที่หมุนวนอยู่รอบมือ จากนั้นจึงเริ่มสนใจทัศนียภาพรอบๆ ตัวแทน

“ยอดเยี่ยมจริงๆ!” ตอนนี้วิฬาร์กำลังดูการแสดงผลในเกมผ่านสายตาของตัวเอง ก่อนจะพบว่ามันแทบไม่ต่างจากโลกแห่งความจริงเลยแม้แต่น้อย แตกต่างจากในยุคก่อนที่ภาพจะออกแนวการ์ตูนมากกว่านี้

หนุ่มร่างสูงผมสั้นสีดำมองไปรอบตัวก็เห็นทุ่งหญ้าเขียวขจีพร้อมแนวคลื่นสีมรกตเป็นริ้วๆ เนื่องจากสายลมที่พัดโชยผ่านมา

ขนาดบนฟ้ายังมีก้อนเมฆลอยเอื่อยๆ ไม่ต่างจากโลกความจริงแม้แต่น้อย เดาได้เลยว่าระบบประมวลผลของเกมนี้ต้องสุดยอดมากแน่นอน

ความสมจริงระดับนี้นับว่าเกินความคาดหมายของเขาไปมาก ความสมจริงระดับนี้ทำเอาเขารู้สึกขนลุก

มันสมจริงมาก… มากจนเกินไป

แค่เกมเกมนึง กลับเอาทรัพยากรมาทุ่มเทเพื่อสร้างโลกเสมือนจริงที่แทบไม่ต่างจากโลกภายนอก แทนที่จะเอาไปทำอย่างอื่นที่อาจมีศักยภาพทางธุรกิจมากกว่านี้ ยิ่งขบคิดยังไง เขาก็ยิ่งเห็นว่าไม่สมเหตุสมผล

แม้ว่าเขาจะลองคิดดูเท่าไหร่ก็ยังไม่เข้าใจ สุดท้ายจึงปล่อยเรื่องนี้ออกจากหัวแล้วหันมาเล่นเกมอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก

หลังจากสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว วิฬาร์ก็มองซ้ายมองขวาหาเป้าหมายซ้อมมือทันที เขานั้นนับเป็นเกมเมอร์มือดีคนหนึ่งที่ชอบเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้ช่วงปีก่อนๆ เขาถึงกับได้รับเชิญให้เข้าร่วมการทดสอบเบต้าเทสต์ของดิ เอจ ออฟ อโพคาลิปส์พร้อมกับเกมเมอร์มือดีอีกนับแสนคนทั่วโลก

แม้ด้วยเทคโนโลยีในโลกปัจจุบันจะก้าวล้ำหน้าไปไม่น้อย แต่การเชื่อมต่อคลื่นสมองเข้ากับโลกเสมือนจริงยังนับว่าเป็นเรื่องที่ใหม่มาก

ความจริงเมื่อสี่ห้าปีก่อน เทคโนโลยีแบบนี้เพิ่งจะบูมขึ้นมาในวงการการแพทย์เท่านั้น

แต่แล้วจู่ๆ วันหนึ่ง บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้เป็นผู้นำในด้านการแพทย์ของโลก กลับประกาศกร้าวว่าจะสร้างสรรค์เกมออนไลน์ที่เคยมีเพียงในนิยายออกมาสู่โลกความจริง

นั่นทำให้ทั่วโลกตื่นตะลึงไปพร้อมๆ กับความบ้าคลั่ง เพราะหลายต่อหลายคนไม่เชื่อว่าเรื่องนี่จะเป็นไปได้

แต่แล้วมันกลับเป็นจริงขึ้นมา

หลายปีต่อมา ดิ เอจ ออฟ อโพคาลิปส์ เปิดให้ทดสอบระบบให้กับเกมเมอร์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นหมอ ทหาร วิศวกร นักกีฬา ศิลปิน เพื่อทดสอบการตอบสนองต่อทักษะ ภารกิจ และส่วนอื่นๆ ภายในเกม เก็บเป็นข้อมูลและใช้อัปเดตเกมให้พร้อมวางจำหน่ายในช่วงเวลาต่อมาได้ในที่สุด

และการที่เขาได้เล่นมาก่อนในช่วงทดสอบ นับว่าได้เปรียบผู้เล่นคนอื่นๆ ที่เพิ่งเคยสัมผัสเกมนี้เป็นครั้งแรกอย่างมหาศาล

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการได้มาของสกิลที่จำเป็น หรือความสามารถของสัตว์อสูรแต่ละชนิด ดันเจี้ยน* ไอเทมหรือวัตถุดิบแบบต่างๆ เขาก็เคยสัมผัสมาแล้ว

