เมื่อวานนี้ (5 ธันวาคม 2562) นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานคณะกรรมการบริหาร และ เลขาธิการคณะกรรมการอำนวยการ ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ในนามตัวแทนภาคีได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีการล้มกรรมาธิการศึกษาผลกระทบมาตรา 44 พร้อมเตือนอำนาจนอกระบบ โดยถ้อยแถลงระบุว่า
เนื่องด้วยสภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมากฝ่ายรัฐบาลปฏิเสธการเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามมาตรา 44 ซึ่งรวมไปถึงการศึกษาผลกระทบและหาแนวทางแก้ไขผลจากประกาศและคำสั่งคณะรัฐประหารคณะต่าง ๆ และศึกษาผลกระทบและความเหมาะสมของกฎหมายที่บัญญัติโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางแก้ไขผลกระทบต่างๆและเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากประกาศและคำสั่งต่างๆของ คสช
ขอเตือนท่านสมาชิกรัฐสภาอย่าตกเป็นเครื่องมือของแผนอันแยบยลซับซ้อนของผู้ที่ต้องการสถาปนาระบอบอำนาจนิยมด้วยการทำลายภาพพจน์ของรัฐสภา และ สร้างให้เกิดสถานการณ์ว่า “รัฐสภา” ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้ เมื่อมีการสร้างสถานการณ์ต่างๆและเงื่อนไขต่างๆไปถึงจุดหนึ่งก็จะมีการใช้อำนาจนอกระบบหรือการรัฐประหารมาระงับเหตุการณ์ที่ฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตยสร้างสถานการณ์ขึ้นมา แล้วพวกเราประชาชนชาวไทยทั้งหลายก็จะไม่มีเวทีรัฐสภาที่มาจากประชาชนไปอีกนาน “ประชาธิปไตย” ก็จะถูกพรากไปจากประชาชนและ “ลูกหลาน” ของพวกเราทุกคน “สิทธิเสรีภาพ” จะถูกปิดกั้นคุกคามเฉกเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในอดีต รัฐธรรมนูญที่ไม่ได้ประชาธิปไตยเท่าไหร่นักจะถูกแทนที่ด้วยระบอบการปกครองแบบเผด็จการที่เป็นไปตามอำเภอใจของคณะรัฐประหาร ขอให้ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านดำเนินการต่างๆด้วยความรัดกุมรอบคอบเพื่อช่วยกันประคับประคองให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขได้เดินหน้าต่อไปด้วย
ประกาศและคำสั่งต่างๆตามมาตรา 44 ของหัวหน้า คสช นั้นไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐและนิติธรรม ไม่เป็นไปตามหลักแบ่งแยกอำนาจ การปรับแก้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ให้เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย และ หลักนิติรัฐนิติธรรม เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรงต้องแก้ไขและลบล้างผลพวงของรัฐประหาร สิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความสมานฉันท์ปรองดองในอนาคตภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคนมีส่วนร่วม
เมื่อสภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมากฝ่ายรัฐบาลไม่ทำหน้าที่และไม่ใช้เวทีของรัฐสภาในการศึกษาและเยียวยาผลกระทบอันเกิดจากประกาศและคำสั่งในสมัยเผด็จการรวมทั้งยกเลิกคำสั่งตามมาตรา 44 ที่ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสังคม ทาง ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย จะได้ร่วมกับองค์กรประชาธิปไตยและองค์กรภาคประชาชนต่างๆหารือเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการศึกษาผลกระทบจากมาตรา 44 และ รวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อเสนอเป็นกฎหมายเยียวยาผลกระทบจากมาตรา 44 และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้ง ลบล้างผลพวงของการรัฐประหาร ต่อไป การปกครองนั้นจะดำเนินไปไม่ได้ หากปราศจากความยุติธรรม