สืบเนื่องจาก พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 52) ปี พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 19 พ.ค. 2562 ซึ่งกำลังจะมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. เป็นต้นไป ได้มีการแก้ไขปรับปรุงการเก็บภาษีจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่ผ่านกองทุนรวม และมีการเปลี่ยนแปลงประเภทเงินได้ตามกฎหมาย
ซึ่งจากประกาศนี้ จะมีผลกระทบต่อนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมก็คือ
กรณีที่ 1 : กรณีนักลงทุน ลงทุนในกองทุนรวมทุกประเภท (ยกเว้น RMF และ PVD) ที่มีการฝากเงิน หรือ ลงทุนในตราสารหนี้ จะถูกหักภาษี 15% ของดอกเบี้ย หรือ ส่วนลดรับ ที่กองทุนรวมได้รับจากผู้ออก โดยจะเป็นการหักภาษีตั้งแต่ต้นทางก่อนจะจ่ายดอกเบี้ย หรือผลกำไรส่วนต่างจากส่วนลดรับ แล้วนำเงินผลประโยชน์เข้ามาให้กองทุน
ดังนั้น ในแง่ของ Operation Process จึงถือว่า ไม่มีผลกระทบต่อนักลงทุนแต่อย่างใด แต่ในแง่ของผลตอบแทนจากการลงทุน จะทำให้ ผลตอบแทนคาดหวังใครที่ลงทุนในกองทุนรวมที่มีการลงทุนในเงินฝาก หรือ ตราสารหนี้ หลังจากนี้จะปรับตัวลดลง ตามสัดส่วนที่กองทุนไปลงทุนเพราะต้องถูกหักภาษี 15% ทันที
…ยังไม่หมดครับ มีอีก 1 ประกาศ
ก็คือ คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 ซึ่งในเนื้อหา มีคำสั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4)(ข) (ซึ่งคือ เงินปันผล และ เงินส่วนแบ่งของกำไร) มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายสำหรับเงินปันผลที่จ่ายออกจากกองทุนรวมทุกประเภท ยกเว้นก็เพียงกองทุนรวมตราสารหนี้
ผลกระทบต่อนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมก็คือ
กรณีที่ 2 : กองทุนรวมทุกประเภท (ยกเว้น กองทุนรวมตราสารหนี้) กรณีที่กองทุนรวมมีการจ่ายปันผลให้บุคคลธรรมดา ซึ่งรายได้ตรงนี้ เป็นรายได้มาตรา 40(4)(ข) จะถูก บลจ. หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 10% ของจำนวนเงินปันผลที่นักลงทุนได้รับในทุกกรณี ตามคำสั่งกรมสรรพากร ทั้งนี้ ถึงแม้ท่านจะเลือกไม่ให้ บลจ. หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้ ทาง บลจ. ก็จำเป็นต้องหักภาษีดังกล่าว ทั้งนี้ ยังคงสิทธิของนักลงทุนในการเลือกว่า เงินปันผลที่ได้รับ จะนำไปรวมคำนวนหรือไม่รวมคำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาก็ได้
สาเหตุที่ยกเว้น กองทุนรวมตราสารหนี้ ก็เพราะจะถูกหักภาษี 15% ไปแล้วตั้งแต่ต้นทางจากกรณีที่ 1
การเปลี่ยนแปลงนี้ จะมีผลกับการลงทุนในกองทุนรวมทั้งระบบ ทุก บลจ. ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. 2562 เป็นต้นไปครับ
สรุปตามนี้ครับ