[*ดันเจี้ยน : สถานที่ปิดแห่งหนึ่ง ซึ่งภายในมักจะถูกออกแบบให้ผู้เล่นต้องฝ่าฟันอันตรายบางอย่างเพื่อพิชิตสัตว์อสูรที่อยู่ภายในไปจนจบเส้นทาง และจะได้รับของรางวัลในท้ายที่สุด]

และที่สำคัญ ในช่วงเบต้าเทสต์นั้น วิฬาร์และพรรคพวกสามารถช่วยกันให้เพื่อนสองคนได้ทำภารกิจลับที่ยากมากอันหนึ่งด้วย

ภารกิจพิชิตร่างอวตาร

ภารกิจนี้คือภารกิจหลักที่ผู้เล่นทุกคนในเกมต่างใฝ่ฝันจะทำให้สำเร็จ เพราะพลังอำนาจที่จะได้รับเมื่อทำภารกิจนั้น แทบจะทำให้ผู้เล่นคนนั้นทะยานเข้าสู่อันดับต้นๆ ของเกมได้อย่างง่ายดาย

เพราะสิ่งที่จะได้รับในภารกิจคือร่างอวตารและความสามารถของเจ้าของร่างนั่นเอง

ถ้าเป็นคุณล่ะ อยากจะอวตารเป็นใคร?

ผู้หยั่งรู้เหตุการณ์ สามารถพยากรณ์ความเป็นไปในโลกหล้าของพิเภก เทพโหรา

หรือผู้สยบองค์อินทรา อินทรชิต ผู้ครอบครองศรของตรีมูรติทั้งสาม

แม้แต่หนึ่งในตัวละครเอก บุตรแห่งสายลม ยอดขุนพลเช่นหนุมาน พญาวานรกายเผือก มีตรีเพชรเป็นอาวุธ สามารถใช้หนึ่งต้านพันได้โดยไม่เพลี่ยงพล้ำ

หรือผู้เป็นจอมทัพแห่งอยุธยาอย่างราม ที่เคยกรีธาทัพขยี้ลงกามาแล้วครั้งหนึ่ง

หรือสุดท้าย ผู้เล่นอาจจะอยากเป็นจอมอสูร ศัตรูที่ร้ายกาจ จอมทรราชผู้มีสิบพักตร์ยี่สิบกร กษัตริย์แห่งลงกา ผู้ก่อมหาสงครามแห่งเผ่าพันธุ์

ทศกัณฐ์

แต่ไม่ว่าภารกิจพิชิตร่างอวตารของยอดคนในตำนานคนใด ความยากของภารกิจนี้ ก็โหดหินตั้งแต่เริ่มแรก อีกทั้งร่างอวตารของแต่ละร่างยังมีเพียงหนึ่งเดียวในเกม และหากใครได้มันไปแล้ว ก็ไม่อาจช่วงชิงกลับมาได้ จึงทำให้ผู้เล่นทุกคนต่างพยายามไขว่คว้าหาเส้นทางที่จะเปิดภารกิจร่างอวตารให้ได้สักร่าง

ส่วนที่ยากก็คือผู้เล่นต้องแสวงหาจุดเริ่มต้นของภารกิจเพื่อเปิดเส้นทางการครอบครองร่างอวตาร ซึ่งมันเป็นปริศนาที่จะซ่อนอยู่ในที่ใดก็ได้ในเกม ต่อจากนั้นเมื่อเปิดภารกิจได้ ก็จะได้ครอบครองพลังส่วนหนึ่งของร่างอวตาร และจากนั้นก็ต้องไล่ล่าตามหาเส้นทางเพื่อบรรลุภารกิจขั้นต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่ออัปเกรดความสามารถ จนกระทั่งสำเร็จภารกิจ จึงจะได้รับร่างอวตารนั้นมาครอบครองอย่างสมบูรณ์

วิฬาร์เองแม้ในตอนนั้นจะไม่ได้รับร่างอวตาร แต่ก็อยู่ในเหตุการณ์สองครั้งที่เพื่อนของเขาเปิดภารกิจพิชิตร่างอวตารได้ จึงพอรู้ข้อมูลบางส่วนมาบ้าง

ในครั้งนั้น กลุ่มเพื่อนของเขาสามารถเปิดภารกิจพิชิตร่างอวตารของขุนศึกผู้หนึ่งแห่งกองทัพอยุธยาและจอมทัพแห่งเผ่ายักษ์อย่าง สุครีพ และ ไมยราพ ได้ และนั่นก็ทำให้ทั้งเขาและพรรคพวกต่างรู้ดีว่า การได้ครอบครองร่างอวตารสักร่างหนึ่ง จะสามารถเพิ่มศักยภาพได้มากขึ้นถึงขนาดไหน