กฎหมายหรือคำสั่งที่กำหนดด้วยอำนาจรัฐเผด็จการย่อมขาดความชอบธรรมในการบังคับใช้กับประชาชนเมื่อประเทศเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบการปกครองที่ประชาชนมีสิทธิมีเสียงเพิ่มขึ้น ประชาชนย่อมมีสิทธิในการฟ้องร้องคดีต่อศาลได้ในกรณีถูกอำนาจรัฐเผด็จการกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรมหรือจับดำเนินคดีโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม และการใช้อำนาจรัฐตามมาตรา 44 โดยไม่สมควรแก่เหตุสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนและภาคเอกชนต้องได้รับการแก้ไขตามวิถีทางแห่งกฎหมายตามมาตรฐานสากล
กฎหมายต่างๆรวมทั้งรัฐธรรมนูญ คือ การแสดงออกถึงเจตจำนงของประชาชนในชาติผู้เป็นเจ้าของประเทศ กฎหมายต้องบังคับใช้กับทุกคนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน ทุกคนจะเคารพกฎหมายมากขึ้นเพราะสังคมปกครองโดยกฎหมายที่ทุกคนมีส่วนร่วม ความสันติสุขจักบังเกิด พร้อมความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของชาติ
ขณะนี้ยังมีญัตติสำคัญที่ต้องพิจารณาในลำดับถัดไป คือ การขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งรวมไปถึงการศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในส่วนของกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนนั้น ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรผ่านประธานรัฐสภาให้จัดตั้ง “เวทีถกแถลงแห่งชาติเพื่อรัฐธรรมนูญของทุกคน” เพื่ออำนวยให้เกิดการแสดงออกอย่างเสรี เป็นธรรม และปลอดภัย โดยเวทีนี้จะมีหน้าที่สำคัญคือ จัดการถกแถลงรัฐธรรมนูญอย่างกว้างขวางทุกจังหวัด และประมวลความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งรวมไปถึงความกังวล ความต้องการ และความคาดหวัง เพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและสาธารณชนต่อไป จนบัดนี้ได้ล่วงเลยเวลามาตามสมควรแล้ว ทาง ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยจึงขอทวงถามถึงความคืบหน้าในการจัดตั้ง “คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ” และ ข้อเสนอให้จัดตั้ง “เวทีถกแถลงแห่งชาติเพื่อรัฐธรรมนูญของทุกคน” และ ทางภาคีฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐสภาจะได้ตระหนักถึงการทำหน้าที่สำคัญดังกล่าวเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชน
ทาง ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสังคมไทยจะได้ร่วมกันสร้าง “รัฐธรรมนูญ” ฉบับใหม่ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างสปิริตประชาธิปไตยของระบบการเมืองและระบบกฎหมายของไทย
ความเห็น 17
Atomic Boy
เมื่อถึงวันที่ประชาชนทนไม่ไหวอีกต่อไป ทั้ง ประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย อย่าปัดความรับผิดชอบที่ทั้ง 2 พรรคช่วยอุ้มชูระบอบเผด็จการของ พลังประชารัฐและ 3 เผด็จการที่ต้องการสืบทอดอำนาจโดยไม่เห็นหัวประชาชนก็แล้วกัน #โคตรผิดหวังกับประชาธิปัตย์ที่สุด
06 ธ.ค. 2562 เวลา 01.52 น.
PUnakhonbelieve
ก่อนเลือกตั้งมันบอกให้รับๆไปก่อน ค่อยแก้ภายหลังแล้วเป็นไง
06 ธ.ค. 2562 เวลา 02.27 น.
Pat
จะเข้า กะลียุคแล้ว ทหารจะคุมประเทศยาว ไป ยีสิบปี ลูกหลานจะกินอะไรกัน
06 ธ.ค. 2562 เวลา 02.14 น.
5009
การเมือง,คนมีอำนาจ,ทหาร,ตำรวจ,ข้าราชการและคนมีเงินหลายตระกูลบ้านเรา สารเลวเอื้อกัน ให้กัน หลงอำนาจหาผลประโยชนให้กับตัวเองและพวกพ้องจนเป็นสันดาน ติดเข้าไปในสายเลือดไม่รู้จักคำว่าไม่ คำว่าพอ แล้วคนที่เดือดร้อนคือปชช.ส่วนใหญ่ ประเทศก็ไม่เจริญก้าวหน้าไปในทิศทางที่ถูกที่ควร คนมีรู้จักพอสักทีเถอะ
06 ธ.ค. 2562 เวลา 02.44 น.
aof
คนนี้อยู่รายกลุ่มจัง
06 ธ.ค. 2562 เวลา 02.47 น.
ดูทั้งหมด