โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ลิขิตจากฟ้า หรือ ศรัทธากำหนด? รู้จัก “ม้าทรง” คนแทงปาก ตัวแทนเทพเจ้าในเทศกาลกินเจ

LINE TODAY

เผยแพร่ 30 ก.ย 2562 เวลา 10.08 น. • nuchthawat_p

*คำเตือน ภาพประกอบในบทความนี้อาจทำให้ผู้อ่านบางท่านรู้สึกหวาดเสียว สำหรับเด็ก ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ

ภาพชายและหญิงที่ใช้เหล็กแหลมหรือศาสตราวุธทิ่มแทงร่างกายตัวเองร่วมเดินขบวนแห่รอบเมือง เป็นส่วนหนึ่งของประเพณี “เทศกาลกินเจ” หรือ “เทศกาลกินผัก” (เจี๊ยะฉ่าย) ในจังหวัดภูเก็ต ส่วนใหญ่จะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุก ๆ ปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 29 กันยายน - 7 ตุลาคม 

โดยเทศกาลกินผักเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่หมู่บ้านไล่ทู หรือ หมู่บ้านกะทู้ ของจังหวัดภูเก็ตในปัจจุบัน ทั้งนี้ คนไทยเชื้อสายจีนมีความเชื่อและศรัทธาในเรื่องเทพเจ้าที่คุ้มครองประจำหมู่บ้าน จึงได้มีการอัญเชิญเทพเจ้ามาคุ้มครอง ให้อยู่เย็นเป็นสุขโดยทั่วกัน ผ่านตัวกลางอย่างสื่อบุคคลที่เรียกว่า “ม้าทรง” นั่นเอง

จากพิธีกรรมทรมานตนของม้าทรงด้วยวิธีต่าง ๆ นานา เป็นต้นว่าใช้เหล็กแหลมแทงทะลุกระพุ้งแก้ม เดินลุยไฟ หรือปีนบันไดมีด ทำให้หลายคนอาจยังคลางแคลงใจว่า ม้าทรงนั้นมีเทพเจ้าประทับอยู่ในร่างจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงกลหลอกตาที่ใช้เทคนิคของการแสดงมายากลเข้าช่วย 

เหล่านี้ยังคงเป็นปริศนาที่ยากจะหาเหตุผลในเชิงวิทยาศาสตร์มาอธิบายปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้!

“ม้าทรง” คือใคร?

"ม้าทรง" เป็นร่างทรงของเทพเจ้าจีน เป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของเทพเจ้าเพื่อช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากหรือกำลังเดือดร้อน เช่น คนป่วยหนักด้วยโรคร้าย คนที่กำลังดวงตกอย่างสาหัส พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก หรือคนที่กำลังมีปัญหาด้านจิตใจ 

บางความเชื่อถูกบอกเล่าสืบทอดกันมาว่า ผู้ที่จะเป็นม้าทรงได้นั้น พระจีนหรือเทพเจ้าจะเลือกสรรจากบุคคลที่ชะตาใกล้จะขาด ทว่ายังมีคุณงามความดีอยู่ในตัว เทพเจ้าจึงลงมาประทับร่างบุคคลนั้นเพื่อต่ออายุขัยให้ยืนยาวออกไป 

ดังเช่น คุณสถาพร พรหมชัย-ม้าทรงประจำศาลเจ้าท่าเรือ ที่ตอนอายุ 17 ปี เคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนเกือบถึงแก่ชีวิต แต่กลับรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์เนื่องจากพระจีนได้ลงมาประทับร่างต่อชีวิตเขาไว้ตามคำบอกเล่าของญาติ 

โดยมีเงื่อนไขว่านับแต่นี้ไปเขาจะต้องถือศีลกินเจและเข้าร่วมในพิธีกรรมงานประเพณีถือศีลกินผัก

ทำไม “ม้าทรง” ต้องเอาของมีคมแทงปาก แทงตัว?

ว่ากันว่า "ม้าทรง" จะมีการแสดงบุคลิกลักษณะของเทพเจ้าแต่ละองค์ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป การแสดงอิทธิฤทธิ์เมื่อเข้าทรงแล้ว บางครั้งก็จะคว้าอาวุธออกมาร่ายรำ ฟาดฟัน ทิ่มแทงร่างกายตนเอง โดยผู้ที่เป็นม้าทรงจะไม่รู้สึกตัว ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด 

เหตุที่ม้าทรงต้องแสดงอิทธิฤทธิ์นั้นเนื่องจากมีความเชื่อว่ามนุษย์นั้นสอนยาก เทพเจ้าจำต้องสำแดงอิทธิฤทธิ์เพื่อสร้างความเชื่อความศรัทธา และเมื่อมนุษย์ศรัทธาในตัวม้าทรง ก็จะปฏิบัติตามคำสอนต่าง ๆ ที่มีพื้นฐานมุ่งหมายสอนคนให้เป็นคนดี 

นอกจากนี้ การทรมานตนของม้าทรงยังถือเป็นการช่วยเหลือมนุษย์ โดยเชื่อว่าเป็นการรับเคราะห์แทนประชาชนที่มาร่วมพิธีกรรมนั่นเอง

ทำไม “ของ” ที่นำมาแทงร่างกายของ “ม้าทรง” จึงมีความหลากหลาย?