ทว่า หลังจากการทดสอบระบบจบลง วิฬาร์กลับติดธุระสำคัญที่ลากยาวไปปีกว่าเพื่อทำหน้าที่กองหนุนให้กับระบบกิลด์ของพวกเขาในเกม ทำให้เขาพลาดโอกาสขึ้นนำการเล่นเกมช่วงวางจำหน่ายจริงในเวลาเดียวกับคนอื่น

นอกจากนี้หลังจากเปิดบริการ ตัวเกมได้ปรับให้เวลาในเกมเร็วกว่าโลกจริงถึงห้าเท่า ก็ยิ่งขยายความเหลื่อมล้ำมากขึ้นไปอีกช่วงใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นวิฬาร์ก็ยังมั่นใจอย่างที่สุดว่า ความรู้ที่เขามีในช่วงทดสอบระบบ ยังคงทำให้เขาสามารถก้าวผ่านผู้เล่นทั่วไปในเกมนี้ได้ย่างสบายๆ

“ถูกทิ้งห่างขนาดนี้ คงต้องขยันขึ้นหน่อยแล้ว” เขาติดต่อเพื่อนเอาไว้ตั้งแต่ข้างนอกเกมเพื่อเตรียมนัดเจอกัน แม้ว่าพวกนั้นจะสามารถมารับเขาได้ที่เมืองเกิดตั้งแต่เริ่ม แต่ยังไงซะนี่ก็เป็นเกมเกมนึงที่เขาชอบเล่น จึงคิดอยากออกเดินทางด้วยตัวเองมากกว่า สุดท้ายเลยตัดสินใจนัดเจอกันที่เมืองอื่นแทน

และทันทีที่พบว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในทุ่งหญ้าเขียวขจีสบายตา วิฬาร์ก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วพึมพำในใจ เพราะดูเหมือนว่าเขาจะมาเกิดที่เมืองเริ่มต้นอื่น ที่ไม่ใกล้กับเมืองที่เพื่อนๆ เขาอยู่สักเท่าไหร่

หลังจากดูซ้ายแลขวาแล้ว เขาก็นึกถึงกล่องสุ่มไอเทมระดับ B ที่ยังไม่ได้เปิดอยู่กล่องนึง ไหนๆ แล้วก็เอาออกมาใช้เลยแล้วกัน

เขาคว้ากล่องออกมาจากหน้าต่างของระบบ แล้วเลือกคำสั่งเปิด ก็เห็นว่ามีรายการประเภทของขวัญให้เลือกเด้งขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือก ไอเทมเครื่องแต่งกาย อาวุธ ทักษะ เงิน ฯลฯ เขาไล่สายตาดูประเภทที่น่าสนใจอยู่สองสามรอบ ก่อนจะตัดสินใจได้

“เลือกสุ่มประเภท สัตว์เลี้ยง”

“ผู้เล่นวิฬาร์ เลือกสุ่มของขวัญระดับ B ประเภทสัตว์เลี้ยง …ทำการสุ่ม”

กล่องสีขาวลายทองส่องประกายวิบวับอยู่เพียงเล็กน้อย ก่อนจะหายไป เผยให้เห็นไข่สีแดงเพลิงฟองหนึ่ง

“ผู้เล่นวิฬาร์ ได้รับไข่สัตว์อสูรปริศนา ระดับ B”

ไข่สัตว์อสูรขนาดใหญ่เกือบเท่าลูกบาสเกตบอลปรากฏขึ้นบนพื้นหญ้าตรงหน้าเขา

หลังจากอุ้มไข่ขึ้นมาสำรวจ วิฬาร์ก็รีบเปิดรายละเอียดของไข่ออกมาดูอย่างตื่นเต้น เพราะหวังเป็นอย่างยิ่งว่าน่าจะได้สัตว์อสูรตัวที่มีความสามารถสูงมาเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ก็กลับพบกับข้อความที่ชวนให้เซ็งจิตทันที

‘ไข่ต้องใช้เวลาในการฟักตัว 49 วัน’

เขาถอนหายใจดังเฮ้อ แล้วเอามันยัดกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างฉุนเฉียว ดูเหมือนว่าของขวัญชิ้นนี้ คงต้องรออีกสักสองเดือน ถึงจะได้ยลโฉมมันจริงๆ

“เอาเถอะ ตอนนี้มาหาอะไรทำไปก่อนแล้วกัน” ถึงจะหงุดหงิดไป ไข่มันก็ไม่ฟักตัวเร็วขึ้นแม้แต่วินาทีเดียว เขาเลยคว้ามีดที่ระบบให้ออกมาแล้วหาอย่างอื่นทำแทน

การตีสัตว์อสูร

วิธีการเพิ่มความแข็งแกร่งระดับพื้นฐานที่สุดของการเล่นเกม

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น