กองทุนรวมหุ้น ที่มีนโยบายจ่ายปันผล - เงินปันผลที่ได้ นักลงทุนถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายทันที 10% โดยไม่มีข้อยกเว้น
กองทุนรวมหุ้น ที่มีนโยบายไม่จ่ายปันผล - ไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากประกาศนี้
กองทุนตราสารหนี้ ที่มีนโยบายจ่ายปันผล - ไม่ถูกหักภาษี ที่จ่าย 10% ตอนจ่ายปันผล แต่ถูกหักภาษี 15% ตั้งแต่ได้ผลตอบแทนจากตราสารต้นทาง
กองทุนตราสารหนี้ ที่มีนโยบายไม่จ่ายปันผล - ดอกเบี้ย และส่วนลดรับ จะถูกหักภาษี 15% ตั้งแต่ได้ผลตอบแทนจากตราสารต้นทาง
กองทุนรวมผสม ที่มีนโยบายจ่ายปันผล – ในส่วนที่ผู้จัดการกองทุนจัดสรรเงินลงทุนไปลงทุนในตราสารหนี้ หรือ เงินฝาก ดอกเบี้ยหรือส่วนลดรับที่กองทุนได้จากผู้ออกตราสาร จะถูกหักภาษี 15% และถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายอีก 10% ตอนจ่ายปันผลให้นักลงทุน
กองทุนรวมผสม ที่มีนโยบายไม่จ่ายปันผล - ถูกหักภาษี 15% ตั้งแต่ได้ผลตอบแทนจากตราสารต้นทาง (เฉพาะส่วนที่ลงทุนในเงินฝาก และตราสารหนี้)
แต่ทั้งนี้ ก็มีข้อถกเถียงกันอยู่นะครับ กรณีการลงทุนในกองทุนรวมผสมที่มีนโยบายจ่ายปันผล ว่า ไม่ควรหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% อีกครั้งหรือเปล่า เพราะเป็นการเก็บภาษีซ้ำซ้อน ผิดหลักการภาษี ประเด็นนี้ ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ดังนั้น แนะนำนักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนรวมผสมอยู่ ณ ปัจจุบัน หรือ คิดจะลงทุนในอนาคตหลังวันที่ 20 ส.ค. 2562 เป็นต้นไป แนะนำว่า หลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อน ถ้าไม่อยากโดนเก็บภาษี 2 ต่อ ไม่งั้น ผลตอบแทนที่ได้ โดนภาษีกินไปหมดครับ ไม่คุ้มกับที่เสี่ยงลงทุนไป
แหล่งที่มา :- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/P…/2562/A/067/T_0103.PDF https://www.rd.go.th/publish/3479.0.html
Mr.Messenger รายงาน
ความเห็น 51
Jeab 🍀
BEST
ตลกดี ชอบมาหักภาษีกับคนที่ออมเงิน แต่เอาไปปรนเปรอระบบประชานิยมเต็มไปหมด ทั้งเที่ยวทั้งกินแจกเพลินเลยนะ เพลีย
14 ส.ค. 2562 เวลา 14.18 น.
Benz [ベンツさん] (1616)
BEST
เก็บภาษีซ้ำซ้อน ผิดหลักการเก็บภาษี ยังไม่มีข้อสรุป งง กับการบริหารจัดการ ภาษีเงินได้ รายได้จากการทำงาน ซื้อสินค้า กองทุนเสียภาษี เงืนออมเสียภาษี สรุปปล้นเอาเงินจากน้ำพักน้ำแรงไปหมดเลย ไปแจกฐานเสียง คนทำงานแทบตาย ไม่ต้องทำงานล่ะไปเอาบัตรแทนดีกว่า ไม่ต้องเหนื่อย
14 ส.ค. 2562 เวลา 16.01 น.
ศตพนธ์ รื่นเกษม
BEST
จ้องแต่หาทางขูดรีดภาษีจริงๆ
14 ส.ค. 2562 เวลา 14.41 น.
👿@Narawan@😈
รอยหยักสมอง มีไม่พอ หาทางออกเพื่อชาติ ไม่เป็น เลยต้อง ขูดรีดคนกันเอง กินกันต่อไป .. เจริญต่อไป ปทท.
14 ส.ค. 2562 เวลา 15.16 น.
สรุปแล้วเก็บเงินไว้ที่บ้านเฉยๆดีกว่าา
14 ส.ค. 2562 เวลา 15.56 น.
ดูทั้งหมด