ในอดีตม้าทรงจะใช้เข็มขนาดย่อมหรือตะขอแทงตามร่างกาย ขณะที่ปัจจุบันเรามักจะเห็นว่ามีการใช้เหล็กแหลมขนาดใหญ่ยาวมาแทงปากหรือบางครั้งอาจเป็นวัตถุแปลกตาเหนือความคาดหมาย เช่น ปืน จักรยาน อมยิ้มขนาดใหญ่ ฯลฯ เนื่องจากมีชาวบ้านนำของนั้นมาถวายแก้บนกับเทพเจ้า ส่งผลให้ม้าทรงต้องยอมรับวัตถุเหล่านั้นไปใช้ประกอบพิธี 

อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่จะละเลยไม่ได้เลยคือเรื่องสุขอนามัย เมื่อใกล้ถึงเทศกาลกินผัก ศาลเจ้าต่าง ๆ จะมีการนำอาวุธหรือวัตถุที่จะใช้แทงตามร่างกายมาทำความสะอาด โดยการใช้กระดาษทรายขัดสนิมออก จากนั้นนำแอลกอฮอล์มาล้างฆ่าเชื้อ พร้อมชโลมด้วยน้ำมันพืชเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสนิมซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้ทำหน้าที่ม้าทรง

“ม้าทรง” ที่ดี ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?

ก่อนเทศกาลถือศีลกินผักจะเริ่มขึ้น ม้าทรงจะต้องเตรียมกายและใจให้พร้อม ด้วยการถือศีลกินเจล่วงหน้า 1 เดือน ต้องรักษาศีลอย่างเคร่งครัด ถ้าเป็นม้าทรงหญิง หากอยู่ในช่วงมีประจำเดือนจะห้ามทรงเด็ดขาด 

ที่สำคัญ การเป็นม้าทรงนั้นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากเทพเจ้ามาประทับร่างทรง จะต้องเป็นผู้ที่ถูกเทพเจ้าเลือกไว้แล้วเท่านั้น มิใช่ว่าใครจะเป็นก็ได้!

เคยมี “ม้าทรง” พลาด บาดเจ็บ หรือถึงแก่ความตายหรือไม่?

คำตอบคือ “มี” บางรายเคราะห์ดีแค่เลือดโทรมกาย บางรายถูกไฟลวกตามร่างกาย บางรายหนักกว่านั้น เช่นเหตุการณ์หนึ่งใน จ.ระนอง ที่จู่ ๆ ม้าทรงก็ทิ้งตัวจากบันไดมีดสูงกว่า 10 เมตร ลงมาเสียชีวิต 

ลักษณะนี้เชื่อกันว่าเป็นอาการของการ “ถูกเจ้าทิ้ง” หรือ “ถอยทรงกลางอากาศ” ซึ่งคนในวงการม้าทรงจะเข้าใจกันว่า ร่างม้าทรงดังกล่าวอาจไปกระทำผิดคำพูด ผิดสัจจะวาจา หรืออาจจะไปกระทำอะไรบางอย่างที่ไม่ดี หรือไม่ถูกต้องตามหลักปฏิบัติของร่างม้าทรงจนถูกเจ้าทิ้งกลางอากาศ

คำกล่าวที่ว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ยังคงใช้ได้ในทุกยุคทุกสมัย ความลี้ลับของ “ม้าทรง” ในเทศกาลกินผักยังคงทำหน้าที่ต่อไป ตราบเท่าที่ลมหายใจของวัฒนธรรมที่มีชีวิตอยู่ (lived culture) ยังคงไหลเวียนเข้าออกผ่านวิถีชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีน

อ้างอิง:

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 60

  • ทํา บุญ กุศลกลับ พ่อแม่ ประเสริฐสุด ไม่จําเป็นต้องเข้าวัด ไม่ต้องกินเจ
    30 ก.ย 2562 เวลา 12.10 น.
  • r-taung
    เคยมีคนเอามาออกรายการทีวีนี้ว่าไม่จริง มีการฉีดยาชาเเล้วทำ บางคนทำเเเรงไปพราะอยากเก่ง พอยาชาหมดเเทบตาย
    30 ก.ย 2562 เวลา 12.51 น.
  • ไร้สาระงมงายควายมันยังไม่เชื่อเลย
    30 ก.ย 2562 เวลา 12.50 น.
  • มาแล้วรวมกลุ่มกันส่ายหน้า
    30 ก.ย 2562 เวลา 11.11 น.
  • โจ บารมี ครับ
    มั่ว
    30 ก.ย 2562 เวลา 12.31 น.
ดูทั้งหมด