รู้ไว้ไม่เสียหาย..การป้องกันใบสั่งจากกล้องจราจรส่งตรงถึงบ้าน

หลายวันก่อนได้ยินข่าวคนใช้รถใช้ถนนโอดครวญเรื่องโดนใบสั่งจากกล้องจราจร 9 ใบซ้อนในเวลา 2 เดือน ซึ่งทุกใบมาจากข้อหาเดียวคือขับรถเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนด เจ้าของรถถึงกับอึ้ง!! เพิ่งรู้ว่าถนนแต่ละสายต้องใช้ความเร็วที่เหมาะสมต่างกัน ทำให้ขับ ๆ อยู่ดี ๆ กลายเป็นดาราหน้ากล้องจราจรซะงั้น

ถนนบ้านเราแบ่งเป็นหลายประเภท ทั้งทางหลวง ทางหลวงชนบท ทางหลวงพิเศษ แถมทางแต่ละประเภท รถแต่ละประเภทก็จำกัดความเร็วต่างกัน เพราะฉะนั้นจะให้ผู้ขับขี่ท่องความเร็วที่กฎหมายกำหนดจนขึ้นใจก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นเลือกจำที่เป็นเบสิกและไม่ทำให้เราต้องมีใบสั่งจากกล้องจราจรส่งตรงมาถึงที่บ้านมาก็พอ

อย่างรถยนต์ รถเก๋งธรรมดา ถ้าขับรถในเมืองต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม. ต่อ ชม. นอกเมืองไม่เกิน 90 กม. ต่อ ชม. ทางด่วนทุกขั้นแบบเซฟตี้สุด ๆ ต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม. ต่อ ชม. ส่วนมอเตอร์เวย์ไม่เกิน 120 กม. ต่อ ชม. ได้เลย แต่อย่าลืมว่าอัตราความเร็วที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดคือไม่เกิน 80 กม. ต่อ ชม. ซึ่งถ้าผู้ขับขี่ใช้ความเร็วระดับนี้ก็จะทั้งปลอดภัยจากอุบัติเหตุและไม่ต้องกังวลว่าจะมีใบสั่งมารบกวนอย่างแน่นอน

ส่วนใครที่กำลังคิดว่าใบสั่งจากกล้องจราจรไม่มีความหมาย ขอให้รีบเปลี่ยนความคิดในบัดดล เพราะหลังจากที่ คสช. ออก ม.44 แก้ปัญหาความปลอดภัยรถโดยสารและคุมเข้มวินัยจราจร ในกรณีการออกใบสั่งรถยนต์ทั่วไป จะมีผลตั้งแต่ใบสั่งที่ออกตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. 2560 เป็นต้นไป หากได้รับใบสั่งและไม่เสียค่าปรับจะไม่สามารถต่อภาษีได้ตามปกติ เนื่องจากจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะต้องชำระค่าปรับให้เรียบร้อยก่อนจึงจะต่อภาษีและทะเบียนได้ตามปกติ

เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้มีใบสั่งส่งตรงถึงบ้าน ก็ควรขับรถด้วยความเร็วที่กฎหมายกำหนด จะได้ไม่เป็นปัญหากับขั้นตอนการชำระค่าปรับ การต่อภาษีและทะเบียนรถ