โดย @mint.nisara
ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าการมีงานทำเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราอยู่ในยุคสมัยที่เงินเป็นสื่อกลางของทุกอย่าง งานบันดาลเงิน และเงินก็บันดาลสุขให้กับเราได้ งานเลยเป็นของสำคัญยิ่งชีพที่ใคร ๆ ก็ต้องใฝ่หาและรักษาเอาไว้ให้ดี
แต่ถ้าอีกแง่ของการทำงานทำให้เรารู้สึกบั่นทอนในทุก ๆ วันล่ะ คนรอบตัวก็มัวแต่จะเอาเปรียบจนการทำงานกลายเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจและน่าเหนื่อยหน่าย เราขอแนะนำเลยว่า “เปลี่ยนเถอะ” แต่ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังไม่ค่อยแน่ใจว่าสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่อันตรายระดับไหน เราขอบอกไกด์เป็น 4 สัญญาณที่ควรเอาไปดักจับดูว่างานที่ทำอยู่ ‘คู่ควร’ กับคุณหรือเปล่า
สัญญาณที่ 1 : วันจันทร์อีกแล้ว..ไม่อยากไปทำงานเลย
เข้าใจได้ว่าคนทำงานทุกคนหวงแหนช่วงเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ยิ่งกว่าอะไร และเป็นปกติที่พอวันอาทิตย์กำลังจะจบลง วันจันทร์กำลังจะเขยิบมาถึง เราจะต้องมีความรู้สึกโอดครวญกับตัวเองเบา ๆ ว่า “ขี้เกียจไปทำงานจัง”
โอเคนะ ถ้าอาการนี้เกิดขึ้นแบบจาง ๆ บ่นแป๊บ ๆ พอเห็นกองงานอยู่ที่โต๊ะกับเดดไลน์บนปฏิทินก็สามารถมีไฟปั่นให้เสร็จได้ แต่ เมื่อไรก็ตามที่คุณรู้สึกว่าไม่อยากตื่นไปทำงานในทุก ๆ เช้า รู้สึกว่าการมาออฟฟิศคือการเอาเวลาไปนั่งหายใจทิ้งวัน ๆ รู้สึกไม่มีจุดหมายปลายทางหรือมีเป้าหมายเอาไว้ชาเลนจ์ตัวเอง อาจเป็นเวลาอันดีที่ควรคิดเรื่องเปลี่ยนงาน ก่อนที่ไฟในตัวจะหมดไป
สัญญาณที่ 2 : อยู่มา 5 ปีแล้ว และก็ยังอยู่ที่เดิม
เวลาหลายปีและแรงกายแรงใจที่ทุ่มให้เต็มที่กับการทำงาน เป็นใครก็คงคาดหวังผลลัพธ์เป็นความก้าวหน้าในสายงานหรือการเติบโตในแนวตั้ง ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกท์ใหม่ ๆ ที่ได้รับผิดชอบ ตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือเงินเดือนและโบนัสที่มากขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่คอยเติมไฟให้กับคนทำงาน ซึ่งถ้าหากขาดหายไป มันจะทำให้เกิดคำถามทันทีว่าฉันทำบกพร่องไปตรงไหน..
หากคุณมั่นใจว่าคุณทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดแล้ว และยังคงมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองในองค์กรที่ทำอยู่ อาจจะเป็นเวลาที่คุณต้องหางานใหม่ซะแล้วแหละ ที่ ๆ เห็นคุณค่าของผลงานและความทุ่มเท และเป็นที่ ๆ ให้ความสำคัญกับการเติบโตของพนักงาน
สัญญาณที่ 3 : งานซ้ำซาก ไม่ได้มีอะไรใหม่ให้เรียนรู้
ไม่ใช่แค่ตัวเงินกับสวัสดิการพนักงานที่เราควรได้รับในขั้นพื้นฐานจากการทำงาน การพัฒนาตัวเองและสกิลใหม่ ๆ ที่ได้เรียนรู้ควรจะเป็นอีกสองอย่างที่ควบคู่มากับจำนวนชั่วโมงที่เราเสียไปให้กับงานด้วย
ลองถามตัวเองดูสิว่า “งานที่ฉันทำอยู่ให้อะไรกับฉันบ้าง” มันทำให้คุณคิดได้รอบด้านมากขึ้นไหม มันทำให้คุณสามารถแก้ปัญหาเรื่องต่าง ๆ ได้ดีขึ้นหรือเปล่า คุณได้รับทักษะอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำได้จากงานนี้หรือไม่ หากงานของคุณไม่ตอบโจทย์ ถ้าคำตอบของคุณคือการเบะปากและบอกว่างานของฉันมันช่างซ้ำซากจำเจ นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่กำลังบอกคุณว่า “หางานใหม่ได้แล้ว” ก็ได้
สัญญาณที่ 4 : เจ้านายงี่เง่า ไม่มีเหตุผล เพื่อนร่วมงานจ้องจะเอาเปรียบ
นอกจากตัวงานแล้ว ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้งานนั้นเป็นงานที่ดีหรือแย่ก็คือคนที่แวดล้อมตัวเรา ถ้าคุณต้องมานั่งกลุ้มใจเรื่องเจ้านายที่ไร้เหตุผล มีความเป็นผู้นำแบบผิด ๆ ใช้อำนาจและอารมณ์อย่างเดียว หรือถูกเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยกันโดยตรงเอาเปรียบอยู่ทุกวี่ทุวัน ทางออกคือไม่ต้องทน!
คิดไว้อย่างเดียวแค่ว่าคุณเปลี่ยนพวกเขาไม่ได้หรอก แต่คุณเปลี่ยนงานได้นะ
ความเห็น 61
One Surapan 💓🥳🎄🎀
BEST
4 ข้อที่ว่ามามีทุกที่ครับ งาน-เจ้านาย-เพื่อนร่วมงาน//ที่สำคัญก่อนจะทำอะไร มองคนข้างหลังที่เขายังรอความหวังกับคุณ
19 มิ.ย. 2562 เวลา 10.49 น.
Por
BEST
นึกถึงหนี้สินเข้าไว้ สี่ข้อที่ว่ามานี้เบาๆเลย
19 มิ.ย. 2562 เวลา 10.38 น.
Serina
BEST
กูไม่ออก ออกไปแล้วกูจะเอาอะไรแดก
(นิยามลัดดาแลน)
19 มิ.ย. 2562 เวลา 11.06 น.
...noi...
มีงานทำดีกว่าตกงานนะคร้าบ
19 มิ.ย. 2562 เวลา 11.26 น.
ชุติมา
ผ.อ.ผู้จัดการ.หัวหน้าแผนก.แม่งเจ้านายเยอะ.บางครั้งคิดตรูจะฟังใครสั่งและทำตามใครดี.แต่ทำตามหน้าที่เรา.ต้องแข็งนิดๆไม่งั้นทำตายเลยหน้างอก็ไม่ได้ต้องยิ้มสู้..ด่าได้แต่ขอในใจนะ.555555
19 มิ.ย. 2562 เวลา 11.24 น.
ดูทั้งหมด